23 ก.ย. 2023 เวลา 12:30 • หนังสือ

14 ข้อจากหนังสือ ‘The Gift of Influence เราทุกคน คือ แรงดลใจ’

ผมได้สรุปหรือนำข้อความที่น่าสนใจของเล่มนี้มาฝากกันแล้วครับ
1 หากเราอำลาโลกนี้ไป แล้วเราไปยืนในสนามบอลท่ามกลางคนกว่า 80,000 คน
คนเหล่านั้นล้วนเป็นคนที่เราส่งอิทธิพล (Influence) ถึงเขา ทุกคนล้วนมาปรบมือ ดีใจและแสดงความขอบคุณ หรือเงีบเฉย โห่ร้อง สิ่งนั้นมันก็ขึ้นกับเราเคยทำอะไรไว้ในอดีตครับ
เราลองนึกภาพตามว่าอยากให้อิทธิพลนั้นเป็นบวกหรือลบ เราเลือกได้ครับ
2 LEAD คุณสมบัติของผู้ทรงอิทธิพล
คือ Lift (เชิดชู) Embrace (โอบอุ้ม) Act (ลงมือทำ) และ Devote (อุทิศตน)
1
3 กัปตันทีมไม่ต้องเล่นยอดเยี่ยมที่สุดก็ได้ แต่ต้องเป็นคนที่เยี่ยมยอดของทีม
กัปตันมีใจให้ทีมมากที่สุด แต่ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ มีอิทธิพลบวกสุดๆต่อเพื่อนร่วมทีม
การเป็นกัปตันทีมหมายถึงการโอบอุ้มเพื่อนผู้ที่อ่อนที่สุดในทีม และช่วยให้เขากลายเป็นเด็กที่เก่งที่สุดยังไงล่ะ
นี่คือคำสอนของคุณ Tommy ผู้เขียนสอนลูกชายของเขา
4 หัวใจของอิทธิพลดลใจ คือ 3I จาก Influence
ได้แก่ Interest (ใส่ใจ) Investment (ลงทุน) และ Intent (เจตนา)
5 ทุกใบหน้ามีชื่อ ทุกชื่อมีเรื่องราว
ถ้าแนะนำตัวกับคนใหม่ ๆ คุณ Toomy จะขอให้ช่วยเล่าเรื่องของตัวเองให้เขาฟัง
ใคร ๆ ก็อยากเล่าเรื่องของตัวเองหากเราถามอย่างจริงใจ
การที่เราจะส่งอิทธิพลบวกให้คนอื่นได้ เราก็ต้องใช้เวลาศึกษาเรื่องราวของเขา
6 มันฟังอาจจะยากแต่คุณ Tommy บอกว่านี่คือการเริ่มส่งอิทธิพลทางบวกให้คนอื่นได้ง่ายที่สุด
นั่นคือ การเอ่ยปากชมคนแปลกหน้า เพราะบางทีเขาคนนั้นอาจเจอเรื่องร้ายมาทั้งวันแล้ว
เราไปชื่นชมเขา นั่นอาจทำให้ความรู้สึกดีๆ กระจายเป็นวงกว้างก็ได้ครับ
1
7 ความเมตตาเป็นสิ่งที่สำคัญมากนะครับ
บางทีเราอาจจะมีน้อยมากเลยก็ได้ หากอยากฝึก จงลองทำความเข้าใจคนอื่นอย่างแท้จริง
และช่วยเขาเท่าที่จะช่วยได้ แม้ตัวเขาไม่ได้เปลี่ยนแปลงใด ๆ แต่ตัวเรานั้นจะเป็นคนที่เปลี่ยนแปลงแน่นอน
1
8 เราทิ้งมรดกอะไรเอาไว้ให้คนรุ่นหลัง จริงๆไม่จำเป็นต้องเป็นทรัพย์สิน
เพียงทุ่มเทในความสัมพันธ์ที่มี ให้ใครสักคนมีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป นั่นก็เป็นมรดกที่ล้ำค่าแล้วครับ
