Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
BeeQueer ✍️
•
ติดตาม
22 ก.ย. 2023 เวลา 06:53 • นิยาย เรื่องสั้น
ยามยาก
กลิ่นควันจากเตาถ่านลอยคุ้งไปทั่วบ้าน แสงส้มยามเย็นกระทบควันที่ลอยไปในบ้านย้อมมันด้วยลำแสงที่ส่องจากหน้าต่างลอดเข้ามาในบ้านชั้นหนึ่ง แน่นอนว่าชั้นสองที่อยู่ด้านบนนั้นมีหน้าต่างแบบเดียวกันและมีแสงลอดเข้ามาเช่นกัน ผิดที่แสงนั้นกระทบกับเปลือกตาของกล้าที่นอนอุตุอยู่บนนั้น
"ไอ้กล้าเอ้ย มึงจะรีบนอนไปไหน ลงมากินข้าว" เสียงหญิงวัย 52 ตวาดลั่นลอดช่องระหว่างไม้กระดานขึ้นมาข้างบน กล้าตอบสนองด้วยการนอนคุมโปงในขณะที่พัดลมตัวใหญ่เปิดเบอร์ 3 หันหน้าในเขาที่อยู่ตรงนั้น
ด้านในถ่ำคุมโปงนั้นเขาเอาแต่ปัดหน้าจอมือถือ ซ้ำ พยายามอ่านทวนรายชื่อของการสอบครูผู้ช่วยที่อาจจะหลุดรอดสายตาของเขาไปเพราะตัวหนังสือในจอนั้นเล็กเกินไปก็เป็นได้ แต่แม้ว่าจะอ่านมา 8 ครั้งแล้วเรื่องที่ไม่มีชื่อเขาในจำนวน 400 คนนั้นก็เป็นเรื่องจริงไม่ใช่ความฝัน อีกปีแล้วเหรอที่เขาต้องผิดหวังอย่างนี้ซ้ำ ๆ ช้ำ ๆ เดิม ๆ
"ลงไปกินข้าว" แม่เดินทาที่หน้าประตูห้องแต่ก็พูดเสียงดังกว่าตอนที่อยู่ข้างล่างเสียอีก
"กินเลย ไม่หิว" เสียงอู้อี้ที่ลอดมาจากถ่ำคุมโปงปฏิเสธ
"สอบไม่ติดก็ไม่เป็ฯไรหรอกปีหน้าสอบใหม่"
"ไม่ได้คิดเรื่องนั้นเลย แค่ไม่หิวจริง ๆ" เสียงคนปากแข็งสั่นเครือ
"เออ ๆ จะเก็บไว้ให้แล้วกัน หิวก็ลงไปกิน"
แสงส้มยามเย็นเริ่มจะลับขอบฟ้า ผีตากผ้าอ้อมเริ่มปรากฏเหนือมวลป่ายางข้างบานของกล้า ทว่าแสงนั้นก็ยังมากพอที่จะส่องทางเดินดินแดงที่ทอดมาจากถนนมุ่งตรงมายังบ้านของกล้าที่อยู่กลางป่ายางที่สงัดนี้ จนได้ยินเสียงของขวดแก้วกระทบกันเป็นจังหวะสม่ำเสมอราวกับว่ามีคนเคาะจังหวะทุกครั้งที่ก้าวเดินอยู่บนทางดินนั้นเข้ามาในบ้าน สอดประสานกับเสียงเถียงกันโวยวายของเพื่อทั้งสองที่เป็นสัญญาณบอกกล้าแล้วว่าการอยู่คนเดียวของเขากำลังจะถูกรบกวน
ก๊อก ๆ ๆ เสียงเคาะประตูเป็นจังหวะสามช่า
"ไอ้กล้า เปิดประตูหน่อย" เสียงไอ้ทัดนั่นเอง ที่ดังเรียกเขาอยู่หน้าประตู
"กูจะนอน" กล้าร้องเสียงดัง
"เหี้ยอะไรวะ เพื่อนมาหาทั้งทีไม่ตอนรับเลย...ใจดำว่ะ"
กล้าไม่มีทางเลือก เขาเดินไปที่ประตูหน้าตูด และเปิดให้เพื่อนที่ยังเคาะจังหวะสามช่าอยู่อย่างนั้นไม่พักมือ
"อะไรวะ คนจะนอน มาทำไม"
"ฉลอง"
"ฉลองพ่อง กูสอบไม่ติด" กล้าตวาดเข้าให้ จนหน้าเด๋อด๋าของไอ้ทัดผงะไปด้านหลัง
"ก็ฉลองที่มึงยังอยู่กับกูอีกปีนึงไง เรื่องดี ๆ แบบนี้จะพลาดได้ไงวะ"
ไอ้ทัดเป็นลูกของเจ้าของร้านชำในหมู่บ้าน ห่างจากบ้านกล้าไปไม่เกินกิโล เป็นเพื่อนวิ่งเล่นกันในป่ายางระแวกบ้านมาตั้งแต่ 5 ขวบ กระทั่งโตขึ้นก็เรียนโรงเรียนเดียวกัน มหาลัยก็ที่เดียวกันคณะเดียวกัน จะต่างกันก็ตรงที่ครอบครัวของทัดให้กลับมารับช่วงร้านขายของต่อที่บ้านที่แหล่ะ เพราะพ่อแม่แก่เฒ่ามากแล้ว เลยขอให้ทัดไม่ไปสอบเพื่อนอยู่บ้านต่อไปขายของ
"มึงมากับใคร"
"ไอ้พงษ์ กับต่าย"
ส่วนไอ้พงษ์นี้ก็เป็นเพื่อกันจนเรียนจมมัธยมปลาย ด้วยความเป็นนักเลงนักรักของมันทำให้มันตัดสินใจไม่เรียนต่อ มาทำไร่มันและสวนทุเรียนต่อจากพ่อ โดยก่อนจะก็ไปสู่ขอต่ายมาหมั่นหมายไว้ก่อน
พ่อของพงษ์ที่มีฐานะอยู่บ้างเลยเอาเงินที่เก็บไว้ส่งลูกชายเดียวหัวแก้หัวแหวนเรียน มาส่งลูกสะใภ้แทนสินสอดที่ต้องจ่ายตอนสองคนนี้มันสร้างเนื้อสร้างตัวได้และแต่งงานกันในที่สุด และด้ววยอำนาจรักกระทั่งเรียนจบต่ายก็ย้ายเข้ามาอยู่บ้านพงษ์ตามหัวใจตัวเอง งานนี้แม่พงษ์ดีใจเสียยิ่งกว่าถูกหวยเพราะไอ้ลูกชายนักเลงดื้อด้านบอกไม่รู้ความจะฟังความอยู่แค่หนูต่ายสะใภ้เดียวเท่านั้นแหล่ะเลยพอมั่นในว่าไอ้พงษ์จะยังอยู่กับร่องกับรอย
กล้ามเดินลงไปข้างล่าง เฆ็นไอ้พงษ์กับต่ายนั่งอยู่ที่แคร่หน้าบ้าน ตรงกลางนั้นเป็ฯขวดแก้วใส่น้ำสีอำพันอยู่ตรงนั้น 2 ขวด โซดาอีก 8 ขวดได้ นอกนั้นเป็นขนมขบเคี้ยวที่อยู่ในถุงหูหิ้วใบใหญ่มาก ที่คงเ)นไอ้เสี่ยทัดนั่นแหล่ะที่จะหามาจากร้านของมันอีกคราวนี้
"ไอ้กล้าเพื่อนรัก เป็นไงวะ ไอ้คนสอบตก" ไอ้พงษ์หัวเราะเสียงดังลั่นป่ายาง จนต่ายที่นั่งข้าง ๆ ต้องทุบตักเพื่อให้แฟนเงียบเสียงลง "มาเพื่อนมา กูชงไว้รอเลย ย้อมเพื่อนย้อม" ไอ้พงษ์เชื้อเชิญเพื่อนด้วยน้ำเสียงติดขำ
"ย้อมพ่อง" กล้าตวาดให้อีกหน ตอนนี้กลายเป็ฯว่าไอ้ทัดและไอ้พงษ์โดนไปคนละที ขอหากวนประสาทไอ้กล้า
"เอาน่าเพื่อน ฉลองฉลอง กูรู้ว่ามึงเศร้า แต่โบราณเขาว่าเรื่องมันเศร้าขอเหล้าเข้ม ๆ โว้ย" ทั้งไอ้ทัดและไอ้พงษ์หัวเราะออกมาเสียงดัง ทำลายความเศร้าวังเวงของไอ้คนที่อุส่าห์ก่อนด้วยการคุมโปงตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ
"ไม่เป็นไรนะกล้า ข้อสอบมันยากเกิน ยังมีเวลานะปีนี้อ่านดี ๆ ปีหน้าสอบใหม่ ทำได้แน่นอนเลยต่ายเชื่อ"
"ต่ายมาคบกับไอ้เหี้ยพงษ์ได้ยังไง แสนดีขนาดนี้" คำว่าเหี้ยกล้าเน้นเสียและหันหน้าไปทางพงษ์
"เห้ย ๆ อย่ายุ่ง คนนี้ของกู กูรักของกูมาตั้งนาน ไปจากกูไม่ได้หรอกกูไม่ยอม"
"แหว่ะ" ทั้งทัดและกล้า ทำท่าเหมือนจะอ้วกพร้อมกัน เรื่องอื่นไอ้พงษ์เป็นคนห่ามหมด พอเป็นเรื่องต่าย มันนี่หวานยังกับพระเอก ปล่อยให้เพื่อนอีกสองคนกลายเป็นตัวร้ายทุกครั้งที่มันหยอดมุขเลี่ยน ๆ ใส่แฟนตัวเอง
ทั้งสามเกลอนั่งลงตั้งวงกัน ต่ายที่สังเกตการอยู่ข้าง ๆ ทำได้เพียงกินขนมอย่างเดียว บ้างก็เข้าไปในครัว ช่วยแม่ของกล้าทำนู่นนี่นั่น ไม่นานแม่เห็นกว่าใกล่จะเสร็จก็ไล่ให้ออกมานั่งเล่นกับสามหนุ่มเหมือนเดิม แม่รู้จักต่ายดี 3 คนนี้มาที่นี่ออกบ่อย ทุกครั้งที่หนึ่งในสามมีเรื่องไม่สบายใจก็มักจะเห็นไอ้สามตัวนี้ไม่ไปรวมตัวบ้านทัดหรือพงษ์ก็จะมานั่งตั้งวงกันที่นี่ การได้เหนลูกอยู่ในสายตาอาจจะเป็นความสบายใจกว่าก็ได้ ยิ่งไอ้ลูกชายคนเดียวไม่สบายใจอย่างนี้แล้วมีเพื่อนมาเล่นที่บ้านบ้างก้คงไม่เลวเหมือนกัน
ตอนนี้เหล้าที่เอามาด้วยนั้นหมดไปแล้ว 1 ขวด แม่ที่มองไปยังป่ายางที่บนท้องฟ้าไร้แสงแล้วตอนนี้ จะเดินไปจุดยากันยุงและเอามาวางใต้แคร่ที่สามหนุ่มหนึ่งสาวนั่งอยู่นั้น ด้วยกลัวว่ายุงจากป่ายางจะกระโจนมาหิ้วปีกทั้งสี่คนไปรุมกินเสี่ยก่อน
"บอกมันหน่อยลูกเอ้ย มันคิดมาก แม่ไม่เคยว่าอะไรมันเลยเรื่องสอบอะไรของมันนั่นน่ะ" พูดจบก็กลับหลังหันเดินเข้าไปในบ้านตามเดิม
"เออ มึงเห็นไหมไอ้กล้า คิดมาจนทำแม่กูเครียดหมดแล้ว" ในจังหวะคำว่าเครียดไอ้พงษ์โบกหัวไอ้กล้าเพื่อนรักให้หนึ่งป้าบ
"ไอ้ห่ากูยิ่งโง่ เดี๋ยวอ่านหนังสือไม่เข้าหัวทำไง" ไอ้ทัดหัวเราะกับท่าทางหัวเสียของไอ้กล้า
กระทั่งเครื่องดื่นทุกขนานที่เพื่อนหิ้วมาด้วยหมดลง ทั้งสามคนก็ไร้เรี่ยวแรงจะลุกเอาตัวเองขึ้นไปนอนบนบ้านได้ จนแม่ของกล้าชวนต่ายให้เข้าไปนอนในบ้าน ทิ้งให้ทั้งสามคนและยากันยุงอีกขด ก่อนเข้านอนต่ายเอาผ้าห่มมาห่มให้ทั้งสามคนทีละคน มองสภาพล้มตายหงายท้องนั้นก็อดส่ายหัวหัวเราะไม่ได้ และเดินเข้าไปในบ้านยังที่นอนที่แม่จัดแจงให้ในบ้านอย่างเพรียบพร้อม
ผ่านไป 7 วัน
กล้าลืมตามองเพดาน เพราะเสียงกรีดร้องของมือถือที่วางไว้หัวเตียง เขาเอื้อมมือไปคว้าเอามือถือ มองดูเวลา และปิดเสียงลง ตอนนี้ 00:00 น. แล้ว เขาพยายามฝืนแรงดึงดูจากที่นอนมาอยู่ในท่ายืน บิดขี้เกียจและพับผ้าห่มให้เรียบร้อย เดินลงบันไดไปข้างล่าง คว้าเอาไฝฉายแบบคาดหัวและมีดโค้ง ก่อนเดินออกไปนอกบ้าน มองไปที่ป่ายางเห็นไฟสว่างเป็นดวง ๆ แกว่งไปแกว่างมา สงสัยพ่อจะตื่นก่อนและเดินเข้าไปเรียบร้อยแล้ว กล้าเอามือถือที่ถือมาด้วยใส่ในกระเป๋ากางเกง และเดินจ้ำ ๆ เข้าสวนไปหาพ่อ รอฟังว่าพ่อจะว่าให้เขาเริ่มจากตรงไหนก่อน
ยังไม่ทันจะได้เริ่มงาน มือถือในประเป๋ากางเกงข้างขวาก็สั่นและส่งเสียง กล้าคิดว่าตัวเองยังไม่ได้ปิดนาฬิกาปลุกเลยเอามือถือขึ้นมาดู มีชื่อ พงษ์ปรากฏบนหน้าจอ
"ว่าไงพงษ์"
"ไอ้กล้า มึงอย่าพึ่งถาม มาบ้านกูก่อนพ่อกูล้มในห้องน้ำ เร็ว"
กล้าได้ยินเช่นนั้นก็กดวางสาย รีบวิ่งไปหาพ่อที่กำลังกรีดต้นยางอยู่
"พ่อ พ่อไอ้พงษ์ล้มในห้องน้ำ ผมไปหามันก่อนนะ"
"ไปยังไง" พ่อถาม
"มอไซ"
"เอารถใหญ่ไปเลย เผื่อต้องไปโรงพยาบาล"
กล้าวิ่งไปในบ้าน คว้าเอากุญแจที่แขวนอยู่ที่ตะปูเสากลางบ้าน เดินไปที่ mithy X สีนำเงินที่จอดอยู่ข้างบ้าน เสียบกุญแจบิดสตาร์ท และถอยรถออกมุ่งหน้าไปบ้านไอ้พงษ์ที่อยู่ห่างออกไป 3 สวน ถึงทางเข้าสวนกล้าสังเกตว่าไฟในบ้านเปิดสว่างอยู่จึงเลี้ยวลงไปที่ทางดินที่ทอดยาวไปถึงบ้านสองชั้นตรงหน้า เร่งเครื่องสู้ความหน่วงของพื้นทราย รีบไปจอดหน้าบ้านให้ไวที่สุด กล้าดับเครื่อง และเดินเข้าไปในบ้าน
"อยู่นี่" เสียงพงาดังออกมาจากทางห้องน้ำ เขาและต่ายเขย่าพ่อที่นอนอยู่ตรงนั้น
"ไอ้พงษ์พ่อเป็นไร"
"ไม่รู้กูได้ยินเสียงเหมือนอะไรล้มเลยเดินมาดู ก็เห็นพ่อล้มนี่แหล่ะ"
"แล้วแม่ไปไหน"
"ไปบ้านยาย" ต่ายตอบ
"เออ ไปหาหมอก่อนมึงกับกูสองคนน่าจะอุ้มพ่อได้" กล้าพูด "ต่าวเอาเสื่อไปปูหลังกระบะเรานะเดี๋ยวเรากับพงษ์จะอุ้มพ่อไป"
ต่ายวิ่งไปในบ้านทำตามที่กล้าบอก ทั้งสองหนุ่มแบกร่างหนักอ้วนของพ่อไปที่รถหน้าบ้านอย่างทุลักทุเล กว่าจะเอาพ่อนั่งบนกระบะได้ทั้งสองคนก็เหงื่อท่วมเปียกไปทั้งแผ่นหลัง
