22 ก.ย. 2023 เวลา 09:46 • ท่องเที่ยว
ซานฟรานซิสโก

แบกเป้าแบกเป้ไปโร้ดทริป Ep.3 ตอน Highway To San Fran.

วันนี้ปันก็จะนั่งรถไปที่ซานฟรานซิสโก (San Francisco) จาก Los Angeles ระยะทางราว 420 ไมล์ หรือประมาณ 670 กิโลเมตร โดยใช้ซุปเปอร์ไฮเวย์หมายเลข I-5 และ 101 ซึ่งเป็นการเริ่มต้นการเดินทางโร้ดทริปอย่างเป็นทางการแล้ว ก็ไปรับชมกันได่เลย
เส้นทางการเดินทางในวันนี้
  • DAY 3 (10 September 2022)
เราเช็คเอาท์ออกจากที่พักประมาณ 9 โมงเช้า หลังจากนั้นเริ่มต้นการเดินทางได้ โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่มด้วยกัน ก็คือ กลุ่มนึงไปเอารถ ที่สนามบิน LAX โดยเรียก Uber จากที่พัก และอีกกลุ่มนึงคือ ตามไป ซึ่งปันอยู่กลุ่มที่ตามไป พร้อมเพื่อนอีก 2 คน ซึ่งนี่ไม่ได้เรียก Uber แต่เป็นการนั่ง Metro จากที่พัก ขึ้นที่สถานี Vermont/Beverly ที่สถานี Aviation/LAX (คงประหยัดงบแหละ 🤣) เพราะว่าเรานัดเพื่อนมารับที่สถานีนั้น
ระยะเวลาที่เดินทางไปที่สนามบินก็ประมาณชั่วโมงกว่า จากที่พักโดย Metro นั่งรถไฟฟ้าสายสีแดง สีเทา และสีเขียว ตามลำดับ ตามภาพนี้เลย
  • มาตรงนี้ก็ขอแชร์ประสบการณ์ Asian Hate ครั้งแรกละกัน
ตอนนั่งรถไฟสายสีเทา วิ่งออกนอกเมือง นี่ไปนั่งใกล้กับคนผิวสี แล้วใช่เลย โดน Asian Hate แบบพูดเหยียดอ่ะ ประมาณว่า “ทำไมมาอยู่ที่นี่ พวกฉันอยู่ที่นี่มานานแล้ว พวกแก(พวกปัน)เป็นใครบลาๆ”
เอาจริงนะ แบบตอนนั้นคือ ฉิ…ย แล้วเอ้ย โดนซะแล้ว จะรอดมั้ยเนี่ย เหมือนในข่าวเลย คนรอบข้างที่เป็นผิวขาว แทบไม่เทคแอคชั่นไรกับพวกปันเลย แบบตายแน่ และคิดอยู่ว่า พวกนรกพวกนี้จะมาทำร้ายมั้ยวะ จังหวะนั้นเพื่อนนึกขึ้นได้ ถึงสถานีหน้าให้ลงมาก่อน แล้วรอขบวนถัดไปดีกว่า ก็เลยลงไป ปล่อยให้พวกมันอยู่ขบวนนั้นแหละ
พอขบวนต่อไปมา ก็นึกว่าจะสบายใจล่ะ แต่ก็ระทึกอีกอ่ะ คนผิวสีเหมือนกัน จากตอนแรกนั่งอยู่ท้ายตู้ใช่มะ แล้วปันนั่งหน้าตู้ สักพักก็เดินเข้ามานั่งหลังปันเลย ตอนนั้นคือแบบ มึงอย่าเอาอีกนะ กูเกรงไปหมดละ คือกลัวไปหมดอ่ะ คนผิวสีเนี่ย ตอนนั้นได้แต่คิดว่า เมื่อไหร่จะเปลี่ยนสายนะ ไม่อยากอยู่สายนี้แล้วอะ เกิดระหว่างทางแล้วมาทำร้ายนี่จะทำไง
จนออกจากขบวนมาได้แล้ว ก็ต่อรถไปที่สถานี Aviation/LAX ที่นัดเพื่อนมารับนั่นแหละ สายนี้ก็ไม่มีอะไร แต่นี่ก็คือแบบ กลัวมากๆ แบบที่บอกตอนแรกอ่ะว่า LA เนี่ย จากที่คิดว่าน่าจะปลอดภัย เพราะเป็นเมืองแสงสี เมืองแห่งแฟชั่นฮิปสเตอร์ เมือง Hollywood
จนเจอเรื่องนี้คือคิดใหม่ ว่าโคตรอันตราย โดยเฉพาะใน Downtown ถ้าไม่จำเป็น ก็จะไม่ไปเลยอ่ะ น่ากลัวพอกับนิวยอร์ก
แต่ถ้าเป็นที่ หาดVenice/Santa Monica ที่จะมาตอนท้ายทริป เดี๋ยวมารีวิวให้ รับรองว่าปลอดภัยกว่า Downtown
ส่วนวิธีการป้องกัน Asian Hate เนี่ย ปันคิดว่ามันเป็นเคสๆ ไปนะ บอกวิธีตายตัวไม่ได้อ่ะ เพราะนี่ที่โดน น่าจะเบาสุดล่ะนะ คือพูดเหยียด เพราะบางเคสนี่คือ ดักทำร้ายเลยนะ สิ่งที่ปันแนะนำเลยคือ ควรศึกษาก่อนกว่าย่านนี้ควรผ่านมั้ย ควรไปมั้ย อะไรงี้ จะได้ไม่โดน ปลอดภัยไว้ก่อนจะดีกว่า
เพราะปันเชื่อว่า เมืองใหญ่ๆ อย่าง LA มีที่เที่ยวแถบชานเมืองเยอะอยู่ เช่น Beverly Hills, Santa Monica และอันตรายน้อยกว่านะ แต่ก็นั่นแหละ ยังไงมาเมืองไหนในอเมริกาก็คงต้องระวังอยู่ดีอ่ะ 🥲
  • มาเล่าการเดินทางกันต่อ
มาถึงที่รอเพื่อน ประมาณ 11 โมง เพื่อนก็มารับกันที่ด้านล่างของสถานี Aviation/LAX ตั้งอยู่ใกล้สนามบิน LA เป็นลานจอดรถขนาดใหญ่ สักพักเพื่อนก็มารับ เป็นรถทะเบียนรัฐ California มาถึงแล้วก็รับของเอากระเป๋าไปเก็บในรถ
แล้วก็พร้อมออกเดินทางกันได้เลย การเดินทางโร้ดทริป ระยะทางประมาณ 3200 กิโลเมตร เป็นวงกลม เส้นทาง LA-SF-LV-AZ-LA ก็ได้เริ่ม ณ จุดนี้! 🥳🤩
พวกเราได้ใช้เส้นทางถนน I-405, I-5 ในการเดินทางไป San Francisco เป็นหลัก และต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 101 ที่เมือง Lost Hills-Paso Robles ก่อนตัดเข้า San Francisco ทาง San Jose
ซึ่งทางหลวงสายแรกเป็น I-405 ซึ่งเป็นซุปเปอร์ไฮเวย์ที่ผ่านหน้าสนามบิน LAX มุ่งหน้าไปทางเหนือ ออกจากเมือง LA ซึ่งสภาพท้องถนน เป็นถนนขนาดที่ใหญ่มาก มากเป็นพิเศษ เมื่อเทียบกับมอเตอร์เวย์บ้านเรา ประมาณ 12 เลนได้ (ไป-กลับ 6 ช่องเลน)
จากนั้นก็ไปบรรจบกับไฮเวย์ I-5 ที่ San Fernando เป็นเมืองทางเหนือของ LA ก่อนจะออกจากเขตเมือง แล้วขึ้นเขาเลย เป็นทิวเขา Santa Susana Mountains
ซึ่งจริงๆ แล้วเราสามารถไปทางขวาเพื่อเข้า Pacific Coast สาย CA-1 ได้ คือ ขับรถเรียบชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ตั้งแต่ LA ไปยัง San Francisco ได้เลย ซึ่งข้างทางคือสวยมาก อารมณ์เหมือนมาถ่าย MV ฝรั่งเลยแหละ แต่ครั้งนี้เสียดาย ที่เราไม่ได้ไปเส้นนั้น
เส้นทางบริเวณ Santa Susana Mountain
แต่เส้นทางที่ปันเลือกนั้น ก็สวยงามไม่แพ้กันเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทิวทัศน์ที่เป็นเนินเขา-ที่ราบกึ่งทะเลทราย
พื้นที่แรกที่ประทับใจคือ เส้นทางที่วิ่งผ่านเนินเขา Santa Susana จาก San Fernando ไปจนถึง Wheeler Ridge ระยะทางราว 65 ไมล์ (~100 กิโลเมตร)
หลังจากนั้นก็เป็นพื้นที่ราบ ตามข้างทางก็ปลูกพืชผัก ไร่สวนสุดลูกหูลูกตา ตลอดระยะทางกว่า 75 ไมล์ (~120 กิโลเมตร) พื้นที่ตรงนี้ปันคิดว่า น่าจะปลูกต้นองุ่น ส้ม ข้าวสาลี ฯลฯ
ปันมาแวะปั๊มเข้าห้องน้ำ แล้วก็ซื้อเบอริโต้ & ทาโก้ (อาหารเม็กซิกัน) ที่ร้าน Taco Bell สาขา Bakersfield ซึ่งเป็นชุมชนเล็กๆ ข้างทางหลวงไฮเวย์ I-5 รสชาติถือว่าอร่อยใช้ได้ ส่วนราคาถ้าจำไม่ผิดประมาณ 10$ นิดๆ (300฿+)
จากนั้นก็เดินทางต่อ เราออกจากทางหลวงไฮเวย์ I-5 ตัดเข้าทางหลวงหมายเลข 101 ที่เมือง Paso Robles ซึ่งห่างจากทางออก I-5 ไปประมาณ 50 ไมล์ (~80 กิโลเมตร) ด้วยทางหลวงชนบท หมายเลข 46
ทางหลวงหมายเลข 46
ที่ตรงนี้ก็จะเป็นทิวเขาแห้งแล้ง เป็นสีเขียว-น้ำตาลอ่อน ตรงนี้ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่สวยที่สุด รถวิ่งผ่านในพื้นที่ที่เป็นชนบทล่ะ แต่ถึงจะเป็นที่ชนบท แต่ถนนเส้นนี้ก็ขับผ่านสบาย เพราะเป็นถนน 4 เลน (2 เลนไปกลับ) มีบางช่วงที่เป็นเลนสวน
เมื่อถึง Paso Robles เราก็เลี้ยวขวา ขึ้นไปทางเหนือด้วยทางหลวงหมายเลข 101 ถนนเส้นนี้ก็จะเป็นเส้นที่พาเราไปสู่จุดหมายปลายทางวันนี้ ซึ่งก็คือ San Francisco 🌁🌉
ระยะทางจากตรงนี้ ไปถึงซานฟรานก็เหลือประมาณ 200 ไมล์เลยทีเดียว (~320 กิโลเมตร) เราจะอยู่บนถนนสายนี้ไปประมาณ 3 ชั่วโมงเศษๆ เลย
หลังจากนั้น 2 ชั่วโมงเราก็เริ่มเข้าตัวเขตชานเมืองซานฟรานซิสโกกันแล้ว ที่เขต San Juan Bautista ตระการตากับอุโมงค์ต้นไม้ ระยะทางประมาณ 500 เมตร เป็นอีกจุดที่สวยมากๆ และอยากให้ลองจอดไปถ่ายดูสักครั้ง เพราะมันสวยจริงๆ ขับรถผ่านใช้เวลาประมาณ 1 นาที
อุโมงค์ต้นไม้ San Juan Bautista
เข้าเขต San Jose เมืองทางใต้ของ San Francisco ประมาณช่วงทุ่มครึ่ง ที่นี่ในเดือนกันยา จะมืดตอนสองทุ่ม ดังนั้น ปันก็เลยถ่ายแสงอาทิตย์ตกดิน หรือ Twilight แสงที่นี่ก็คือสวยในระดับนึงเลยนะ
ในที่สุดเราก็มาถึงเขตซานฟรานซิสโก (San Francisco) ประมาณ 2 ทุ่มครึ่ง ที่รู้ว่าถึง ก็เพราะว่า มีป้ายเขียนว่า San Francisco Int’ Airport (SFO) เป็นสนามบินที่ปันบินเข้าอเมริกาที่นี่ ตั้งอยู่ที่ชานเมือง ห่างจาก Downtown ไปประมาณ 10 ไมล์ (~15 กิโลเมตร)
  • รีวิวบบ้านพักกันดีกว่า
มาถึงที่พักของที่ซานฟรานกันแล้ว เป็นลักษณะเหมือนบ้านพัก ตั้งอยู่ที่เขต Portola ย่านนี้ปลอดภัยพอสมควร คือในความรู้สึกของปัน ปันคิดว่าที่ซานฟรานอ่ะ ปลอดภัยกว่าที่ LA พอสมควรเลย Homeless แทบจะไม่ค่อยมี (มั้งนะ?) แต่ก็ระแวงอยู่เหมือนกัน จากการที่โดน Asian Hate ดอกแรกที่ LA เมื่อเช้า
รีวิวตัวบ้านกันดีกว่า ในบ้านก็จะมี 1 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่นใหญ่ 1 ห้องครัว 2 ห้องนอน ขนาดก็กระทัดรัดพอดี อาจดูเล็กกว่าที่ปันเคยรีวิวห้องที่ KL ของมาเลย์อยู่บ้าง แต่ก็ถือว่าโอเคเลยล่ะ อ่ะลืมไปว่า ปันจองของ Airbnb นะ พักทั้งหมด 3 คืน ราคา 720$ (~21,000 บาท) ตกคนละประมาณ 1,400 บาท/คน/คืน (พัก 5 คน 3 คืน) ถือว่าถูกกว่าที่ KL อีกนะ (KL ตกคนละ 2,000 นิด/คืน)
ห้องที่พักที่ Portola
หลังจากนั้นปันก็ไปกินพิซซ่าที่ร้าน Pizza Joint And Grill หน้าที่พัก พิซซ่าถาดใหญ่มาก อร่อย แต่นี่ไม่ได้ถ่ายรูปมาเลยอ่ะ 😭😭 ทั้ง 2 คืนเลย (คืนแรก กับคืนสุดท้าย) เพราะคืนที่ 2 ปันซื้อมาม่าเกาหลีมากินกัน
ลิ้งค์ร้าน Pizza Joint And Grill
หลังจากนั้นก็กลับที่พักของพวกปันกัน สำหรับวันนี้ก็มาพักผ่อนได้แล้ว เดี๋ยว Ep. หน้าเราก็จะไปเที่ยวหลายที่เลย ที่เป็นไฮไลต์ของซานฟราน แน่นอนว่า “สะพานโกลเดนท์เกท” ติดในลิสต์แน่นอน แต่จะเป็นอย่างไรบ้าง ก็มาติดตามกันใน Ep. ถัดไปเด้อ
  • Contact Us
Instagram : @PunKT_Y2K
TikTok : PunPun_XXI_VII

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา