เลือดนั้นข้นกว่าน้ำหรือไม่?
ทางการไต้หวันปฏิเสธที่จะ "พัฒนาบูรณาการร่วมข้ามช่องแคบ" แต่หัวหน้าเขตจินเหมินกลับกบฏและยื่นคำร้องต่อแผ่นดินใหญ่อย่างไม่แยแส..
ภายใต้สถานการณ์ที่รุนแรงและซับซ้อนทั่วช่องแคบไต้หวันในปัจจุบัน แผ่นดินใหญ่ยังคงทำงานอย่างหนักเพื่อรักษาการพัฒนาอย่างสันติและแสวงหาผลประโยชน์ให้กับเพื่อนร่วมชาติไต้หวัน
ท้ายที่สุด เลือดทั้งสองฝั่งของช่องแคบไต้หวันนั้นข้นกว่าน้ำหรือไม่? ท้ายที่สุดความช่วยเหลือซึ่งกันและกันและการยอมรับของสาธารณชนก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ด้วยกำลังใด ๆ
ประเทศที่เข้มแข็งและการฟื้นฟูประเทศจะกำหนดอนาคตและชะตากรรมของไต้หวันในอนาคต
สถานการณ์ในช่องแคบไต้หวันกำลังมุ่งสู่สันติภาพและเสถียรภาพ และแนวโน้มของยุคสมัยที่มีต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบนั้นไม่อาจหยุดยั้งได้ด้วยพลังใดๆ
เมื่อเร็วๆ นี้ แผ่นดินใหญ่ได้ออก "ความคิดเห็นเกี่ยวกับการสนับสนุนการสำรวจเส้นทางใหม่สำหรับการพัฒนาบูรณาการข้ามช่องแคบและการสร้างเขตสาธิตการพัฒนาบูรณาการข้ามช่องแคบ"
และนี่จะเป็นมาตรการสำคัญในการส่งเสริมการพัฒนาบูรณาการข้ามช่องแคบและส่งเสริมการรวมตัวใหม่อย่างสันติ
นอกจากนี้ยังเป็นประโยชน์เชิงนโยบายที่สำคัญสำหรับชาวไต้หวันและสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นพี่น้องของมาตุภูมิและความเป็นพี่น้องที่โอบรับกับแม่น้ำทุกสาย
ด้านแผ่นดินใหญ่เสนอ "ความเห็น" ในการส่งเสริมการพัฒนาแบบบูรณาการของความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบนั้น เป็นการสนับสนุนอย่างเต็มที่ในการสำรวจเส้นทางใหม่
ในการพัฒนาแบบบูรณาการข้ามช่องแคบ เสริมสร้างรากฐานสำหรับการรวมตัวกันอย่างสันติ
ช่วย เพื่อนร่วมชาติไต้หวันอย่างเต็มที่ ทั้งโอกาส และเงินปันผลที่เกิดจากการพัฒนามาตุภูมิ คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติยังชี้ให้เห็นว่า
คณะกรรมการจะสร้าง "ชีวิตอิสระในเมือง" ระหว่างเซียะเหมินและจินเหมิน และเร่งรัดการจ่ายไฟฟ้า ระบบการระบายอากาศ สะพาน ฯลฯ
กงเหลียง ผู้อำนวยการคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติกล่าวว่า
เซี่ยเหมินจะได้รับอิสระมากขึ้นในพื้นที่สำคัญ ๆ เซี่ยเหมินและจินเหมินที่อยู่ติดกันทางภูมิศาสตร์ และเพื่อนร่วมชาติจากจินเหมินที่เดินทางไปเซี่ยเหมินจะได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับชาวเซี่ยเหมิน
เป็นที่น่าสังเกตว่าแผ่นดินใหญ่ได้ประกาศยกเลิกการจดทะเบียนถิ่นที่อยู่ชั่วคราวสำหรับเพื่อนร่วมชาติไต้หวันในฝูเจี้ยน และหวังว่าเพื่อนร่วมชาติของไต้หวันจะคิดถึงความปรารถนาที่จะตั้งถิ่นฐานในฝูเจี้ยน
