20 ก.ย. 2023 เวลา 23:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

เหตุผลอะไรที่ทำให้การดูแลสุขภาพ ในสหรัฐฯถึงมีราคาที่ "แพงมาก"

การดูแลสุขภาพเป็นเรื่องเราทุกคนต้องให้ความสำคัญ ซึ่งมาพร้อมกับค่าใช้จ่าย
สหรัฐฯมีชื่อเสียงในด้านสิ่งอำนวยความสะดวกทางการแพทย์ระดับโลก การวิจัยที่ล้ำสมัย และเทคโนโลยีการดูแลสุขภาพที่เป็นนวัตกรรม
อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายที่ตามมาก็สูงเช่นกัน โดยสหรัฐฯเป็นประเทศที่มีค่าใช้จ่ายในการรักษาสุขภาพสูงที่สุดในโลก ด้วยค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนสูงถึง 12,555 ดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากการวิจัยและเทคโนโลยี มีอะไรอีกบ้างที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้รายจ่ายในการรักษาสุขภาพของพวกเขาสูงลิ่วแบบนี้
  • เงินเดือนที่สูงขึ้นสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์
บุคลากรทางการแพทย์ คือ สิ่งที่ขาดแคลนและเป็นที่ต้องการเสมอไม่ว่าจะประเทศใดบนโลกนี้ โดยทั่วไปแล้วความขาดแคลน จะผลักดันให้เงินเดือนของพวกเขาสูงขึ้นอยู่เรื่อยๆ
สหรัฐฯมีประชากรอยู่ประมาณ 340 ล้าน แต่มีจำนวนแพทย์อยู่ที่ 1,077,115 คน คิดเป็นเพียง 0.32% จากประชากรทั้งหมดทั้งนั้น
โดยเงินเดือนเฉลี่ยของบุคลากรทางการแพทย์สหรัฐฯ อยู่ที่ 77,600 ดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นอันดับสองรองจากอันดับหนึ่งอย่างสวิตเซอร์แลนด์
  • ระบบที่มากมายและซับซ้อน
สหรัฐฯ ขึ้นชื่อเรื่องระบบการรักษาพยาบาลที่มีความซับซ้อนสูง มีกฎ เงินทุน วันที่ลงทะเบียน และค่าใช้จ่ายที่ต้องรับผิดชอบเองแยกต่างหาก ที่เกี่ยวข้องกับการประกันสุขภาพรูปแบบต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นการประกันตามนายจ้าง การประกันเอกชน หรือแผนงานที่รัฐบาลจัดเตรียมไว้ เช่น Medicaid และ Medicare และอื่นๆ
ผู้คนจะต้องเลือกความคุ้มครองหลายระดับจากตัวเลือกเหล่านี้ ประกอบด้วยแผนการหักลดหย่อนในระดับสูงของสหรัฐฯ แผนการดูแลที่มีการจัดการ และระบบค่าธรรมเนียมสำหรับการบริการ
แผนเหล่านี้อาจจะรวม หรือไม่รวมกับประกันภัยยารักษาโรคโดยมีระดับความคุ้มครอง ตามประกันที่ตนมี
เรียกได้ว่าแม้แต่พลเมืองของสหรัฐฯเองก็ยังงงกับระบบที่ซับซ้อนมากๆนี้ หากพวกเขาต้องการความครอบคลุมในด้านสุขภาพ อาจจะต้องมีรายจ่ายที่สูงและมักมีค่าใช้จ่ายส่วนเกินจากการดำเนินการตามมามากมาย
  • ต้นทุนค่ายาของ "ประชาชน" ที่สูงขึ้น
ชาวอเมริกันมีการใช้จ่ายเรื่องยารักษาโรค โดยเฉลี่ยเกือบสองเท่าเมื่อเทียบกับผู้คนในประเทศอื่นๆ
มิหนำซ้ำประเด็นการใช้จ่ายเกินกำหนดของประชาชนในสหรัฐฯ ส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากราคายารักษาโรค
เมื่อเปรียบเทียบกับยุโรป ซึ่งราคายาได้รับการควบคุมโดยรัฐบาล ในสหรัฐฯ บริษัทประกันเอกชนสามารถเจรจาราคายากับผู้ผลิตได้ โดยมักจะทำผ่านบริการของผู้จัดการผลประโยชน์ทางเภสัชกรรม (PMB)
แต่ Medicare ที่เป็นโครงการที่ช่วยเหลือประชาชนในส่วนนี้ และเป็นหน่วยงานที่จ่ายค่ายาของประเทศเป็นจำนวนมาก กลับไม่ได้รับอนุญาตให้เจรจาเรื่องราคายากับผู้ผลิต ทั้งๆที่เป็นโครงการจากภาครัฐ
สหรัฐฯ ใช้จ่ายเฉลี่ย 963 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อคน ในการซื้อยาที่ต้องสั่งโดยแพทย์ เทียบกับการใช้จ่ายโดยเฉลี่ย 466 ดอลลาร์สหรัฐ ในประเทศที่เจริญรุ่งเรืองอื่นๆ
  • ราคาการรักษาพยาบาลที่แตกต่างกัน
เนื่องจากความซับซ้อนของระบบ ทำให้ไม่มีการกำหนดราคามาตรฐานของสิ่งต่างๆไว้สำหรับบริการทางการแพทย์ ผู้ให้บริการจึง "มีอิสระ" ที่จะเรียกเก็บเงินจากผู้ใช้บริการตราบที่พวกเขารับได้
จำนวนเงินที่จ่ายสำหรับบริการดูแลสุขภาพเดียวกัน อาจแตกต่างกันอย่างมาก ขึ้นอยู่กับผู้ชำระเงิน เช่น ประกันเอกชน บุคคลทั่วไป โครงการของรัฐบาล รวมถึงพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ ส่งเหล่านี้มีผลกระทบอย่างมากต่อต้นทุนการดูแลสุขภาพของประชาชน
นอกจากนี้ก็ยังมีปัจจัยเฉพาะอย่างผลกำไรของโรงพยาบาล หากไม่มีโรงพยาบาลก็ไม่อาจทำการต่อไปได้
หรือทั้งแพทย์และโรงพยาบาล มักมีความสนใจในการป้องกันการถูกฟ้องร้องจากการรักษาผู้ป่วย
ดังนั้นจึงอาจสั่งให้มีการตรวจและสแกน "เผื่อไว้" และการทดสอบเหล่านี้ ก็อาจมีค่าใช้จ่ายสูงและเป็นรายจ่ายเพิ่มเติมของผู้ป่วยเช่นกัน
สิ่งที่กล่าวไว้ข้างต้นทั้งหมดนี้เอง ทำให้สหรัฐฯเป็นประเทศที่มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนในการดูแลสุขภาพสูงที่สุด และด้วยเหตุผลนี้เองทำให้ประชาชนของสหรัฐฯ นิยมที่จะทำประกันประเภทต่างๆกัน เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้
รูปภาพ CMS.gov
จะเห็นได้เห็นประชาชนของสหรัฐฯ กว่า 91.4% จากประชากรทั้งหมด พวกเขามีการทำประกัน เพื่อที่จะลดค่าใช้จ่ายด้านการดูแลสุขภาพ
บทความนี้เป็นเพียงแค่การยกข้อมูลปัจจัยบางส่วนมานำเสนอเท่านั้น เพื่อนๆ หรือนักลงทุนที่สนใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยละเอียดได้ด้วยตนเอง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา