18 ก.ย. 2023 เวลา 01:38 • ท่องเที่ยว

17 ที่เที่ยวสายเขียว สายภูเขา

'พ ะ เ ย า - น่ า น'
ฤดูไหนก็ไม่หวั่น แบกเป้เที่ยวกันมันส์ทั้งปี
หลังจากกักตัวมานาน ทุกคนก็คงรู้สึก
เบื่อๆ เซ็งๆ กันไม่น้อย ตอนนี้สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ
ก็กลับมาคึกคักอีกครั้ง แต่หลายๆ คน ก็ยังไม่รู้
จะเริ่มไปเที่ยวที่ไหนในฤดูฝนแบบนี้ดี?
ส่วนตัวผมเอง จะเป็นคนที่ไม่ค่อยได้เที่ยวตามฤดูกาล
สักเท่าไหร่ครับ เอาเข้าจริงๆ ผมก็เลือกที่จะไป
เอาตามฤกษ์สะดวก และความอยากมากกว่า
จะร้อน จะฝน จะหนาวก็ไปแต่ป่าไปแต่ภูเขา
ไปมันทั้งปีนั่นแหละ จะช่วงไหนเดือนไหนก็ไป
เพราะชอบไปมองต้นไม้เขียวๆ บนวิวภูเขาสูงๆ เสียจริง
ส่วนเรื่องสภาพอากาศ ทะเลหมอก หรืออะไรต่างๆ
ก็ต้องบอกว่าแล้วแต่ดวงจะนำพา… ง่ายๆ สั้นๆ
คืออยากไปก็ไปครับ ไม่ต้องคิดอะไรเยอะ
โดยเฉพาะใครที่เป็นสายเขียวสายภูเขาหรือแคมป์ปิ้ง
กลางธรรมชาติ เพราะทริปเเนวนี้เที่ยวได้ทั้งปีเลยแหละ
เราก็เที่ยววนกันไปครับภาคนั้นภาคนี้ เที่ยวยาวๆ ไม่มีเบื่อ
แต่สำหรับทริปนี้ ผมจะขอเน้นไปที่ Route การเดินทาง
เส้นพะเยา - น่าน ที่ถือว่าเป็นเส้นทางแห่งสายธรรมชาติ
และป่าเขาอย่างแท้จริง กับ 17 ที่เที่ยวที่ผมได้รวบรวมมา
และอยากแนะนําให้ทุกคนได้ลองตามรอยกัน
ซึ่งบางที่ก็ยังเป็นจุดเช็คอินที่คนยังไม่ค่อยรู้จักกันมากนัก
ไปก่อนก็ได้รูปก่อน แถมยังได้เที่ยวไม่ซ้ำใคร…
แต่การที่ผมนั้นเป็นคนที่ชอบเที่ยวสายเขียวสายภูเขา
แน่นอนเลยครับว่านอกจากเราจะตั้งใจไปหาความสุข
จากธรรมชาติแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องไม่ลืมเห็นความสำคัญ
และห้ามละเลยก็คือ ‘การช่วยกันอนุรักษ์’ ซึ่งปัจจุบันนี้
เราก็จะเห็นว่ามีโครงการดีๆ ที่ช่วยกันรณรงค์เรื่องธรรมชาติ
และสิ่งแวดล้อมกันอยู่ตลอด และอีกหนึ่งโครงการที่
ผมอยากแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกันก็คือ ‘น่านแซนด์บอกซ์’
ซึ่งโครงการนี้มีวิธีคิดแก้วิกฤตการณ์นี้ได้ในระยะยาวด้วย
“การฟื้นฟูป่า” เพราะป่าสามารถแก้ปัญหาเรื่อง
ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้โดยตรง
ซึ่งเป็นการฟื้นฟู ดูแลป่าต้นน้ำในจังหวัดน่าน
โดยความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน และชาวบ้านเอง
เมื่อต้นทางมีต้นทุนที่ดีพื้นที่อื่นๆ ที่ได้รับน้ำก็กลายเป็นป่า
ที่อุดมสมบูรณ์ เป็นสัดส่วนที่มนุษย์และธรรมชาติสามารถ
อยู่ร่วมกันได้แบบช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เมื่อพื้นที่ป่ามีเยอะขึ้น
เรามีจิตสำนึกในการใช้ทรัพยากรมากขึ้น ปัญหาข้างต้น
เหล่านั้นก็คงจะลดลง และเมื่อเอาแนวคิดนี้มาปรับใช้
กับการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวหัวใจสีเขียวอย่างเรา
ก็แทบไม่ต้องทำอะไรเลยครับ.... แค่ไม่จับ ไม่เด็ด ไม่ทิ้ง
ไม่ทำลายธรรมชาติมีความเข้าใจในการอยู่ร่วมกันเท่านี้
ผมเชื่อว่าจะต้องมีที่เที่ยวดีๆ เกิดขึ้นอีกหลายแห่งแน่นอน
มาครับ… ผมขอพาไปชมว่า เที่ยวธรรมชาติ
มันดีต่อใจขนาดไหน...และออกเดินทางไปกับ
ใจที่พร้อมจะช่วยกันอนุรักษ์ธรรมชาติกันเลย 🙂
ผมเองเป็นคนที่มักจะชอบไปเที่ยวในสถานที่ที่เป็นธรรมชาติแบบนี้อยู่บ่อยๆ ขึ้นเหนือล่องใต้มาหลายจังหวัด มีโอกาสได้สัมผัสผืนป่าหลายๆ แห่ง เวลาไปที่ไหนแล้วเห็นป่าไม้ยังคงอุดมสมบูรณ์ ผมก็พลอยรู้สึกดี และอดภูมิใจไม่ได้จริงๆ ที่ประเทศไทยยังคงมีทรัพยากรธรรมชาติที่สวยงามแบบนี้
1
แต่ในหลายพื้นที่ เมื่อการท่องเที่ยวเริ่มเข้าถึง ได้รับความนิยมมากขึ้น แต่ขาดการดูแลที่ดีก็เกิดผลเสียต่างๆ ตามมามากมาย ธรรมชาติถูกทำลายเพียงเพราะความมักง่าย และขาดจิตสำนึกที่ดี หรือบางจังหวัดก็กำลังเจอกับปัญหาป่าไม้ที่ถูกทำลาย มีการรุกล้ำป่าเพื่อปลูกสร้างโรงแรมที่พักต่างๆ
ซึ่งปัญหาเหล่านี้ ต่างก็ส่งผลทั้งทางตรงและทางอ้อมกับโลกของเรา ลองคิดดูเล่นๆ หลายคนอาจจะเคยรู้สึกอยากให้ประเทศไทยหิมะตกบ้างจัง แต่ถ้าเกิดขึ้นจริงๆ ผมว่ามันคงไม่สนุกเลยแหละ เพราะทุกวันนี้โลกเราเจอปัญหาสภาพอากาศแปรปรวนอย่างหนัก ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม – น้ำแล้ง ฝนตกหนัก เกิดพายุมรสุมต่างๆ บ่อยครั้ง รวมทั้งอากาศที่ร้อนมากขึ้นทุกปี รวมไปถึงเหตุการณ์ภัยธรรมชาติแปลกๆ ที่เริ่มจะเกิดขึ้นให้เราเห็นมากขึ้นทุกวัน เช่น ไฟไหม้ป่าที่ออสเตรเลียกินเวลาเป็นเดือนๆ
หรือปรากฎการณ์ Polar Vortex ที่เมืองกลายเป็นน้ำเเข็งในสหรัฐอเมริกา ซึ่งก็ล้วนเกิดจากภาวะโลกร้อนจนโลกเราเสียสมดุลทางสิ่งแวดล้อมไปแล้วนั้นเอง หรือที่บ้านเราประสบปัญหาก็คือภาวะ PM2.5 อีกทั้งภัยแล้ง อย่างเหตุการณ์ไฟป่าที่เชียงใหม่เมื่อต้นปี ซึ่งส่งผลกระทบต่อหลายชีวิต ทั้งเรื่องสุขภาพ และสภาพเศรษฐกิจอีกด้วย
สิ่งสำคัญที่อยากให้ทุกคนนึกถึงอยู่เสมอ ว่าอย่าลืมที่จะหันมาใส่ใจดูแลสิ่งแวดล้อม ดูแลธรรมชาติและป่าไม้รอบตัวกันเยอะๆ นะครับ อย่าละเลย อย่าทำลาย จนอะไรๆ อาจจะสายเกินแก้ ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวันแม้เพียงเล็กน้อย แต่มันอาจจะส่งผลกระทบอันรุนแรงต่อโลกของเราในอนาคตอันใกล้ และไม่อยากให้มองว่าเป็นเรื่องที่ไกลตัวเลย เพราะจริงๆ แล้ว มันอาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ และใกล้ตัวกว่าที่เราคิดก็ได้
ถ้าโลกของเราพูดได้…โลกก็คงอยากจะบอกกับเราว่า 'ตอนนี้กำลังเหนื่อยล้า และค่อยๆ ป่วยลงทุกวันแล้วนะ ช่วยดูแลเราหน่อยได้มั้ย ?'