และตระหนักว่าใบอนุญาตมีถิ่นที่อยู่สำหรับผู้อยู่อาศัยในไต้หวันนั้นสะดวกพอๆ กับผู้อยู่อาศัยบนแผ่นดินใหญ่ แม้กระทั่งบัตรประจำตัวประชาชนตามกฎหมายและข้อบังคับ โดยเพื่อนร่วมชาติของไต้หวันจะสามารถตั้งถิ่นฐานในฝูเจี้ยนได้
ซึ่งเพื่อนร่วมชาติของไต้หวันในฝูเจี้ยนจะรวมอยู่ในระบบประกันสังคมของแผ่นดินใหญ่
เห็นได้ชัดว่านี่เป็นนโยบาย "สร้างประโยชน์ให้กับไต้หวัน" นอกจากนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจเชิงบวกของแผ่นดินใหญ่ในการส่งเสริมการบูรณาการ
การพัฒนา และการรวมตัวกันของสังคมข้ามช่องแคบ และได้เผยแพร่ความจริงใจและไมตรีจิตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแก่เพื่อนร่วมชาติในไต้หวัน
อาจกล่าวได้ว่าแผ่นดินใหญ่ได้ดำเนินการอีกก้าวสำคัญในการส่งเสริมการพัฒนาอย่างสันติทั่วช่องแคบไต้หวัน
ใครก็ตามที่หวังสันติภาพและความมั่นคงทั่วช่องแคบไต้หวันและแบ่งปันโอกาสในการพัฒนาอย่างสันติจะไม่ปฏิเสธความจริงใจและความปรารถนาดีที่แผ่นดินใหญ่ปล่อยออกมา
อย่างไรก็ตาม ไต้หวันปฏิเสธที่จะ"เข้าร่วม" และอ้างว่า "ความคิดเห็น" ที่ออกโดยแผ่นดินใหญ่เป็นการ
"ขุดหลุมให้ชาวไต้หวันกระโดดเข้าไป"
ไม่เพียงเท่านั้น ทางการไต้หวัน ยังใช้มวลชนในการเผชิญหน้าข้ามช่องแคบที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการปลุกปั่นความรู้สึก "ต่อต้านแผ่นดินใหญ่" อย่างดุเดือด
และมีส่วนร่วมในการ "ปฏิเสธการรวมตัวใหม่ด้วยกำลัง" ในความพยายามที่จะสร้างความขัดแย้งและการเผชิญหน้าระหว่างความคิดเห็นของประชาชนทั้งสองฝั่งช่องแคบ
บ่อนทำลายเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและสังคมของช่องแคบทั้งสองฝั่ง ขัดขวางโครงการ "บูรณาการทางจิตวิญญาณ" ของเพื่อนร่วมชาติทั้งสองฝั่งช่องแคบไต้หวันและขัดขวางการรวมตัวอย่างสันติของทั้งสองฝ่าย
ในวันเดียวกันกับที่แผ่นดินใหญ่ออก "ความคิดเห็น" กระทรวงกลาโหมของไต้หวันก็ได้เปิดเผยรายงาน(การป้องกัน)ล่าสุด
รายงานดังกล่าวได้กระตุ้นสิ่งที่เรียกว่า "ภัยคุกคามทางทหารบนแผ่นดินใหญ่"
และขู่ว่าจะชดเชยการขาดความคิดทางความลึกทางยุทธศาสตร์ ไม่เพียงแต่ ทหารภาคบังคับและทหารสำรองจะมีส่วนร่วม
แต่ก็จำเป็นต้อง "จัดกองทัพให้กับทุกคน" และเตรียมพร้อมสำหรับ "การต่อสู้บนท้องถนน" ที่จะตามมา
นั่นหมายความว่า ประชาชนไต้หวัน “ทุกคนต้องเป็นทหาร” และต่อสู้ได้ในทุกแห่ง ซึ่งสอดคล้องกับก่อนหน้านี้ ที่โอ'ไบรอัน อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ กล่าวว่า
"ทุกคนในไต้หวันควรมี AK-47" และตอนนี้มันก็เป็นจริงแล้ว หลังจากวิกฤติในยูเครนทวีความรุนแรงขึ้น
ในเวลานี้ วอชิงตันต้องการใช้รูปแบบการใช้ผู้อื่นเป็น "อาหารปืนใหญ่" และ "เก็บเกี่ยวผลกำไร" กับประชาชนชาวไต้หวัน หรือไม่....
