24 ก.ย. 2023 เวลา 07:46 • ท่องเที่ยว
สหรัฐอเมริกา

เทคนิคการขอวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา 10 ปี Approved!!!

จากประสบการณ์ตรงของผู้เคยโดนปฏิเสธวีซ่าท่องเที่ยว ทำการแก้ไขวิธีจนได้รับอนุมัติวีซ่าท่องเที่ยว 10 ปีค่ะ อ่านสักนิดก่อนคิดทำวีซ่า จะได้ไม่เสียเงินค่าวีซ่าหกพันบาทไปฟรีๆค่า
เราเป็นคนหนึ่งซึ่งมีโอกาสในการไปเรียนต่อที่อเมริกา โดยใช้เวลาเรียนโท กิน เที่ยว เล่น ทำงาน ทั้งหมดเป็นเวลา 5 ปี อยู่อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ได้ทำผิดกฎแต่อย่างไร (ยกเว้นผิดกฎจราจรบ้างในบางครั้ง) หลังการเรียนและทำงานมาถึงจุดอิ่มตัว บวกกับเรื่องความชราและอาการเจ็บป่วยของบุพการี มาบรรจบกัน ก็เป็นเหตุอันสมควรให้ต้องกลับบ้าน
หลังจากกลับมาใช้ชีวิตที่เชียงใหม่ได้ห้าปี มีการงานที่เริ่มมั่นคง ก็เกิดความอยากที่จะไปเยี่ยมเยียนเพื่อนที่อเมริกา ด้วยความมั่นหน้ามั่นโหนกว่าเราเคยไปร่ำเรียนที่นั่นมาก่อนยังไงๆ การขอวีซ่าในครั้งนี้ก็ไม่น่าพลาด!
มั่นใจมากทำการเตรียมเอกสารเอง ดำเนินการเองทั้งหมด มีเงินในธนาคารประมาณห้าแสน ไม่แน่ใจว่าจะผ่านเลยยืมเงินแม่ 1 ล้านมาทำ statement ก่อนไปสัมภาษณ์ประมาณสามเดือน เอกสารเรียบร้อย รอไปสัมภาษณ์สวยๆ วันสัมภาษณ์เดินจากที่ทำงานไปแบบสบายๆคิดว่ายังไงก็คงได้ แต่ผลปรากฏว่า ไม่ผ่านจ้า!
คำถามที่เจ้าหน้าที่ถาม 1. จะไปทำอะไรที่อเมริกา
2. ไปนานเท่าไร
3. ทำงานอะไร ทำมานานแค่ไหน รายได้เท่าไร
4. หลังจากนั้นนางขอดูเอกสารการทำงาน
สุดท้ายนางก็หันไปพิมพ์ข้อมูล แล้วยื่น Passport เราคืนพร้อมเอกสาร 1 ใบแล้วบอกว่า “Your visa is not approved” เรางงไปสามวิ แล้วถามว่า “Why?” นางบอกว่าให้ไปดูในเอกสารชี้แจง แล้วให้เราออกจากที่สัมภาษณ์
เอกสารที่ชี้แจงก็เป็นการปฏิเสธแบบกว้างๆเท่านั้น เขียนประมาณว่าเอกสารและข้อมูลของเราไม่เพียงพอที่จะทำให้ได้รับการอนุมัติ
อารมณ์ตอนนั้นจะเป็นอารมณ์งงๆหน้าชา เสียเงินค่าขอวีซ่าห้าพันก็เรื่องหนึ่ง แต่เสียหน้าเสียฟอร์มคือเรื่องที่ใหญ่กว่า ทำเอาหมดความมั่นใจ ได้แต่โทษคนสัมภาษณ์ว่านางเขี้ยว คงจะเป็นความซวย นี่ไม่ใช่ความผิดของชั้น! กลายเป็นว่าอาฆาตแค้นกงสุลอเมริกา ไม่ให้ก็ไม่ไป ไปที่อื่นก็ได้ หลังจากนั้นเราไปเที่ยวไต้หวัน ญี่ปุ่น และเนื่องจากโควิดเลยทำให้การเดินทางไปเที่ยวของคนทั่วโลกต้องชะงักงันไปเกือบสามปี
เดือนมีนาคม ปี 2023 เกิดวิกฤตหลายอย่างในชีวิตเลยปรับทุกข์กับเพื่อนที่อยู่อเมริกา เพื่อนเลยบอกว่าทำไมไม่มาอเมริกาหละ ไป Yosemite กัน ที่เราเคยจะไปแล้วไม่ได้ไปด้วยกัน เออหวะ ปมสิบกว่าปีก่อนตอนเป็นนักศึกษายากจนไปเที่ยวไหนไม่ได้กลับมาหลอกหลอน ตอนนั้นใช้ชีวิตเดือนชนเดือน มีข้าวกินถึงสิ้นเดือน จ่ายค่าเช่าบ้านพอคือเป้าหมายสำเร็จของชีวิตแล้ว ใช้เวลาตัดสินใจ 1 คืน รวบรวมความมั่นใจกลับไปง้องอนขอวีซ่าอเมริกาอีกสักรอบ
ผ่านมาเกือบห้าปีหลังการไปขอวีซ่าครั้งสุดท้ายนอกจากอายุที่เพิ่มขึ้นแล้ว profile ส่วนตัวก็เปลี่ยน หน้าที่การงานทำที่เดิมมาเกือบ 8 ปี เติบโตขึ้นตามลำดับ เงินเดือนเยอะขึ้น เงินเก็บมีเยอะขึ้นจากหลักแสนเป็นหลักล้าน รอบนี้เตรียมเอกสารน้อยลงแต่แน่นขึ้น เอกสารและวิธีสมัครวีซ่าอ่านจาก website นี้ค่ะ www.thai-canada.com/17541861/ขอวีซ่าอเมริกา (ขอขอบคุณผู้เขียนด้วยค่ะ ช่วยได้มากเลย) เตรียมตัวอย่างไรมีเทคนิคอย่างไร มาลองอ่านกันค่ะ
1. เริ่มจากรู้เขา รู้เรา ปรับ mindset กันก่อนค่ะ ต้องคิดว่าเจ้าหน้าที่สถานทูต เค้ามีความคิดว่า เราทุกคนที่ไปขอวีซ่ามีโอกาสจะโดดวีซ่าไปเป็น Robinhood (ศัพท์เรียกคนหนีวีซ่าเข้าเมืองอเมริกา ไปทำงาน แล้วไม่กลับเมืองไทย) เรามีหน้าที่ทำอย่างไรก็ได้มาหักล้างความคิดนี้ค่ะ
2. เริ่มจากเอกสารการขอวีซ่า DS-106 กรอกให้ถูกต้องตรงความจริงที่สุดค่ะ เตรียมเวลาการกรอกข้อมูลไปเลยครึ่งวัน รายละเอียดเยอะมากค่ะ เชื่อได้ว่าพอกรอกเสร็จทางเจ้าหน้าที่สถานทูตจะรู้จักตัวเราดียิ่งกว่าพ่อกับแม่เราอีกค่ะ ศัพท์ตัวไหนไม่รู้ไม่เข้าใจอย่า ทำส่งๆข้ามๆไป เจ้าหน้าที่เค้าละเอียดกว่าที่เราคิด เราทำวีซ่าทุกขั้นด้วยตัวเองทั้งหมดอาจใช้เวลานานหน่อย ส่วนตัวคิดว่าถ้ากรอกเองได้ทำเองดีกว่า ประหยัดเงินไว้ไปเที่ยว ตรวจทานหลายๆรอบก่อน submit เพราะถ้าส่งไปแล้ว นัดคิวสัมภาษณ์แล้วกลับมาแก้ไม่ได้
3. ประวัติการเคยโดนปฏิเสธวีซ่า ตอนกรอกข้อมูลคิดว่าจะกรอกดีไม่กรอกดี เอาเป็นว่าเราต้องซื่อสัตย์กรอกข้อมูลตามจริง เราเคยโดนปฏิเสธวีซ่าทำงานที่อเมริกา 1 ครั้ง เคยโดนปฏิเสธวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา 1 ครั้ง เคยโดนปฏิเสธวีซ่าท่องเที่ยวแคนาดา 1 ครั้ง โดยให้เหตุผลที่โดนปฏิเสธว่าเราให้เอกสารไม่เพียงพอที่จะทำให้เจ้าหน้าที่เกิดความมั่นใจในการอนุมัติวีซ่า
4. เอกสารรับรองจากบริษัทเตรียมไปด้วยค่ะ ถ้าเอกสารรับรองเงินเดือนไม่ได้บอกรายได้ส่วนคอมมิสชั่น ตอนสัมภาษณ์เรื่องรายได้บอกไปด้วยนะคะ ว่ารายได้ส่วนเงินเดือนบวกค่าคอมเป็นเท่าไรต่อเดือน ที่อเมริการายได้ขั้นต่ำต่อเดือนน่าจะอยู่ประมาณ 90,000 บาท (แล้วแต่รัฐ) ถ้าเราได้รายได้มากกว่าหรือเท่ากับเท่านี้ โอกาสที่เค้าจะคิดว่าเราจะหนีไปทำงานแรงงานก็จะต่ำลงค่ะ คนรายได้น้อยกว่านี้อยู่ที่สามถึงสี่หมื่นที่มาสัมภาษณ์ด้วยกันก็ผ่านค่ะ การแสดงรายได้เยอะดีกว่าแต่น้อยก็ไม่ได้แปลว่าไม่ได้ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย
5. Statement ย้อนหลังไปสามเดือนค่ะ รอบนี้ไม่ได้ยืมใครมาเป็นเงินตัวเองล้วนๆ เลยมั่นใจค่ะ แนะนำว่าควรมีเงินในบัญชีอย่างต่ำสักสามแสนบาทขึ้นไป ยกตัวอย่างถ้าเราไปอเมริกา 10 วัน ต้องใช้เงินสักประมาณ 1 แสน ควรมีเงินในบัญชีไม่น้อยกว่าสามเท่าขึ้นไปค่ะ (เค้าคงคิดว่าไม่มีใครเอาเงินเก็บทั้งหมดไปเที่ยวหรอก นอกจากจะหนีไปต่างประเทศ)
6. ถ้าคนที่จะขอเป็นเจ้าของกิจการ freelance เคยไปฟังคลิปมา ถ้าเราทำบัญชีขาดทุน ไม่ได้เสียภาษี โอกาสได้จะน้อยลง อาจต้องหาเอกสารอย่างอื่น support อย่างเช่น statement ที่มากหน่อย
7. หากบอกว่าไปเที่ยวกับเพื่อน ไปเยี่ยมญาติที่อเมริกา ควรเตรียมประวัติของคนที่จะไปหาไว้ด้วยค่ะ แนะนำให้เลือกคนที่อยู่ที่โน่นแบบถูกกฎหมาย หน้าที่การงานดี เอาแบบที่ถ้าเกิดอะไรขึ้นเค้าคนนั้นจะช่วย support เราได้ รับรองเราได้ เราเลือกเพื่อนที่เป็นประชากรอเมริกา ทำงานกับรัฐบาลอเมริกา ให้เค้าเขียนจดหมายหรือเราเขียนแล้วให้เค้าเซ็นรับรอง
8. เคยมีคนบอกว่าเวลาไปขอวีซ่าแล้วโดนปฏิเสธข้อมูลจะเก็บไว้ห้าปี แล้วจะล้างข้อมูลใหม่ อันนี้ไม่น่าจะจริง คนสัมภาษณ์ถามข้อมูลเรายันไปถึงตอนเรียนโท สิบกว่าปีที่แล้วโน่นเลย เพราะฉะนั้นเตรียมประวัติย้อนหลังไว้ด้วยค่ะ
9. รูปถ่ายแต่ละสถานทูตแต่ละประเทศมีข้อกำหนดไม่เหมือนกัน อย่าเอามาใช้แทนกัน เพราะถ้าไม่ตรงตามที่เค้าขอมีโอกาสโดนปรับตกค่ะ
10. ไปก่อนสัมภาษณ์อย่างน้อย 15 นาที แต่งตัวสุภาพ เรียบร้อย ให้เกียรติสถานที่ด้วยค่ะ
11. ถ้าพูดอังกฤษได้เลือกสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษดีกว่าค่ะ เราจะไปประเทศเค้า สื่อสารภาษาได้น่าจะมีภเครดิตดีกว่า คนสัมภาษณ์พูดช้า ชัดเจน ไม่ต้องกลัวฟังไม่รู้เรื่อง เราไม่ได้ฟังรู้เรื่องร้อยเปอร์เซ็นต์ พูด Grammar ไม่ได้ถูกต้อง พอเอาตัวรอดได้ แต่ถ้าไม่มั่นใจขอสัมภาษณ์ภาษาไทยได้ค่ะ เจ้าหน้าที่สัมภาษณ์ที่เคยเจอเค้าพูดไทยได้ทุกคน
12. แนะนำให้ทำ profile เดินทางไว้บ้างค่ะ โดยเฉพาะการเดินทางไปประเทศที่เจริญโลกที่ 1 เราเองก่อนไปทำวีซ่าอเมริกา เราเดินทางไปสิงค์โปร์ก่อนค่ะ เค้าจะถามว่าเราเคยไปไหนมาบ้าง ถ้าไม่เคยไปไหนมาเลย อันนี้อาจจะยากขึ้นค่ะ น้องที่มาสัมภาษณ์ด้วยกันบอกสองเดือนก่อนเคยโดนปฏิเสธเลยไปเที่ยวยุโรปมาหนึ่งเดือน มารอบนี้ผ่านค่ะ
13. แผนการเดินทางทำเอกสารเตรียมไว้ด้วยแล้วจำให้ได้ด้วย ไปสัมภาษณ์มาโดนถามทั้งสองรอบ รวมถึงตอนผ่านเข้า ตม.ด้วยค่ะ
14. Passport ควรเลือกทำแบบอายุสิบปี ตอนได้วีซ่าได้อนุมัติสิบปีค่ะ
15. ได้วีซ่าอเมริกาแล้ว ไปขอ eTA เดินทางเข้าแคนาได้ด้วย ค่าขอ eTA แค่ประมาณสองร้อยบาท เดินทางเข้า(ทางเครื่องบินอย่างเดียว ขึ้นเรือ ขับรถไปไม่ได้) จะได้อนุมัติ 5 ปี
ทำ Profile ส่วนตัวให้ดีก่อน พร้อมแล้วค่อยไปขอทำวีซ่า หวังว่าข้อมูลนี้จะช่วยให้ทุกคนมีโอกาสได้วีซ่าง่ายขึ้น ไม่อยากให้ผิดหวังเหมือนเรา เสียเงิน เสียเวลาและเสียใจ ขอให้ทุกท่านโชคดี ได้คนสัมภาษณ์ใจดี ได้วีซ่ากันทุกคน เที่ยวให้สนุกนะคะ!
โฆษณา