มันคงเป็นเรื่องน่าเศร้าน่าดู ถ้าเราหันหลังกลับมาแล้วจะไม่มีโลกที่น่าอยู่ และธรรมชาติที่สวยงามเหล่านี้ให้เราได้พักพิงใจกันอีกต่อไปแล้ว…
01 : อ่างเก็บน้ำถ้ำสะเกิน หรือ อ่างน้ำงิม
พิกัด : อุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกิน
เปิดสถานที่ของทริปรวมที่เที่ยวเอาใจสายเขียว สายภูเขา ณ จังหวัดพะเยา-น่าน กันด้วยที่ ‘อ่างเก็บน้ำถ้ำสะเกิน’ ระหว่างเส้นทางที่ขับไปยังอ่างเก็บน้ำนั้น ก็มีหมอกลอยคลุ้งสวยงามมากๆ เป็นเส้นทางที่ได้ขับรถทะลุหมอกกันเลย ซึ่งผมเองก็มีโอกาสได้มาเยือนที่นี่ทั้งในช่วงที่มีน้ำ
และในช่วงน้ำน้อยซึ่งก็จะให้อารมณ์ในการท่องเที่ยวที่ต่างกันออกไป ในช่วงที่มีน้ำก็ได้อารมณ์ของความชุ่มฉ่ำ เขียวขจี หรือถ้าจะมาในช่วงที่น้ำน้อย บริเวณนี้จึงกลายเป็นทุ่งหญ้าโล่งกว้าง ซึ่งมองซ้ายมองขวาแล้วบรรยากาศดีจริงๆ เหมาะกับการมาตั้งแคมป์ท่ามกลางธรรมชาติกับชาวแก๊งค์
02 : ถ้ำสะเกิน
พิกัด : อุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกิน
หลังจากที่เราชมวิวสวยของอ่างเก็บน้ำสะเกินกันไปแบบจุใจแล้ว เราก็ขับรถไปที่ถ้ำสะเกินกันครับ ซึ่งถ้ำแห่งนี้จะอยู่บริเวณแถวๆด้านหน้าทางเข้าอุทยานถ้ำสะเกินเลยครับ สำหรับทางเดินเข้าไปถ้ำนั้น ระยะทางไม่ไกลเลยครับ ประมาณ 500 เมตร แต่ทางจะชัน แบบเดินขึ้นเข้าไปเรื่อยๆ เพื่อไปชมถ้ำด้านใน ก็มีเหนื่อยมีหอบอยู่เหมือนกัน 5555+ เมื่อเดินเข้ามาถึงในถ้ำกันแล้ว... ก็มีมุมสวยๆ เท่ๆ ให้ได้ถ่ายรูปกันด้วย ตรงจุดนี้ยืนมองออกไปจากปากถ้ำก็จะเห็นวิวป่าอยู่ไกลๆ
03 : สวนยาหลวง
พิกัด : บ้านสันเจริญ อ.ท่าวังผา จ.น่าน
หลังจากที่เราลงจากถ้ำมานั่งพักดื่มน้ำให้พอได้หายใจหายคอกันได้สักพัก พี่นัทก็ขอพาผมไปตะลอนต่อกันที่สวนยาหลวงเลยครับ หลายคนอาจจะเคยเห็นวิวสวนยาหลวงแบบมีหมอกยามเช้ากันไปแล้ว ลองมาดูบรรยากาศสวนยาหลวงในตอนเย็นๆ กันดูบ้างครับ รับรองว่าเด็ดไม่แพ้กันเลย
ด้วยความที่เส้นทางขึ้นดอยนั้นจะค่อนข้างมาได้ยากหน่อย แนะนำว่าควรมีคนในพื้นที่พามา และควรจะมาด้วยรถ 4x4 จะดีที่สุดครับ สำหรับการเดินทางมาที่สวนยาหลวงนี้จะสามารถขึ้นได้ 2 ฝั่งนะครับ คือจะมาจากฝั่ง อ.ท่าวังผา จ.น่าน หรือ อ.ปง จ.พะเยา ก็ได้ เพราะว่าเป็นพื้นที่เชื่อมต่อกัน 2 จังหวัด
04 : บ้านมณีพฤกษ์
ที่หมู่บ้านมณีพฤกษ์นี้ เป็นหมู่บ้านเล็กๆที่อยู่ใจกลางภูเขา ทั้งชาวบ้านและผู้คนที่นี่ก็น่ารักมาก จะมีโฮมสเตย์ สำหรับบริการนักท่องเที่ยวด้วย ก็จะเป็นโฮมสเตย์แบบกินนอนง่ายๆ ในบ้านไม้เล็กๆ 1 หลัง ในราคาคืนละ 500 บาท บรรยากาศที่นี่ดีจริงๆ ครับ ธรรมชาติมาก ตกกลางคืนก็ออกมาผิงไฟกันหน่อย
หรือจะเข้าไปชมน้ำตกกันในป่าลึกอย่าง 'น้ำตกน้ำเปิน' ที่ต้องนั่งรถอีแต๋นเข้าไปกัน ค่ารถประมาณ 1,000 บาท เส้นทางก็ลุยดินลุยโคลนสุดๆ ครับ หลังจากนั้นก็เดินเท้าต่ออีกหน่อย รับรองว่าจะต้องได้ลุยกันสมใจเลยครับ 5555+
หลังจากกลับเข้ามาที่หมู่บ้าน ก็ไปแวะร้านกาแฟเล็กๆ น่ารักๆ ภายในหมู่บ้านกันหน่อยกับร้าน 'Kluay Hidden Cafe' กับเจ้าของร้านชื่อเดียวกับร้านก็คือ 'พี่กล้วย' และเป็นผู้ดูแลเรื่องการท่องเที่ยวของหมู่บ้านมณีพฤกษ์ เสน่ห์ของร้านกาแฟเล็กๆแห่งนี้คือการดริปกาแฟให้ชมกัน และกาแฟเกอิชาที่เป็น Signature ของร้าน ที่คอกาแฟไม่ควรพลาด
05 : ดอยผาผึ้ง
พิกัด : บ้านมณีพฤกษ์ อ.ทุ่งช้าง จ.น่าน
สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นจุดชมหมอกสวยๆ อีกจุดนึงของจังหวัดน่านอย่าง 'ดอยผาผึ้ง' ก็เป็นอะไรที่ถ้ามาแล้วต้องมาเยือนกันครับไม่งั้นจะเหมือนมาไม่ถึง ถ้าเป็นเมื่อก่อน เวลาจะมาดอยผาผึ้งต้องเดินเท้าขึ้นมา แต่ตอนนี้รถขึ้นมาถึงข้างบนเลยนะครับ ไม่ต้องเดินให้เหนื่อยให้เมื่อยกันละ เหลือๆ แรงวิ่งเล่นถ่ายรูปกัน หากมาในช่วงหน้าฝนก็ต้องเดินทางด้วยรถอีแต๋นขึ้นไปด้านบน ค่าเดินทางก็ 1,000 บาทครับ ราคานี้รวมพาเที่ยวที่ถ้ำผาผึ้งด้วยอีกหนึ่งแห่ง แต่ถ้ามีนักท่องเที่ยวท่านอื่นๆมาด้วยก็หารค่าเดินทางกันไปได้เลยครับ
06 : ถ้ำผาผึ้ง