กล้าเป็นคนขับรถ พงษ์และต่ายนั่งอยู่ข้างหลังกับพ่อ ประคองไม่ให้พ่อกระทบกระเทือนจากการเคลื่อนรถไปบนถนนลูกรัง กล้าพยายามดึงสติ รักษาความเร็วและความปลอดภัยไปให้ถึงโรงพยาบาลอย่างไวที่สุด
ไม่นานเขาก็เห็นป้ายโรงพยาบาล กล้สเลี้ยวเขาไปในโรงพยาบาล จอดตรงหน้าห้องฉุกเฉิน บุรุษพยาบาลหรือใครสักคนในชุดขาวเอาเตียงมีล้อมาจ่อที่ท้ายกระบะ กล้าลงจากรถไปช่วยเพื่อนและเจ้าหน้าที่อุ้มพ่อ
"พงษ์มึงไปกับหมอก่อน เดี๋ยวกูเอารถไปจอด"
"มึงโทรบอกไอ้ทัดเอาบัตรประชาชนพ่อกูมาด้วยนะกูลืม"
"เออเดี๋ยวกูบอกให้"
"บนหัวที่นอนพ่อกูนะ"
"เออ มึงรีบตามไป ต่ายดูไอ้พงษ์ด้วย ไอ้นี่มันชอบสติแตก" กล้าขับรถไปจอดที่จอดรถหน้าโรงพยาบาล และรีบเดินไปหาเพื่อน ในช่วงที่เดินนั้นก็โทรไปหาไอ้ทัด ให้เอาบัตรตามที่ไอ้พงษ์บอกมาให้ไปพร้อมกัน
ไม่นานนักไอ้ทัดก็มาถึงโรงพยาบาลพร้อมกับบัตรประชาชนของพ่อเพื่อนตามที่ถูกสั่ง
ผ่านไปกว่าชั่วโมงตอนนี้พงษ์และต่ายเดินออกมาจากห้องฉุกเฉิน พร้อมเปลนอนคนไข้ที่พ่อของพงษ์อยู่บนนั้น ไล่เรี่ยกันรถพยาบาลก็มาจอด เปิดประตูท้ายขึ้น และพยาบาลก็พอพาของพงษ์ไปขึ้นรถคันนั้นที่มาจอดรับไปทันที
"ไปไหนวะพงษ์" ได้ทัดถาม
"ไปโรงบาลใหญ่ หมอบอกว่าเส้นเลือดในสมองอะไรนี่แหล่ะกูฟังไม่รู้เรื่อง"
"เอ้า ทำไมวะ"
ไม่รู้ กูจะไปกับพ่อก่อน มึงไปบอกแม่กูให้หน่อยนะว่าไม่ต้องห่วงกูไปโรงบาลใหญ่กับพ่อ" พงษ์หันมาบอกกล้า
"เออ เดี๋ยวกูจัดการให้" กล้าตบบ่าเพื่อนเบา ๆ
"ไอ้พงษ์ เอานี่ไป" ไอ้ทัดยัดธนบัตรสีเทาสามใบใส่ในมือเพื่อน "เอาติดต่อไปก่อนเผื่อต้องใช้"
"เออ ๆ ขอบใจว่ะเสี่ย"
"เสี่ยพ่อง เรียกกูแบบนี้เดี๋ยวพ่อกูก็ด่า"
"ไอ้ห่า เบา ๆ พ่อมันอยู่ในรถ" กล้าขัดไว้ก่อนที่จะเถียงกันมากไปกว่านี้จนพ่ออาจจะได้ยิน
ประตูด้านหลังของรถพยาบาลปิดลง ในนั้นไฟเปิดตลอดเวลา พยาบาลคนหนึ่งถือเอกสารอะไรสักอย่าง เดินขึ้นรถด้านหน้าข้างคนขับ ไอ้พงษ์มองออกมาข้างนอกหน้าต่าง ดูเพื่อนทั้งสองที่ยืนส่ง ก่อนใบหน้าของพงษ์เพื่อนรักจะค่อย ๆ เคลื่อนออกไปพร้อมกับแสงกระพริบสีฟ้าแดงบนหลังคารถนั้น
14 วันต่อมา
ในมือกล้าตอนนี้เป็นกล่องสีแดงที่มีตัวหลังสือสีทอง ของเครื่องดื่มบำรุง กล้าเดินเข้าไปในบ้านตรงไปยังเตียงคนไข้ที่ตั้งอยู่กลางบ้านในห้องกลางบ้าน มีทีวีอยุ่ที่ปลายเตียง และมีโต๊ะเล็ก ๆ ใกล้เตียงคนไข้เพื่อให้คนดูแลหยิบจับเอาสิ่งจำเป็นเช่นแก้วน้ำดื่ม ได้สะดวก
"พ่อกินข้าวหน่อย" พงษ์พยุงพ่อขึ้นนั่งบนเตียง
"พ่อสวัสดีครับ" กล้าเดินเข้ามาพอดีเห็นเพื่อนกำลังพยุงพ่อเลยรีบเข้าไปช่วย
"นั่งเองได้...หมอบอกให้พ่อทำเอง แล้วข้าก็มีแรงนี่เห็นไหม" พ่อยกแขนสองข้างขึ้น และงอเข่าถีบเท้าสลับกันโชว์
"เอ้าไหนมึงบอกพ่อเส้นเลือดสมองแตกไง" กล้าถาม
"ก็ไม่ได้บอกว่าแตก...หมอบอกว่าตีบว่ะ เราไปโรงพยาบาลไวเลยได้ฉีดยาอะไรไม่รู้ พ่อเลยฟื้นตัวไวนี่แหล่ะ" กล้าเอาน้ำให้พ่อดื่ม " แต่กูก็คิดว่าคนพึ่งหายก็ต้องให้นอนพักสิวะ"
"หมอเขาให้ขยับก็ทำตามเถอะว่ะ เดี๋ยวก็มีปัญหาอีก แล้วต้องนอนเตียงขนาดนี้เลยเหรอวะไปเอามาจากไหนวะ"
"เอามาจากอนามัยบ้านเรานี่แหล่ะ คนป่วยมันก็ต้องนอนเตียงแบบนี้สิวะ จริงไหม" พงษ์ยักคิ้วให้เพื่อน ยืดอกยกไหล่ภูมิใจนักหนา
"พ่อไม่อยากขัดมันกล้าเอ้ย ช่างมันเถอะเพื่อความสบายใจของมัน" พ่อหัวเราะออกมาในขณะที่กล้าก็อดขำความเป็นห่วงที่ขัดกับบุคลิกห่ามของเพื่อนตัวเองไม่ได้
"ไอ้ทัดล่ะ" พงษ์ถาม
"ช่วงนี้ไม่ค่อดีว่ะ"
"อย่าบอกนะว่าอีกแล้ว"
"เออ เลิกกับไอ้จอยอีกแล้ว" กล้าเงียบไปสามวินาที "ลอบที่ล้าน"
"เหรอวะ เดี๋ยวมันก็กลับไปคืนดีกันอีกสิ"
"ไม่รู้ว่ะ แต่ครั้งนี้มันบอกว่าไอ้จอยมีคนใหม่ด้วยนะ"
"ใครวะ"
"ไม่รู้ ต้องถามมันเอาเอง"
ไม่นานไอ้ทัดหน้าตามอซอสีหน้าขอบตาดำคล้ำก็เดินเข้ามา มันยกมือไหว้พ่อแล้วก็เดินเอื่อยคอตกไปนั่งจ่อมอยู่ที่เก้าข้างไอ้กล้าอีกราวกับวิญญาณในร่างหลุดลอยไปหาทางกลับไม่ได้
"ไอ้ทัด มึงไปโดนตัวไหนมาวะ หน้าตาดูไม่ได้เลย" ไอ้พงษ์ถาม
"นอนไม่หลับว่ะ" ทัดก้มหน้าลงมองมือถือกดปุ่มข้าง ๆ ให้ปรากฏภาพพักหน้าจอและมองจนมือถือดับไปอีกรอบ "จอยมันไปแล้ว มันบอกว่าจะไปทำงานกรุงเทพ ไปกับไอ้เชี่ยแซม" คนกวนบาทาอย่างไอ้ทัดตอนนี้หน้าหงอยพูดประโคเมื่อกี้ออกมาเสียงสั่นเครือ
"เดี๋ยวนะ" กล้าพูดขึ้น "ที่มึงบอกว่ามันมีแฟนไหมเนี่ยคือพี่แซมแฟนเก่ามันเหรอ"
ไอ้ทัดพยักหน้าเชื่องช้า ราวกับตัวสล๊อต
"โธ่เพื่อนเอ้ย" พงษ์เดินมากอดคอเพื่อน ไอ้ทัดที่นั่งข้าง ๆ ก็กอดด้วยอีกคน
เย็นนั้นแม่ของพงษ์ชวนทั้งสามคนกินข้าว ด้วยการนั่งล้อมวงที่เสื่อ มีไข่ทอด ไก่ใต้น้ำฝีมือต่าย ลาบหมูที่แม่พงษ์ทำ จิ้งหรีดทอด มีแต่ของที่ไอ้ทัดเคยบอกแม่ไอ้พงษ์ว่าเป็นของชอบของมันทั้งนั้น
