อัฟกานิสถาน EP 01 - วีซ่า ปฐมบทของการเดินทาง
ตั้งใจบันทึกการท่องเที่ยวในอัฟกานิสถานโดยสรุปเรื่องราวด้านประวัติ ศาสตร์แบบย่นย่อ และอยากเล่าวิธีการกับสภาพการเดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆละเอียดสักนิด รวมถึงอาหารการกิน สภาพบ้านเรือน โรงแรมและผู้คนเพื่อให้คนที่สนใจประเมินความพร้อมของกายและใจสำหรับการเที่ยวจุดหมายแห่งนี้ ที่สำคัญคือการหาความสุขกับปัจจุบัน ระหว่างเดินทางโหมดสมบุกสมบันในบางเส้นทาง
สาธารณรัฐอิสลามอัฟกานิสถาน (Islamic Emirate of Afghanistan) ไม่มีพื้นที่ติดทะเล ทางตะวันตกติดอิหร่าน ทางใต้ติดปากีสถาน ทิศเหนือติดเติร์กเมนิสถาน อุซเบกิสถาน ทาจิกิสถาน ทางตะวันออกเฉียงเหนือติดซินเจียงของจีน อัฟกานิสถานเป็นสมาชิกองค์การสหประชาชาติ แต่รัฐบาลชุดปัจจุบันที่เข้ามา บริหารประเทศราวกันยายน 2564 ยังไม่ได้การรับรองจากนานาประเทศมากนัก
ชื่ออัฟกานิสถานน่าจะเป็นที่รู้จักกันมากขึ้นในไทยหลังเหตุการณ์สะเทือนใจที่เกิดขึ้นกับพระพุทธรูปใหญ่บนหน้าผาในหุบเขาบามิยันเมื่อ มีนาคม 2544 และสื่อตะวันตกมักจะรายงานข่าวแง่ลบเกี่ยวกับดินแดนแห่งนี้อย่างต่อเนื่องเสมอมา จึงไม่น่าแปลกใจที่คนใกล้ชิดของสมาชิกกลุ่มจะกังวลใจกับการท่องเที่ยวทริปนี้
การเดินทางครั้งนี้เป็นการสำรวจเส้นทาง เราขอร่วมด้วยเพราะอยากไปที่นี่มานานแล้ว แอ๋ม หัวหน้ากลุ่มรวมพลทั้งหมดได้ 11 คน เป็นชายตั้ง 30% (3 คน)
เนื่องจากอัฟกานิสถานไม่มีสถานทูตในประเทศไทย เราจึงต้องไปยื่นเอกสารขอวีซ่าในประเทศที่มีสถานทูตอัฟกานิสถานตั้งอยู่ พวกเราไปยื่นเอกสารที่อิสลามาบัด ปากีสถาน
วันไปยื่นเอกสาร ทุกคนโดยเฉพาะผู้หญิงต้องแต่งตัวเรียบร้อย ให้ถูกต้องตามระเบียบรัฐบาลตาลีบัน สวมฮิญาบ เสื้อแขนยาว กระโปรงยาวกรอมเท้า (หรือเสื้อหลวมๆ ยาวคลุมสะโพก กางเกงไม่รัดรูป ยาวกรอมเท้า) ผู้ชายต้องใส่เสื้อมีแขน และกางเกงขายาว
จุดเตรียมและคัดกรองเอกสารเป็นเพิงชั่วคราวหน้าสถานทูต แยกส่วนชาย-หญิง ระหว่างที่รอคอยไปเรื่อยๆเหมือน Waiting For Godot พวกเราฆ่าเวลาด้วยการผูกสัมพันธ์กับผู้หญิงที่มาขอวีซ่าแม้สื่อความกันไม่ได้มากนัก หญิงปากีฯสอนวิธีพันผ้าฮิญาบให้
ได้คุยกับคุณแม่พยาบาลชาวปากีฯ พาลูกสาวสามใบเถามารอทำวีซ่าระยะยาว ลูกสาวสองคนข้ามไปเรียนแพทย์ในคาบูล กำลังขึ้นปีสาม คนเล็กเรียนมัธยมต้น แต่ระเบียบใหม่ของรัฐบาลตาลีบันห้ามผู้หญิงเรียนมหาวิทยาลัย ทำให้สองสาวต้องขอโอนกลับมาเรียนที่ปากีฯ (หลักสูตร 5 ปีเหมือนกัน) ต้องกลับไปทำเรื่องให้เรียบร้อย เด็ดดอกไม้ สะเทือนดวงดาวจริงๆ
จาก 9 โมงรอจนเกือบ 11 โมง ทั้งกลุ่มจึงถูกเรียกให้เข้าประตู (ชั้นนอก) ของสถานทูต ต้องฝากกล้อง มือถือและอุปกรณ์อิเลกทรอนิกส์ทุกชนิดไว้
ผ่านประตูรั้วอีกที เจ้าหน้าที่พาเดินไปที่อาคาร ก่อนเชิญเข้าห้องกงสุล กงสุลน่าจะอายุราว 40 ปี (หนวดเคราครบ นึกในใจว่านี่น่าจะเป็นตาลีบันคนแรกที่เราได้เจอ) มองสำรวจพวกเราทุกคนและสอบถามว่า เป็นมุสลิมหรือจึงแต่งตัวเรียบร้อยมาก มีใครเป็นข้าราชการ/เจ้าหน้าที่ของรัฐมั้ย/จะไปอัฟกานิสถานทำไม ฯลฯ
เมื่อรับเอกสารของทุกคนและเอกสารบริษัทท่องเที่ยวปลายทางแล้ว กงสุลพลิกๆดูและเริ่มโทรศัพท์ถี่ๆ ไม่รู้ว่าโทรเกี่ยวกับกลุ่มเรามั้ย ได้แต่นั่งฟังเพลิน ๆ แบบไม่รู้เรื่อง แม้พยายามสงบเสงี่ยมเต็มที่แต่พวกเรายังยุกยิกกันในห้องกงสุลเกือบๆชั่วโมงกระมัง ในที่สุดกงสุลสอบถามวันเดินทาง เวลาบินของพวกเรา (คือบ่ายคล้อยวันรุ่งขึ้น) แล้วจึงนัดหมายให้มารับวีซ่าวันรุ่งขึ้นเวลาบ่ายโมง อัตราค่าวีซ่าปกติ 80 เหรียญ สรอ. ส่วนแบบเร่งด่วน 130 เหรียญ สรอ. อนุมานว่ากลุ่มเราคงถือว่าแบบเร่งด่วน
ความเป็นมาของอัฟกานิสถาน
ในดินแดนที่เป็นประเทศอัฟกานิสถานปัจจุบัน มีการขุดค้นพบโบราณวัตถุตั้งแต่ยุคหินเก่า หินใหม่ พบหลักฐานการตั้งถิ่นฐานชุมชนที่ทำการเพาะปลูก และซากศาสนสถานของลัทธิบูชาไฟใกล้แหล่งโบราณสถานทิลลิยา เทปเป้ แต่เราจะย้อนความไปแค่ยุคโบราณ
เริ่มจากสมัยจักรวรรดิอะคีเมนิด (Achaemenid) ซึ่งเป็นจักรวรรดิเปอร์ เซียโบราณแห่งแรกประมาณ 550 ปีก่อนคริสตกาล มีจารึกเรียกขานดินแดนในอัฟกานิสถานและปากีสถานในปัจจุบันที่อยู่ใต้การปกครองของเปอร์เซียดังนี้คือ อาเรีย (Aria หรือเฮรัตปัจจุบัน) อะราโคเชีย (Arachosia ครอบคลุมกันดาฮาร์ ลัชการ์กาห์ บามิยันและเควตต้า) แบคเทรียน่า (Bactriana หรือบัลค์ในปัจจุบัน) สัตตกีเดีย (Sattagydia หรือกาซนี่ในปัจจุบัน) คันธาระ (Gandhara ครอบคลุมคาบูล เปชวาร์ และจาลาลาบัดในปัจจุบัน)
เมื่อพระเจ้าอเลกซานเดอร์แห่งมาซิโดเนียมีชัยเหนือพระเจ้าดาริอุสที่ 3 แห่งอะคีเมนิดในยุทธการกอกาเมลาใกล้เมืองเออร์บิลในอิรักปัจจุบัน และเดินทัพต่อไปยังเมืองสำคัญต่างๆจนถึงอาเรียหรือเฮรัต และพิชิตดินแดนที่เคยอยู่ใต้การปกครองของอะเคมีนิดทั้งหมด (ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของอัฟกานิสถานปัจจุบัน บางส่วนของปากีสถาน อุซเบกิสถานและทาจิกิสถาน)
เมื่อกองทัพมาซิโดเนียประสบกับความสูญเสียอย่างหนักจากการทำศึกกับกองทัพช้างของพอรัสใกล้แม่น้ำไฮดาสพีส (Hydaspes) ปัจจุบันอยู่ในเขตปัญจาบ ปากีฯ และต้องทำศึกต่อไปกับกองทัพช้างหลายพันเชือกของแคว้นมคธ กอปรกับความเหนื่อยล้าจากการกรำศึกนานหลายปี ทำให้กำลังพลไม่ยอมสู้รบและเดินทัพต่อ อเลกซานเดอร์จึงเดินทัพกลับโดยแบ่งกำลังเป็นสองสาย สายหนึ่งเดินทางกลับทางบก อีกสายกลับทางทะเล และอเลกซานเดอร์เสียชีวิตอย่างกระทันหันระหว่างทางที่บาบิโลเนีย
หลังจากนั้น จักรวรรดิของพระเจ้าอเลกซานเดอร์ถูกแบ่งเป็น 5 อาณาจักร ปกครองโดยแม่ทัพคนสำคัญคือ อาณาจักรมาซีโดเนีย อาณาจักรกรีซ (ข้อมูลบางแห่งไม่รวมกรีซ) อาณาจักรทอเลมีหรือปโตเลมีแห่งอียิปต์ อาณาจักรเพอร์กามอนในเอเชียไมเนอร์ และอาณาจักรเซอลิวซิด (Seleucid) ทางตะวันออกครอบคลุมเปอร์เซียและดินแดนที่เคยอยู่ใต้การปกครองของจักรวรรดิอะเคมีนิด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสถานที่ท่องเที่ยวในทริปนี้
ข้อมูลความเป็นมาเบื้องต้นของดินแดนนี้ก็เตรียมไว้แล้ว นาทีนี้ต้องลุ้นว่าจะได้วีซ่าทันเที่ยวบินที่จองไว้หรือไม่เพราะมีประวัติมาแล้วว่า ยูทูบเบอร์หลายรายเคยโดนปฏิเสธวีซ่าหลายครั้งกว่าจะได้วีซ่ามาในที่สุด
- 7
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