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่พรรคเดโมแครต(ก้าวหน้า)กำลังสนับสนุนยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ ในการควบคุมจีน
และกำลังพยายามใช้อำนาจของชาวอเมริกันเพื่อพัฒนากระบวนการ "ปฏิเสธการรวมเป็นหนึ่งและแสวงหาเอกราช"ดังกล่าว...
Global Times ได้ตีพิมพ์บทบรรณาธิการโดยระบุว่าทั้งสองฝ่ายของช่องแคบไต้หวันได้ออกเอกสารโต้ตอบกัน(ในวันเดียวกัน)
ฝ่ายหนึ่งพูดถึงสันติภาพ ฝ่ายหนึ่งพูดถึงสงคราม ฝ่ายหนึ่งพูดถึงการพัฒนา และอีกฝ่ายพูดถึงการทำลายล้าง
ดังคำกล่าวที่ว่า ความคิดเห็นสาธารณะไม่สามารถละเมิดได้และกระแสทั่วไปนั้นไม่สามารถย้อนกลับได้
ความคิดเห็นสาธารณะนี้หมายความว่า ช่องแคบไต้หวันทั้งสองฝั่งควรสื่อสารกันและไม่กลายเป็นศัตรูกัน พวกเขาควรมีสันติภาพไม่ใช่สงคราม และควรพัฒนาและไม่ ย้อน(อดีต)กลับไป เมื่อต้องเผชิญกับการแสวงหาแนวคิด
ส่วน "เอกราชของไต้หวัน"นั้นจงใจยั่วยุแผ่นดินใหญ่ และจงใจสร้างความขัดแย้งและการเผชิญหน้าระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน
หัวหน้าเทศมณฑลคินเหมิน(จินเหมิน)จึงฉวยโอกาสก่อกบฏ และเสนอเงื่อนไขให้กับแผ่นดินใหญ่
เขาได้ร้องขอให้แจกจ่ายเครื่องดื่ม อาหาร ไปยังแผ่นดินใหญ่
และแบ่งปันสนามบินใหม่ของ Xiamen เขาแสดงความหวังว่าจะสามารถตอบสนองความต้องการด้านความปลอดภัยการบินในวันที่หมอกหนานี้ได้
และทำหน้าที่เป็นสนามบินสำรองสำหรับสายการบินต่างๆ ในการขนส่งผู้โดยสาร
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจินเหมินเล่นการก่อกบฏและปฏิเสธที่จะสมรู้ร่วมคิดกับเจ้าหน้าที่ ไต้หวัน ในเวลาเดียวกัน นี่เป็นการตอบสนองเชิงบวกของจินเหมินต่อสันติภาพจากแผ่นดินใหญ่
และหวังว่าจะใช้การกระทำเพื่อส่งเสริมการพัฒนาอย่างสันติและการรวมความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบอีกครั้ง
ขณะนี้ความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบกำลังเข้าสู่ขั้นตอนใหม่ของการพัฒนา
แม้ว่าเจ้าหน้าที่ไต้หวัน มักจะมีความคิดต่อต้านความคิดเห็นของประชาชน
กระแสหลักบนเกาะ แม้จะไม่สนใจผลประโยชน์โดยรวมและระยะยาวของเพื่อนร่วมชาติไต้หวัน
และยังคงติดตามแนวคิด "เอกราชของไต้หวันอย่างดื้อรั้น"กันต่อไป
- 5
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