"เอ้านี่" กล้าตักไข่เจียวใส่ในจานของไอ้คนที่เขี่ยข้าวเล่นไม่ยอมกินเสียดี
"ไอ้เชี่ยทัด กินข้าว" เสียงไอ้พงษ์ตวาดแทรกไปกลางวง ไอ้คนที่เอาแต่เขี่ย ๆ เลยตักข้าวเข้าปาก แต่ก็ช้ายิ่งกว่าตัวสล๊อตตัวเดิมนั้นเสียอีก
"วันนี้นอนบ้านไอ้พงษ์เถอะ...เราสามคนไม่ได้ค้างที่นี่นานแล้ว"
"เออนอนนี่เลย เดี๋ยวกูบอกแม่มึงให้"
ไอ้ทัดก็พยักเพยิดหน้าเชื่องช้าไปตามที่เพื่อนสองคนว่าไม่ปฏิเสธ
ทุกครั้งที่ไอ้ทัดอกหัก มันจะต้องมาหาเรื่องค้างบ้านเพื่อนเสมอ ไม่บ้านไอ้ทัดก็ไอ้พงษ์ มันอยู่คนเดียวไม่ได้ มันบอกว่าอยู่คนเดียวแล้วคิดอะไรไม่รู้ คิดจนนอนไม่หลับ เพราะงั้นบ้านใครก็ได้ในสามคนนี้ในยามที่ไอ้เสี่ยนี่อกหัก จึงกลายเป็นธรรมเนียมไปแล้วเสียไม่รู้เมื่อไหร่
"ต่ายอยู่บนเตียงเลย เดี๋งพงษ์นอนข้างล่างกับไอ้สองตัวนี้เอง" ต่ายที่เอาที่นอนปิ๊กนิกมาปูตอนนี้กำลังวางหมอนสามใบและเอาผ้าห่มในตู้ห้องแม่ออกมาให้สามผืน
"ทัดนอนเถอะนะ อย่าคิดมาก" ต่ายยิ้มให้เพื่อนของแฟนอย่างอ่อนโยน
"พอแล้ว พอแล้ว ต่ายไปนอนเลย" ไอ้พงษ์ไล่ให้ไปนอน "ไอ้กล้ามึงมาฝั่งนี้ กูจะนอนฝั่งเตียง"
"ไอ้ห่าก็ไม่ชอบนอนใกล้ประตู เดี๋ยวคนเดินเข้าเดินออกกูรำคาญ"
"ไม่ได้...มึงไปฝั่งนั้นเลย"
"เดี๋ยวกูไปเอง" ทัดพูดขึ้นเนิ้บ ๆ
"ไอ้ทัดมึงนอนตรงกลาง เดี๋ยวละเมอเดินออกจากบ้านกูขี้เกียจตามหา"
คนอกหักได้แต่พยักหน้าไม่ต่อล้อต่อเถียงอะไร
ในความมืดแสงของดวงจันทร์ลอดผ่านหน้าต่างที่เปิดไว้เข้ามาในห้อง อากาศเย็นจากสวนยาง และเสียงใบไม้ไหวพร้อมกันทั้งป่ายาง
ต่ายมองดูทั้งสามคนที่นอนก่ายขากันยังกะเด็กห้าขวบที่วิ่งเล่นด้วยกันที่สวนยาง และเหนื่อยอ่อนจนหลับไปในที่สุด เธอยังจำได้และจำได้ดี ตั้งแต่เข้ามาอยู่ที่นี่ ทั้งสามคนนี้ไม่เคยจะห่างกัน ทั้งเรื่องที่มีความสุขและเรื่องที่มีความเศร้า ทั้งสามจะผ่านมันไปด้วยกันเสมอ แม้จะไม่ใช่พี่น้องที่เกิดจากพ่อแม่เดียวกัน แต่ทั้งสามก็รักกันราวกับโลกนี้มีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่จะอยู่ด้วยกันไม่ว่าจะเจอเรื่องหนักแค่ไหนก็ตาม
เธอมองทั้งสามที่หลับพริ้มไปใต้แสงจันทร์นั้นอย่างไร้กังวล
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย