23 ก.ย. 2023 เวลา 10:38 • ดนตรี เพลง

[รีวิวอัลบั้ม] BB/ANG3L - Tinashe >>> นางฟ้าบอลรอง

-รู้สึกพลาดที่ผมไม่ได้พูดถึง Tinashe มานานมากพอสมควร ต่อให้ผมจะชอบผลงานของเธอมากก็ตาม แต่ด้วยจังหวะเวลาและโอกาสไม่ค่อยเอื้ออำนวย เลยอดที่จะรีวิวหน้าเพจเป็นเรื่องเป็นราวมากนัก เมื่อไม่นานมานี้ เธอเพิ่งมีประเด็นวิวาทะสุดฮือฮากับ Chris Brown ที่เธอให้สัมภาษณ์ย้อนไปถึงวันวานที่เธอเพิ่งเข้าค่าย RCA Records
-โดยกล่าวว่า การมี Chris Brown ในเพลงของเธอครั้งนั้นเป็นการตัดสินใจของค่ายมากกว่าเธอจิ้มเลือกเองเสียเอง ซึ่งก็ถูกตีความไปในทิศทางเดียวกันว่า เธอไม่เต็มใจจะร่วมงานกับแร็ปเปอร์ทรงอย่างแบดในครั้งนั้นมากนัก พอแร็ปเปอร์เลือดร้อนรู้เข้า ถึงขั้นแซะกลับ Tinashe ในโซเชี่ยลมีเดียอย่างร้ายกาจว่า “พวกมึงช่วยลิสท์ 5 เพลงของทีนาเช่หน่อยดิ ไม่งั้นตาย”
-พอมีเรื่องกับ Chris Brown ที่ดังกว่าเธออย่างปฏิเสธไม่ได้ ทีนาเช่ก็ติดเทรนด์ X ในตอนนั้นอยู่เหมือนกัน บ้างก็อยู่ข้างเธอ บ้างก็โจมตีเธอในเชิงสมน้ำหน้าที่โดนแซะแบบนั้น ซึ่งต่อมาทีนาเช่ก็ขอเคลียร์ถึงดราม่าที่เลยเถิดในครั้งนี้ พร้อมทั้งอยากเข้าไปคุยปรับความเข้าใจแร็ปเปอร์เจ้าของเพลง Under The Influence ซึ่งเธอก็ไม่คาดหวังให้จบกันด้วยดีในเร็ววัน
-จะว่าไปตลกร้ายตรงที่ดราม่าครั้งนี้ดังกว่าผลงานล่าสุดของเธอเสียอีก ยิ่งปล่อยชน Olivia Rodrigo ที่ไปได้สวยทั้งยอดขายและคำวิจารณ์จากอัลบั้ม GUTS ซะด้วย แต่นั่นคงไม่มีผลต่อตัวเธอมากนัก เพราะการกลับมาคราวนี้จึงเปรียบเหมือนการสร้างพื้นที่เล็กๆซึ่งดูแล้วเธอน่าจะพึงพอใจจนไม่ให้น้ำหนักด้านชื่อเสียงอีกต่อไป
-ที่บอกว่า “เล็กๆ” เป็นบริบทที่สอดรับกับชื่ออัลบั้มที่อ่านว่า Baby Angel ปริมาณแค่ 7 แทร็คใช้เวลา 20 นาทีเศษเท่านั้น ไม่เน้นเล่นใหญ่แบบชุดก่อน 333 รวมไปถึงการโบยบินเป็นศิลปินอิสระที่เปรียบเหมือนคนตัวเล็กตัวน้อยที่สู้กับ music industry ไร้ซึ่งการหุ้มเกราะโดยค่ายเพลงแต่อย่างใด
-ทีนาเช่เลือกที่จะไม่ใส่ความทะเยอทะยานในแง่ของการโชว์ศักยภาพหรือใส่ความอาร์ตลงไปในผืนผ้าใบมากนัก แต่เธอเลือกที่จะทำตัวเข้าหาผู้ฟังให้มากที่สุดโดยที่ไม่ต้องเต้นหรือตะโกนมากนัก เราจึงได้เห็นปกอัลบั้มที่ไม่มีอะไรมากนอกจากภาพ close up portrait ตัวเธอเองด้วย outfit เสื้อกล้ามสามัญธรรมดา ไม่มีสัญลักษณ์หรือโลโก้ใดๆทั้งสิ้น นี่จึงเป็นงานเพลงที่เธอจงใจให้ใกล้ชิดแบบส่วนตัวมากที่สุดโดยที่ไม่ต้องใส่นัยยะทางศิลปะภาษาลงไปมากนัก
-“การปลอกเปลือก”เพื่อใกล้ชิดคนฟัง ดูเป็นเรื่องง่ายแบบที่ไม่ต้องคิดคอนเซ็ปต์อะไรมากมาย แต่ก็ยากในการทำยังไงก็ได้ไม่ให้จืดชืดจนเกินไปเช่นกัน ยิ่งเราอยู่ในยุคที่ทางเลือกเยอะแยะมากมายและการพึ่ง feature เป็นธรรมเนียมแห่งสีสันปกติไปแล้ว หากลุยเดี่ยวไปเลยย่อมจืดอย่างช่วยไม่ได้
-แต่สำหรับสาว Kentucky รายนี้กลับสอบผ่านด้วยวิธีที่ฉลาดมากๆ อย่างแรกเลยคือ ไม่เน้นปริมาณ ผมมักจะบ่นเรื่อง quantities over quality ในรีวิวอัลบั้มที่เป็นแบบนี้ประจำ โดยเฉพาะศิลปินวงการฮิปฮอปและอาร์แอนด์บีที่เป็นห่าไรไม่รู้ชอบยัดปริมาณแทร็คจนล้นเกินความพอดีโดยที่พี่ไม่คิดจะ filter เลยรึไง?
-ถ้าจำนวนแทร็คอันน้อยนิดไม่ถึงสิบคงจะเป็นอะไรที่ขาดหาย ถ้าหากมองข้าม “การสร้างบรรยากาศเฉพาะ” อันเป็นสิ่งที่ช่วยขับเคลื่อนความไดนามิกให้ตัวอัลบั้มได้ต่อเนื่องและแนบเนียน
-บรรยากาศเฉพาะตัวของสาวทีนาเช่รอบนี้ก็ชัดเจนดีครับ ยึดโยงความเป็นส่วนตัวแบบจับให้แน่นไม่เฉไฉ สุ้มเสียงของอัลบั้มนี้จึงไม่โฉ่งฉ่างจนหนวกหู Treason แทร็คเปิดอัลบั้มที่เธอเน้นกวักมือคนที่ royalty กับเธอจริงๆมากกว่าการหยิบยื่นความรักให้ใครก็ไม่รู้ กระเพื่อมด้วยลูกเล่นเอคโค่ในช่วงท้ายเพลงให้ความรู้สึกพรายกระซิบจริงเชียว None Of My Business ฟีลเหมือนนัดบอดเอามากๆ
-ความ minimal ข้างต้นก็ไม่ลืมที่จะ catchy ซึ่งสำคัญมากๆกับการเข้าหาและตกคนฟังให้อยู่ในภวังค์ได้ ซึ่งทีนาเช่ก็ไม่มองข้ามจุดๆนี้ ถ้าหากว่าเพิ่งค้นพบเธอในปี 2023 เริ่มต้นด้วยอัลบั้มนี้ก็คงไม่สาย เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในแง่ของการเสพย์อาร์แอนด์บีที่ simple & clear จริงๆ
-เริ่มจากเพลง middle jam ที่ให้อารมณ์ไม่ยั่วจนเกินไปอย่าง Needs ที่ยังคงไว้ซึ่งท่วงท่าลีลาป็อปอาร์แอนด์บีที่แข็งแรง Uh Huh เป็นการแสดงความรู้สึกแบบเติมช่องว่างเอาไว้บ้าง ประหนึ่งเธออยากจะเดาใจใครบางคร Gravity ที่มีลวดลายของคอรัสที่ทำให้การกระซิบกระซาบมีความพริ้วไหวดุจแพรไหม เป็นความงดงามที่ผมยกให้เป็น the best
-อีกทั้งสิ่งที่เธอมักใส่ลงไปในงานเพลงโดยนัยเสมอคงหนีไม่พ้น การแสดงจุดยืนบางอย่างที่ทำให้เข้าใจได้ว่า เธอยินดีที่จะอิสระโดยที่ไม่ผูกติดยอดขายหรือทุนนิยมมากนัก Talk To Me Nice ซิงเกิ้ลแรกจังหวะวูบวาว ค่อนข้างบอกชัดเกี่ยวกับนิสัยที่ไม่ค่อยอยากมีปัญหากับใคร บวกกับการรังสรรค์งานเพลงที่เน้นความซื่อตรงต่อตนเองมากที่สุดโดยที่ไม่มีอะไรมายั่วยุให้เธอเฉไฉได้โดยง่าย โดยเฉพาะข้อเสนอที่ปฏิเสธไม่ได้อย่าง “เงินทอง”
-และเพลงปิดท้ายอัลบั้ม Tightrope ที่เธอยอมเสี่ยงในการเลือกที่จะไต่เชือกข้ามตึกระฟ้าอย่างเด็ดเดี่ยวโดยที่ไม่ย้อนอดีตอัน toxic จากความรักที่ผ่านๆมา และไม่มองลงไปเพื่อโฟกัสกับปัจจุบันเท่านั้น
“บทเรียนสำคัญที่ฉันได้เรียนรู้คือ เมื่อฉันเข้าใจความรู้สึกของตัวเองในตอนนั้นมากที่สุด ฉันจะสามารถรังสรรค์งานศิลปะได้จริงแท้ 100 เปอร์เซ็นต์”
บทสัมภาษณ์ Tinashe ในเว็บไซต์ Bravity
-คำพูดข้างต้นพอบอกที่มาที่ไปในสิ่งที่ BB/ANG3L เป็นมากที่สุด ในความอิสระเต็มที่ของเธอได้ผ่านการทดลองมาแล้วมากมายในจุดนึง พอเมื่อเป็นผู้ใหญ่ขึ้นก็ถึงเวลาวกเข้าสู่วิถี back to basic ราวกับรู้ลิมิตโดยอัตโนมัติเพื่อสื่อสารแฟนเพลงด้วยภาษาที่เข้าใจง่ายที่สุด
-อย่างไรก็ดี ไม่ได้เพลย์เซฟแบบดูถูกความท้าทายแฟนเพลง ปนเปทั้งรส traditional อย่างที่เคยได้ยินในงานเพลงชุด Songs For You สมัยที่เธอเพิ่งออกจาก RCA Records และยังผสมผสานลูกเล่นความอาร์ตบางอย่างจาก 333 แล้วมาระคนจนกลมกล่อมในปริมาณที่พอดิบพอดี นี่จึงเป็นงานไซส์ minimal ที่รู้ใจตัวเองมากที่สุด และยังคงความ catchy ที่ตกตะกอนมากพอเป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆในการย้อนกลับไปฟังผลงานชุดก่อนอีกทีนึง
เสียงจากคนตัวเล็กที่รอการใกล้ชิดกว่านี้
Give 7.5/10
Thx 4 Readin’
See Y’all
โฆษณา