Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
วันนี้ของเด็กหงส์
•
ติดตาม
18 ก.ย. 2023 เวลา 08:01 • กีฬา
โค้งแรกของ “ลิเวอร์พูล” ไหวมั้ยกับการลุ้นแชมป์?
By: Colly
ผ่านไปแล้ว 5 นัดสำหรับศึกพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2023/24 ซึ่งหากเปรียบเทียบกับการแข่งรถก็เหมือนกับการผ่านจุดสตาร์ตและเลี้ยวผ่านโค้งแรกของสนามกันมาแล้ว โดย “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ประเดิมซีซั่นใหม่ได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยสถิติชนะ 4 เสมอ 1 เก็บได้ 13 คะแนน เกาะกลุ่มนำบนหัวตารางได้อย่างเหนียวแน่น โดยตามหลังจ่าฝูง “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่ 2 คะแนน (ก็มันชนะรวดนี่เนอะ)
5 นัดที่ผ่านมา การชมเกมของ ลิเวอร์พูล เปรียบเสมือนการเล่นรถไฟเหาะตามสไตล์ของทีม นั่นคือ “ไม่เคยทำให้สบายใจ” 555 คือบทจะแย่ก็แทบขว้างรีโมททิ้ง (เช่นครึ่งแรกของนัดล่าสุด) บทจะดีก็ดีใจหาย (เช่นเกมที่พลิกกลับมาชนะ นิวคาสเซิ่ล) เหมือนกับการได้ดู “สาลิกาดง” ยุคที่ เควิน คีแกน เป็นกุนซืออย่างไงอย่างงั้น คือพร้อมจะกระซวกตาข่ายคู่แข่งได้ทุกทีม แต่ก็พร้อมจะเสียประตูได้ทุกนาทีเช่นกัน
และนี่คือสิ่งที่ผมเห็นใน 5 นัดที่ผ่านมาครับ
1. ขุมกำลังที่มีอยู่มันยังไม่พอ
อันนี้ทุกคนก็น่าจะทราบตั้งแต่ก่อนเริ่มซีซั่นแล้ว เพราะเป้าหมายในการเสริมทัพฤดูกาลนี้มันคือการปรับปรุงแผงกองกลางทั้งกระบิ รวมถึงการหาผู้เล่นแนวรับมาเป็นกำลังเสริมให้บรรดาตัวหลักที่มักจะเจ็บออดๆแอดๆอยู่ซะเรื่อย
ไหนจะตำแหน่งแบ็กขวาที่ไม่มีใครมากดดันตำแหน่งของ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ได้ซักราย จนทำให้พัฒนาการของเจ้าตัวเริ่มจะชะงักงัน เกมรุกน่ะดี แต่เกมรับไม่มีการปรับปรุง ก็จะปรับปรุงทำไมล่ะ แบ็กขวาสำรองไม่มี ยังไงตัวเองก็การันตีตัวจริงอยู่แล้วนี่หว่า
แต่สุดท้าย ลิเวอร์พูล ก็ได้มาแค่กองกลาง 4 ราย (เสียไป 5) ส่วนกองหลัง....ม่ายมี
และผลลัพธ์ของการขาดขุมกำลังสำรองก็เริ่มส่งผลให้เห็นจากเกมล่าสุด โดยกองกลาง อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ เพิ่งกลับมาจากการรับใช้ชาติ ความฟิตไม่ถึง แทบไม่ได้ซ้อมกับเพื่อนเลยก็ต้องลงสนามแล้ว สุดท้ายฟอร์มเลยเละเทะจนโดนเปลี่ยนออก
