-รู้สึกพลาดที่ผมไม่ได้พูดถึง Tinashe มานานมากพอสมควร ต่อให้ผมจะชอบผลงานของเธอมากก็ตาม แต่ด้วยจังหวะเวลาและโอกาสไม่ค่อยเอื้ออำนวย เลยอดที่จะรีวิวหน้าเพจเป็นเรื่องเป็นราวมากนัก เมื่อไม่นานมานี้ เธอเพิ่งมีประเด็นวิวาทะสุดฮือฮากับ Chris Brown ที่เธอให้สัมภาษณ์ย้อนไปถึงวันวานที่เธอเพิ่งเข้าค่าย RCA Records
-โดยกล่าวว่า การมี Chris Brown ในเพลงของเธอครั้งนั้นเป็นการตัดสินใจของค่ายมากกว่าเธอจิ้มเลือกเองเสียเอง ซึ่งก็ถูกตีความไปในทิศทางเดียวกันว่า เธอไม่เต็มใจจะร่วมงานกับแร็ปเปอร์ทรงอย่างแบดในครั้งนั้นมากนัก พอแร็ปเปอร์เลือดร้อนรู้เข้า ถึงขั้นแซะกลับ Tinashe ในโซเชี่ยลมีเดียอย่างร้ายกาจว่า “พวกมึงช่วยลิสท์ 5 เพลงของทีนาเช่หน่อยดิ ไม่งั้นตาย”
-พอมีเรื่องกับ Chris Brown ที่ดังกว่าเธออย่างปฏิเสธไม่ได้ ทีนาเช่ก็ติดเทรนด์ X ในตอนนั้นอยู่เหมือนกัน บ้างก็อยู่ข้างเธอ บ้างก็โจมตีเธอในเชิงสมน้ำหน้าที่โดนแซะแบบนั้น ซึ่งต่อมาทีนาเช่ก็ขอเคลียร์ถึงดราม่าที่เลยเถิดในครั้งนี้ พร้อมทั้งอยากเข้าไปคุยปรับความเข้าใจแร็ปเปอร์เจ้าของเพลง Under The Influence ซึ่งเธอก็ไม่คาดหวังให้จบกันด้วยดีในเร็ววัน
-บรรยากาศเฉพาะตัวของสาวทีนาเช่รอบนี้ก็ชัดเจนดีครับ ยึดโยงความเป็นส่วนตัวแบบจับให้แน่นไม่เฉไฉ สุ้มเสียงของอัลบั้มนี้จึงไม่โฉ่งฉ่างจนหนวกหู Treason แทร็คเปิดอัลบั้มที่เธอเน้นกวักมือคนที่ royalty กับเธอจริงๆมากกว่าการหยิบยื่นความรักให้ใครก็ไม่รู้ กระเพื่อมด้วยลูกเล่นเอคโค่ในช่วงท้ายเพลงให้ความรู้สึกพรายกระซิบจริงเชียว None Of My Business ฟีลเหมือนนัดบอดเอามากๆ
-เริ่มจากเพลง middle jam ที่ให้อารมณ์ไม่ยั่วจนเกินไปอย่าง Needs ที่ยังคงไว้ซึ่งท่วงท่าลีลาป็อปอาร์แอนด์บีที่แข็งแรง Uh Huh เป็นการแสดงความรู้สึกแบบเติมช่องว่างเอาไว้บ้าง ประหนึ่งเธออยากจะเดาใจใครบางคร Gravity ที่มีลวดลายของคอรัสที่ทำให้การกระซิบกระซาบมีความพริ้วไหวดุจแพรไหม เป็นความงดงามที่ผมยกให้เป็น the best
-คำพูดข้างต้นพอบอกที่มาที่ไปในสิ่งที่ BB/ANG3L เป็นมากที่สุด ในความอิสระเต็มที่ของเธอได้ผ่านการทดลองมาแล้วมากมายในจุดนึง พอเมื่อเป็นผู้ใหญ่ขึ้นก็ถึงเวลาวกเข้าสู่วิถี back to basic ราวกับรู้ลิมิตโดยอัตโนมัติเพื่อสื่อสารแฟนเพลงด้วยภาษาที่เข้าใจง่ายที่สุด
-อย่างไรก็ดี ไม่ได้เพลย์เซฟแบบดูถูกความท้าทายแฟนเพลง ปนเปทั้งรส traditional อย่างที่เคยได้ยินในงานเพลงชุด Songs For You สมัยที่เธอเพิ่งออกจาก RCA Records และยังผสมผสานลูกเล่นความอาร์ตบางอย่างจาก 333 แล้วมาระคนจนกลมกล่อมในปริมาณที่พอดิบพอดี นี่จึงเป็นงานไซส์ minimal ที่รู้ใจตัวเองมากที่สุด และยังคงความ catchy ที่ตกตะกอนมากพอเป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆในการย้อนกลับไปฟังผลงานชุดก่อนอีกทีนึง