พิกัด : บ้านมณีพฤกษ์ อ.ทุ่งช้าง จ.น่าน
เอาละครับหลังจากที่เราไปชมหมอกกันบนดอยผาผึ้งแล้ว ต่อไปพี่คนนำเที่ยวก็จะพาเราไปต่อกันที่ 'ถ้ำผาผึ้ง' ครับ และแน่นอนครับสถานที่ลึกลับซ่อนอยู่ในป่า เราก็ต้องลุยๆเท้าเข้าไปกันหน่อย ท่ามกลางเส้นทางที่อุดมสมบูรณ์ เห็นแล้วสดชื่นจริงๆ ซึ่งภายในถ้ำก็จะมีมุมช่องให้แสงลอดผ่านถ้ำส่องเข้ามาดูสวยงาม และมีบันไดทอดยาวให้เราเดินลงไปยังด้านล่างได้เลย ถ้าใครมาที่นี่ และเป็นสายแอดเวนเจอร์ผมแนะนำว่าอยากให้เพิ่มที่นี่ลงในลิสอีกสักแห่ง น่าจะถูกใจแน่นอน
07 : อำเภอบ้านหลวง
เมื่อทุกวันนี้ น่านกลายเป็นจังหวัดยอดฮิตกลายเป็นทริปเที่ยวเหนืออันดับต้นๆ เรียกว่า Hot จริงจัง และบูมขึ้นมากในช่วงที่ปีผ่านมา แบบอะไรก็ฉุดไม่อยู่จริงๆ แต่ทริปน่านของผมในวันนี้ จะขอฉีกกฎออกจากการเที่ยวน่านแบบเดิมๆ ขอเที่ยวน่านนอกกระแส เพื่อตามหาจุดหมายปลายทางใหม่ในแบบที่ยังไม่ค่อยมีใครมาสัมผัสกัน
ผมจึงขอเปลี่ยนทิศทางการเที่ยวของผมมาที่ อำเภอบ้านหลวง ซึ่งเป็นอำเภอเล็กๆ ใน จ.น่าน แต่ก็มีอะไรที่น่าสนใจแอบซ่อนอยู่ เหมาะกับคนที่ชอบความ 'Slow Life' และ 'ความสงบ' ที่แท้จริง เพราะที่นี่ไม่ได้มีนักท่องเที่ยวที่จอแจมากมายยังคงไร้ซึ่งการปรุงแต่ง ทุกอย่างคือความเดิมๆ ทั้งความเป็นอยู่ วิถีชีวิต และความเรียบง่าย
08 : อ่างเก็บน้ำห้วยสีพัน
เรียกว่าเป็นสถานที่ในบ้านหลวงที่ผมนั้นประทับใจนั่นก็คือ ‘อ่างเก็บน้ำห้วยสีพัน’ ด้วยความบังเอิญที่ขับรถผ่านมาจากเส้นสะเนียน-บ้านหลวง ก็แอบเหลือบไปเห็นแอ่งน้ำ ก็เลยตั้งใจไว้ว่าจะมาเก็บบรรยากาศยามเช้าให้ได้ เพราะสังเกตจากสภาพแวดล้อมแล้ว ก็คิดว่ายามเช้าจะต้องมีหมอกแน่ๆ 5555+
และแน่นอนครับ...เมื่อผมกลับมาตรงนี้อีกครั้งในยามเช้า บรรยากาศนั้นสวยงามมาก หมอกลอยคลุ้งไปทั่ว และค่อยๆ พัดพามาจากทิศทางรอบๆ จนมารวมกันอยู่ที่จุดนี้ ยิ่งยามที่หมอกนั้นต้องแสงแดด ก็ยิ่งสวยมากจริงๆ
09 : อำเภอปัว