รวมถึงกองหลังที่กัปตันฟาน ไดจ์ค โดนแบน มาติป แทนที่จะเป็นที่พึ่งพิงให้รุ่นน้องอย่าง จาเรลล์ ควอนซาห์ ดันกลายเป็นภาระซะงั้น ทั้งมาติป, โกเมซ และควอนซาห์ เลยกลายเป็นสลับกันหลุดตำแหน่งจนโดน วูล์ฟส์ ไล่ยำอย่างหนักในครึ่งแรก
ซึ่งก็เชื่อเถอะว่าสถานการณ์แบบนี้จะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย เพราะเหล่านักเตะอเมริกาใต้ก็ต้องบินกลับไปรับใช้ชาติอีกหลายนัด รวมถึงกองหลังที่ต้องมีใครเจ็บแน่นอนตามประวัติของแต่ละคนในหลายซีซั่นที่ผ่านมา ไม่มีใครยืนระยะได้ตลอดรอดฝั่งแหงๆ
ดังนั้น ม.ค.หน้า ถ้ามีโอกาสก็ควรจะซื้อกองหลังบ้างนะ รวมถึงจะได้ถือโอกาสปรับแท็กติกเกมรับให้มันดีกว่านี้ไปด้วยเลย
2. “ดาร์วิน นูนเญซ” โจ๊กเกอร์ราคา 75 ล้านยูโร
ด้วยค่าตัวระดับนี้ ใครๆก็มองว่า นูนเญซ การันตีตัวจริงแน่ๆ แต่ไปๆมาๆเจ้าตัวก็ยังปรับตัวให้เข้ากับแท็กติกของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ไม่ได้
(ไม่สิ ปรับตัวได้แหละ แต่ไอ้แนวรุกคนอื่นมันทำได้ดีกว่า เท่านั้นเอง)
ทีนี้ช่วงหลังเราจึงเห็นว่า JK เริ่มนิยมการใช้แนวรุก 3 จาก 4 คนนี้ คือ โม ซาลาห์, โคดี้ กัคโป, ดิโอโก้ โชต้า และหลุยส์ ดิอาซ เป็นตัวจริงก่อน เพราะไอ้กลุ่มนี้มันประสานงาน-เล่นเป็นทีมร่วมกันได้ดีกว่า เคาะกันไปจ่ายกันมาให้แนวรับคู่แข่งเปลืองพลังงานในการวิ่งไล่บอล พอครึ่งหลัง เรี่ยวแรงเริ่มหดหาย JK ก็จะหย่อน นูนเญซ ลงมาใช้ความเร็วและร่างกายที่แข็งแกร่ง บดขยี้ให้ราบ
ซึ่ง 2-3 นัดที่ผ่านมา แท็กติกนี้มันก็ได้ผลซะด้วย
ทีนี้ นูนเญซจะทำไงล่ะ ก็ต้องรับสภาพและรอโอกาสอยู่ที่ม้านั่งข้างสนามต่อไปนั่นแหละ
คือจะเรียกว่า “ตัวสำรอง” มันก็เรียกได้ไม่เต็มปาก เพราะกุนซือจะใช้ประโยชน์จากเขาแน่ๆ (ไม่ใช่แค่รอใครเจ็บถึงจะได้ลง) ดังนั้น ขอเรียกว่า “นักเตะตัวจริงคนที่ 12” ละกัน 555
นั่นคือ 2 จุดใหญ่ที่ผมเห็นจาก 5 นัดที่ผ่านมา (ไม่นับเรื่อง inverted fullback ของ เทรนท์ ที่เคยเขียนถึงไปแล้ว)
ส่วนสิ่งที่อยากเห็นต่อจากนี้ก็คือฟอร์มการเล่นของเหล่าตัวสำรองและดาวรุ่งทั้งหลาย ที่น่าจะได้รับโอกาสให้โชว์ฝีเท้ากันบ้างในถ้วย คาราบาว คัพ เอฟเอ คัพ และ ยูโรป้า ลีก (บางนัด) ดูซิว่ามีแววจะขึ้นมาเป็นกำลังหลักในอนาคตได้ไหม
ส่วนประเด็นการลุ้นแชมป์นั้น ผมว่าชาวหงส์แดงไปโฟกัสกันที่บอลถ้วยดีกว่าครับ บอลพรีเมียร์ลีกปล่อยพี่เป๊ปเค้าไปเหอะ ดูซิ ชนะรวดชนิดที่ยังหาเกมที่ดูสูสีไม่ได้เลย ไล่ยำชาวบ้านเค้าข้างเดียวตลอด
น่าจะม้วนเดียวจบซะล่ะมั้ง
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย