17 ก.ย. 2023 เวลา 07:22 • ท่องเที่ยว
Groveland

Trip#35 USA National Park - Day 1 BKK - San Francisco

Summary
1. เที่ยว USA รอบที่แล้วเราไป Griffith Observatory ใน LA, Hoover Dam, Grand Canyon, Antelope Canyon, Horseshoe Bend, Glen Canyon Dam Overlook……….
2. แต่ยังเที่ยว national park ที่สำคัญๆ ในโซนนี้ยังไม่ครบ เลยต้องมาอีกรอบค่ะ
3. หน้าตาของแผนเที่ยวรอบนี้เป็นแบบนี้ค่ะ
Day 0 : BKK - San Francisco
Day 1 : San Francisco - Groveland
Day 2 : Groveland - Yosemite
Day 3 : Yosemite - Las Vegas - Red Rock Canyon
Day 4 : Zion National Park
Day 5 : Bryce Canyon National Park
Day 6 : Monument Valley Tribal Park
Day 7 : Arches National Park - Salt Lake City
Day 8 : Salt Lake City - San Francisco
Day 9 : San Francisco - BKK
4. ทริปนี้เป็นการขับรถเที่ยวเหมือน USA 1 ค่ะ รับรถที่สนามบิน San Francisco คืนรถที่สนามบิน Salt Lake City ใช้บริการของ Avis... เราไม่ได้ค่าโฆษณาใดๆ นะคะ
5. ว่าแล้วก็ขอเริ่มเลยนะคะ
Day 1 : Bangkok - San Francisco - Groveland
1. งวดนี้ใช้บริการ JAL เหมือนรอบที่แล้วค่ะ ติดใจทั้งเรื่องที่นั่งและอาหารค่ะ
ง่วงมาก.....
2. เครื่องออก 08.05 ทำให้ต้องมาถึงตั้งแต่เช้ามืดค่ะ มาถึงก่อนตั้งเกือบ 4 ชม. เพราะได้ข่าวว่ากำลังปรับปรุงจุด x-ray กระเป๋าค่ะ จะได้ไม่ต้องเข้าคิวนาน
3. counter check in ของ JAL เปิดก่อน 2 ชม.ครึ่งค่ะ หลังจาก check in เรียบร้อยก็เข้าไปหาอะไรกินด้านในค่ะ
4. จบที่ Burger King อีกเช่นเคย
5. จากนั้นก็ shopping นิดหน่อยแล้วก็ไป gate ค่ะ ง่วงมาก เมื่อคืนแทบไม่ได้นอนเลยค่ะ
6. นั่งเครื่องยาวๆ ค่ะ BKK - Narita - San Francisco มีอาหารให้เที่ยวละ 2 มื้อค่ะ
7. ถึงจะเป็น economy แต่อาหารดีมากค่ะ อร่อย สด หลากหลาย ไม่มาก ไม่น้อย กำลังอิ่มค่ะ
8. ซุปมิโสะกับบะหมี่เย็นอร่อยมากค่ะ
9. จาก BKK ไป Narita นี่ไม่ได้ทำไรเลยค่ะ กินกับนอนล้วนๆ
10. หลังจากลงเครื่องที่ Narita เราจะต้องไป x-ray สัมภาระอีกรอบค่ะ งวดที่แล้วคนเดินทางเยอะเสียเวลาไปเกือบๆ 1 ชม.ค่ะ แต่งวดนี้คนน้อยเลยใช้เวลาไม่นาน เราเลยมีโอกาสไปนั่งกินข้าวและซื้อขนมแถวๆ gate
ข้าวหน้าเนื้อ
ข้าวหน้าปลาไหลย่าง
11. ข้าวหน้าเนื้อและข้าวหน้าปลาไหลร้าน Yashinoya ค่ะ
12. หลังจากขึ้นเครื่องก็ตาม step เลยค่ะ เสริฟ์ของว่างและอาหารเย็นค่ะ
13. หลับๆ ตื่นๆ ตลอดทางค่ะ เมื่อยก้นสุดๆ
ถึงแล้วๆๆๆๆๆ
14. ถึงจะเมื่อยแต่โชคดีได้เห็น Golden Gate Bridge ในมุมสูงสุดๆ เลยค่ะ
15. รอบนี้ท่าทางคนเดินทางเข้า USA น้อยจริงๆ ค่ะ ที่ immigration ก็โล่งค่ะ ใช้เลยไม่ถึงครึ่งชม.ก็ออกมาแล้วค่ะ
16. หลังจากรับกระเป๋าเรียบร้อยก็เดินไปขึ้น AirTrain เพื่อไปรับรถที่เช่าไว้ค่ะ
17. AirTrain มี 2 สายค่ะ สีแดงกับสีฟ้า สีแดงจะวิ่งวนรอบๆ เขตสนามบิน
18. ส่วนสีฟ้าจะมีเพิ่มสถานี West Field Road, Rental Car Center และ Long-Term Parking
19. เรานั่งสีฟ้าไปเพื่อไปรับรถที่เช่าไว้ค่ะ
20. ที่สถานีนี้จะมีรวมบ.รถเช่าหลายๆ บ.ไว้ที่เดียวกันค่ะ เข่าบ.ไหนไว้ก็ไปเข้าคิวบ.นั้น
Park Smart!!!
21. ทุกบ.จะมีป้ายเตือนเลยค่ะว่าอย่าทิ้งอะไรไว้ในรถ ไม่ว่าจะเล็กจะใหญ่ มีค่าหรือไม่มีค่า ไม่งั้นโดนทุบกระจกเพื่อขโมยค่ะ
22. แล้วพวกขนม เสื้อกันหนาว แว่นกันแดด น้ำขวด.... จะโดนไหม คือโจรอาจจะไม่สนใจ แต่ของเหล่านี้เป็นที่ต้องการของพวก homeless ค่ะ
23. ดังนั้นถ้าจะเที่ยวในตัวเมือง จอดรถไว้ที่รร.แล้วใช้ขนส่งสาธารณะปลอดภัยกว่าค่ะ
24. เราจอง Toyota Rev4 ไว้ จนท. ถามว่าสนใจจะ upgrade เป็น Jeep Wrangler Sahara 4xe ไหม เพิ่มตังวันละ 15 usd เรากับแฟนรีบตกลงเลยค่ะ
ได้น้องเจี๊ยบมาแทนน้องราฟ
น้องเจี๊ยบ....
25. สุดท้ายเลยได้เจ้านี่มาขับค่ะ รถใหม่ ไมล์แค่ 2656 เอง
26. อย่าลืมทำประกันให้คลอบคลุม อย่าลืมถ่ายรูปรถรอบคันก่อนขับออกไป
27. ครั้งที่แล้วตอนคืนรถเราหาปั๊มเติมน้ำมันไม่ได้ เลยโดน charge เพิ่ม ครั้งนี้เราเลยเลือกว่าจะส่งรถคืนแบบ empty tank ค่ะ
28. ถ้าเลือก empty tank Avis จะเก็บค่าน้ำมันที่ราคาตลาดค่ะ ไม่มี charge เพิ่ม
29. หลังจากตรวจเช็ครถเรียบร้อยแล้ว จุดหมายต่อไปคือไปซื้อเสบียงที่ Walmart ค่ะ
Dorayaki
30. ระหว่างทางก็กินขนมที่ซื้อจากญี่ปุ่นแก้หิวไปค่ะ dorayaki อร่อยมากกกกกกกกก หมดกล่องไปอย่างรวดเร็ว
31. ของที่ห้ามลืมซื้อเลยคือน้ำเปล่าค่ะ เราซื้อน้ำขวดเล็กตุนไว้ 48 ขวดเลย นอกนั้นก็เป็นพวกขนม คุ๊กกี้ ถั่ว.... เอาไว้กินแก้ง่วงตอนขับรถและตอนหิวค่ะ
32. งวดนี้ซื้อไดเป่าผมด้วยค่ะ ไดที่มีอยู่ใช้กับไฟ 110V ไม่ได้ เปิดไม่ติด ซื้อไดสำหรับ 110V ติดไว้เลยดีกว่าค่ะ
รถเยอะจัง
33. จาก Walmart ก็ขับตรงไปที่ Groveland เลย
34. จริงอยู่ที่เมกาจะค่อนข้างเคร่งเรื่อง limited speed แต่เท่าที่ดูขับเกินกันทุกคันแหะ บางทีลังเลว่าสรุปแล้วตูควรขับยังไงดี
35. ถึง Groveland ช่วงเย็นๆ ค่ะ Groveland เป็นเมืองเล็กๆ แนว cowboy หน่อยๆ
36. หน้าตารร.ที่เราพักค่ะ Hotel Charlotte เหมือนที่พักในหนัง cowboy ที่เคยดูเลย
37. รร.มีที่จอดรถไว้ให้บริการค่ะ อยู่ด้านหลังรร. จอดได้ประมาณ 15 คัน มาก่อนได้ก่อน
38. ที่รร.มีร้านอาหารไว้ให้บริการ มีชา กาแฟ ขนมเล็กๆ น้อยๆ ไว้ให้บริการตรง lobby
39. มื้อเช้าเปิดให้บริการ 7 โมง ถ้าใครจะออกก่อนร้านเปิดทางรร.ก็มี muffin วางไว้ให้ที่ lobby ถ้าจะกินก็หยิบไปได้เลยค่ะ ซึ่งวันรุ่งขึ้นเราเองก็หยิบไปกินระหว่างทางค่ะ
40. สำหรับมื้อเย็นถ้าไม่กินที่รร.ก็มีร้าน Irondoor ที่อยู่ฝั่งตรงข้างรร.เป็นทางเลือกอีกร้านนึงค่ะ
39. วันที่เราไปร้านที่รร.คนแน่นค่ะ เลยไปกินที่ร้าน Irondoor แทน
40. Irondoor เป็นร้านกึ่งๆ bar ค่ะ ไม่ได้อึกทึกครึกโครมอะไร เด็กๆ เข้าได้
41. จุดเด่นเลยน่าจะเป็นเพดานร้านค่ะ ที่เห็นเป็ก้อนๆ นั่นน่ะคือแบงค์ 1 usd ค่ะ เยอะจนนับไม่ไหวว่ากี่ร้อยใบ
42. มีสั่ง stake กับ baby back rib ไปคนละจาน หน้าตาอาหารก็จะประมาณนี้ค่ะ
Stake and Sweet Potato Fried
Baby Back Rib and Sweet Potato Fried
43. อร่อยทั้ง 2 จานค่ะ
44. คือถ้าเป็นร้านอาหารที่นี่ไว้ใจเรื่องรสชาติได้ระดับนึงเลยค่ะ ราคาแต่ละร้านก็จะใกล้ๆ กัน ไม่หนีกันมาก
45. อย่าลืมทิปนะคะ ประมาณ 15 - 22% ของราคาอาหารแล้วแต่ร้านค่ะ
46. เท่าที่เรารู้นะคะ พนง.ที่คอยให้บริการเราในร้านไม่มีเงินเดือนขั้นต่ำเหมือนบ้านเรา รายได้ของเขาขึ้นอยู่กับทิปที่เราให้ค่ะ ดังนั้นถึงเราจะไม่ชินกับการจ่ายทิปหนักๆ ขนาดนี้แต่ก็คงต้องจ่ายไปค่ะ น้องเขาจะได้มีรายได้
47. ส่วนใหญ่พนง.ที่มาทำงานในส่วนนี้จะเป็นเด็กๆ ที่กำลังเรียนอยู่หรือไม่ก็กำลังเก็บตังเพื่อเรียนต่อ ถือว่าอุดหนุนการศึกษาของน้องๆ ไปละกันค่ะ
48. กินเสร็จก็ออกมาถ่ายรูปเล่นด้านนอกนิดๆ หน่อยๆ แล้วกลับรร.ค่ะ ง่วงมากและเเหนื่อยกับการเดินทางด้วย เอนหลังปุ๊บนี่หลับปั๊บเลย
49. ลาการเดินทางวันแรกไปด้วยภายบรรยากาศหน้ารร.ค่ะ
เหมือนเมืองร้างเลยแหะ!!!
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ
โฆษณา