'ปัว' เมืองกลางหุบเขาที่ใครๆ ก็ตกหลุมรัก และชอบในความเขียวขจีของเมืองนี้ใช่มั้ยครับ เมื่อคิดถึง 'ปัว' ใครๆ ก็คิดถึง 'ทุ่งนา' แล้วถ้าปัวแบบไม่มีนาล่ะ ? จะเป็นอย่างไร ? หลายๆคนอาจจะยังนึกภาพไม่ออกกันแน่นอนเพราะไปเยือนทีไร ก็ต้องหามุมไปถ่ายรูปคู่กับทุ่งนาไม่งั้นใครๆ จะว่ามาไม่ถึง ซึ่งจริงๆ แล้วที่ปัวก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง เช่น…
+ วังน้ำปัว
+ วัดร้องแง
+ วัดภูเก็ต
+ กำแพงเมืองปัว
+ อ่างเก็บน้ำห้วยปลาก้าง
+ ไร่ต้นรักออแกนิคฟาร์ม
+ น้ำตกศิลาเพชร
+ ร้านกาแฟไทลื้อ
+ หาดจื่นใจ๋
+ สะพานเจดีย์ชัยพัฒนา
10 : ตูบนา โฮมสเตย์
สำหรับใครที่หลงรักที่พักฟีลลิ่งแบบกระท่อมน้อยบ้านทุ่ง ผมว่าน่าจะชอบที่นี่กันแน่ๆ ตูบนา โฮมสเตย์ คืออีกที่พักหนึ่งที่เป็นจุดหมายปลายทางยอดฮิตของคนที่อยากมาพักผ่อนกับวิวทุ่งนา แล้วถ้ามาในช่วงนี้ล่ะจะสวยมั้ย ?
ผมว่าขอไม่พูดมากดีกว่า อยากให้ดูจากสวนดอกไม้แล้วจินตนาการเอาเลย 5555+ ห้องพักที่นี่วิวเค้าดี๊ดีนะครับเนี่ยยย ถึงจะไม่มีทุ่งนา แต่ว่าความสวยงามไม่ได้ลดลงเลย
11 : ตูบน้ำปัว แคมป์ปิ้ง
ที่นี่จะเป็นทั้งที่พักแบบเต็นท์ริมน้ำ และจุดแวะนั่งทานอาหารริมน้ำตก เจ้าของใจดีมากกก บริการเป็นกันเอง บรรยากาศก็สงบ ร่มรื่น
ถ้าใครที่นึกภาพตัวเองกำลังนอนเอนกายให้ธรรมชาติได้บำบัด สายธรรมชาติ และคนรักชอบบรรยากาศ Camping นี่อยากให้ลองมาสัมผัสบรรยากาศที่นี่ดูครับ ในยามค่ำคืนเราก็จะนอนหลับพริ้มไปภายใต้ผืนดาว และฟังเสียงน้ำที่ไหลผ่านไปเรื่อยๆ ให้เป็นเหมือนเสียงเพลงที่บรรเลงกล่อม ก่อนนอนให้ค่อยๆ หลับตาลง…
12 : ภูอานม้า
พิกัด : บ้านหนองห้า อ.เชียงคำ จ.พะเยา
เป็นจุดชมวิว ชมทะเลหมอกที่สวยงามอีกแห่งของพะเยา สำหรับการเดินทางไปที่ภูอานม้านี้ ระยะทางจะห่างจากภูลังกาประมาณ 40 กิโลได้ ซึ่งทางเข้านั้น แอดเวนเจอร์สุด อะไรสุดดดด คือต้องรถแบบ 4x4 พร้อมลุยเท่านั้นโดยเราจะขับรถไปจอดไว้ที่ตีนเขา เสร็จแล้วก็เดินไปต่ออีก 500 เมตรเพื่อชมวิวแบบ 360 องศา ที่สวยสะกดใจ...
13 : ผาช้างน้อย
พูดถึงภูลังกา ใครๆ ก็คงคุ้นหูชื่อนี้ กับวิวที่มุมติดตา และใฝ่ฝันว่า ‘เอาวะ สักครั้งต้องไปเห็นด้วยตาตัวเองให้ได้’ แต่เชื่อเถอะครับ ร้อยละ 90 ของคนจะเที่ยวเหนือ มักจะรอให้ถึงหน้าหนาวเสียก่อน หรือให้พ้นสักช่วงตุลาเป็นต้นไป คือถ้าไปช่วงนั้น โอ้วววว...คนท่วมครับ เอาจริงๆ หมอกที่นี่ไม่ได้มีแต่หน้าหนาวนะครับ เอาเป็นว่าถ้าช่วงเวลาประจวบเหมาะ เราก็หาโอกาสมาเยือนกันได้ทั้งปี
ถ้าใครที่อยากมาเที่ยวแล้วอยากได้บ้านพักที่มองเห็นวิวภูลังกาแบบชัดๆเต็มตา ผมแนะนำให้ลองมาพักที่ ‘บ้านทะเลหมอก’ กันดูครับ เพราะตั้งอยู่หน้าจุดชมวิวเลย ที่นี่จะมีทั้งที่พัก, ร้านกาแฟ และอาหารให้บริการกันครับ ใครผ่านมาผ่านไป ไม่ได้มานอนแต่แวะมาจิบกาแฟ กินหมูกระทะชมวิวสวยๆ ก็ได้นะ
14 : ถนนลอยฟ้า ROUTE 1148
ลองหลับตา...แล้วจินตนาการถึงภาพการขับรถเที่ยวท่ามกลางธรรมชาติและสายหมอก จนเหมือนว่ารถของเรากำลังวิ่งไปเรื่อยๆ บนเส้นทางลอยฟ้า ระหว่างอำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน และอำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเส้นทางที่มีความสวยงามเส้นทางหนึ่ง มีระยะทางประมาณ 113 กิโลเมตร
ผมเชื่อว่านี่คงเป็นภาพการเดินทางแบบ Road trip ในฝันของใครหลายๆ คน รวมทั้งตัวผมเองด้วยเช่นกัน เมื่อภาพในฝัน ได้กลายเป็นภาพแห่งความจริง ขับรถตะลุยทุกเส้นทาง และมิตรภาพจากเพื่อนร่วมทาง มันคืออีกหนึ่ง 'ประสบการณ์' ที่จะประทับใจไม่รู้ลืม
15 : อ่างเก็บน้ำแม่ต๋ำ
อ่างเก็บน้ำแม่ต๋ำ ซึ่งจะอยู่เลย บขส.เชียงคำมาประมาณ 10 กิโลได้ครับ ซึ่งผมก็หาเช่ารถสองแถวพาเที่ยวสักหน่อย เหมาคันไปครับ ราคาอยู่ที่ 200-300 บาท วนไปมารอบๆ พาแวะเที่ยวประมาณ 4-5 จุดในละแวกเดียวกัน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งมุมของพะเยาที่ผมชอบมากครับ ไม่เคยคิดเลยครับว่าอารมณ์แบบนี้ สถานที่แบบนี้นี่คือประเทศไทย ที่ครั้งนึงเคยอุณหภูมิสูงถึง 40 กว่าองศา
ทุกๆ อย่างรอบตัวมันดูเย็นๆ ชุ่มฉ่ำ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ประเทศเมืองหนาว แต่ความสวยงามอยู่ใกล้แค่นี้ ซึ่งปกติก็จะมีให้ล่องแพกันด้วย ใครมาแถวนี้ลองมาสอบถามกันดูได้ครับ
16 : Magic Mountain
ร้านกาแฟเล็กๆ ที่วิวไม่เล็กตามขนาดของร้านเลยสักนิด หากใครมีโอกาสได้มาเยือนที่ภูลังกาแล้วก็ ไม่ควรพลาดที่จะต้องแวะมาเยือนกันเลยจริงๆ เพราะสามารถมองเห็นวิวทะเลหมอกของผาช้างน้อย ณ ภูลังกาได้อย่างสวยงามเต็มตาม
17 : อำเภอเชียงม่วน
เมื่อผมเบนเข็มทิศในการเดินทางเสียใหม่และตั้งใจว่าจะมาหาที่เที่ยว ที่พักผ่อนกันใน #อำเภอเชียงม่วน ที่ถือเป็นอำเภอเล็กๆ ที่มองผ่านๆ เเล้วเหมือนจะไม่มีอะไรใน Google เอง ก็ยังมีข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวไม่มากนัก
ผมจึงเริ่มต้นด้วยการขับรถวนหาไปเรื่อยๆ ภายในเชียงม่วน แล้วก็คอยแวะถามจากผู้คนแถวนั้นอยู่เป็นระยะๆ เก็บเล็กผสมน้อย จนกลายเป็นทริปแอ่วเชียงม่วนทริปนี้ขึ้นมา เหมาะกับการแบ็คแพ็คมา Slow life เที่ยวกินบรรยากาศท่ามกลางอำเภอที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ ผู้คนน่ารักๆ และความสงบ ในแบบที่ใจต้องการกันได้ที่นี่
สำหรับสถานที่ที่น่าสนใจก็มีหลายแห่ง เช่น...
+ วัดบ่อเบี้ย
+ น้ำตกธารสวรรค์
+ จุดชมวิวเหมืองแร่ บ้านสระ
+ แก่งหลวง
+ ไดโนเสาร์เชียงม่วน
+ ฝั่งต้า
+ ร้านกาแฟ Sabai D Coffee
+ ร้านขนมจีนบ้านสระ
+ มาย๊ะหยั๋ง เชียงม่วน
+ พระธาตุภูปอ
เป็นยังไงกันบ้างครับ กับทริปเอาใจสายเขียวสายภูเขาใน Route การเดินทางจังหวัดพะเยา-น่าน กับการพาไปลุยในสถานที่ที่มีธรรมชาติสวยงามแบบนี้ ก่อนจะบอกลาทริปนี้ของผมกันไป ก็อยากฝากอะไรไว้กับ ‘นักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ ที่มีหัวใจเป็นสีเขียวทุกคน’ ว่าอย่าลืมหันมาดูแลสิ่งแวดล้อมรอบตัว และป่าไม้ในประเทศของเรากันเยอะๆ นะครับ เพราะจริงๆ แล้ว ปัญหา Climate Change ที่เกิดขึ้นล้วนส่งผลกระทบและกลายเป็นเรื่องใกล้ตัวมากกว่าที่เราคิด
แม้การกระทำเพียงน้อยนิด หาก 1 คนทำอาจจะคิดว่าเรื่องเล็กน้อยไม่เป็นไร....แต่หากคนนับล้านคนคิดแบบนี้เหมือนกัน อะไรๆ ก็ย่อมจะสายเกินแก้ไข ลองเปิดใจเริ่มต้นในการช่วยรักษาธรรมชาติจากตัวเรา ทำวันละเล็กละน้อย แต่รับรองว่านอกจากจะช่วยให้โลกใบโตๆ ของเรานั้นกลับมาเป็นโลกที่ยังคงสวยงามและอุดมสมบูรณ์ได้อีกครั้งแล้ว คุณก็ยังจะได้รับความสุขก้อนใหญ่ จากธรรมชาติที่มอบกลับมาให้คุณเช่นกัน
หากทุกคนอยากร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยดูแลรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้กลับมาสวยงามน่าอยู่ด้วยมือเล็กๆ ของเรา สามารถเข้าไปเรียนรู้เพิ่มเติมกันได้ที่นี่เลยครับ ☺
#ClimateChangeใกล้ตัวกว่าที่คิด #เรียนรู้รักษ์ป่าน่าน
#น่านแซนด์บอกซ์ #คำพูดเปลี่ยนโลก
#คนหลงทาง #เที่ยวน่าน #เที่ยวพะเยา
โฆษณา