1
9 รักษาสัญญาตามที่พูดเอาไว้นั่นคือดีที่สุด ทำมากกว่านั้นก็ไม่ได้ส่งผลดีอะไร
จริง ๆ ข้อนี้ผมก็ไม่ได้ทำได้ 100 % ครับ แต่การอ่านในบทนี้ ทำให้รู้ว่ามันสำคัญจริง ๆ และผมจะทำให้ดีขึ้นอีกครับ
อีกวิธีคือเป็นนายของคำพูด นั่นคือใส่ใจถ้อยคำที่ใช้พูดกับคนอื่นด้วย
และนี่คือ 2 วิธีที่จำรักษาคำพูดได้ครับ
10 ต่อจากข้อ 8 หากยังไม่แน่ใจว่าจะส่งอิทธิพลบวกอะไรดีให้ผู้อื่น
จงสม่ำเสมอ และอยู่เคียงข้าง ปรากฏตัวทุกครั้งยามที่เขาต้องการ
11 เจตนาในการส่งอิทธิพลต้องเป็นบวก จะทำให้อิทธิพลนั้นอยู่ได้ยาวนาน
บางทีอาจจะต้องเสียสละมากกว่าคนอื่นด้วย
เพราะเจตนาเป็นเรื่องของคำถาม ว่าทำไมเราถึงนำผู้อื่นนั่นเอง
12 การเป็นคนส่งอิทธิพลทางบวกก็สามารถขอความช่วยเหลือได้เช่นกัน
เราสามารถเป็นผู้รับที่ดีได้มากขึ้น หากอยากเริ่มต้น
จงคิดว่า คำชมเชยที่สำคัญที่สุดที่เราจะมอบให้คนอื่น คือ การให้เกียรติโดยการขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นครับ
13 และนี่คือข้อสำคัญเลยครับ ที่ตอนแรกผมอ่านแล้วก็รู้สึกว่าเรื่องนี้มีแต่การให้ผู้อื่น
แต่คนที่สำคัญที่สุดที่เราควรจะรักและส่งอิทธิพลทางบวกให้ นั่นคือ ตัวเราเอง
และนั่นคือ I ตัวสุดท้าย นั่นคือตัวเราครับ
14 สุดท้ายการส่งอิทธิพลดีให้ผู้อื่น คือ การพูดให้น้อยและฟังให้มากขึ้น
ทำสิ่งนั้นโดยไม่หวังผลตอบแทน ช่วยให้ผู้ติดตามเราสำเร็จมากกว่าตัวเราเอง
และอย่าลืมการถ่อมตัวด้วยครับ
เป็นเล่มที่อ่านแล้ว ผมรู้สึกอยากเป็นคนที่ส่งอิทธิพลทางบวกให้มากขึ้น
ทำให้ผมมีกำลังใจในการทำเพจนี้ขึ้นมากขึ้นครับ
เพราะผมได้ส่งต่อความรู้ ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคดีๆ กำลังใจหรือข้อคิดดีๆ ให้กับคนอื่น
ได้คิดว่าสิ่งที่เราโพสไปในแต่ละวัน มันเปลี่ยนชีวิตใครไปบ้าง แม้เล็กน้อยหรือมากขนาดไหนก็ตาม
ใครรู้สึกว่าได้รับประโยชน์จากเพจของผมก็พิมพ์บอกกันได้นะครับ
เป็นหนังสือที่น่าสนใจเล่มหนึ่งเลยครับ ที่ผมชอบเล่มนี้เพราะเรื่องราวส่วนใหญ่ภายในเล่มนำมาจากประสบการณ์จริงของคุณ Tommy Spaulding ครับ
ผู้เขียน Tommy Spaulding
จำนวนหน้า หน้า
สำนักพิมพ์ Amarin howto
โฆษณา