25 ก.ย. 2023 เวลา 05:00 • ท่องเที่ยว
CHARRAS BHAWAN จรัสภาวัน

"จรัสภาวัน" บ้านเก่าอายุ 100ปี กลายมาเป็นโรงแรมที่สวย classy ที่สุดในหัวหิน

เมื่อบ้านเก่าอายุ 100ปี กลายมาเป็นโรงแรมที่สวย classy และ mood ดีที่สุดในหัวหิน "จรัสภาวัน" โรงแรมที่จะทำให้ทุกคนหลงรักตั้งแต่แรกพบ 🤎
1
ความรู้สึกแรกที่ก้าวเข้ามาที่จรัสภาวัน คือบรรยากาศที่สงบ ร่มรื่น ผ่อนคลาย บ้านเก่าแก่ตระกูลชาววังที่ถูกรีโนเวทให้สวยงามเข้ากับยุคสมัย แต่ทว่ากลิ่นอายของเสน่ห์บางอย่างและความเรียบหรูในแบบฉบับผู้ดีเก่าแก่ก็ยังคงอยู่ ทำให้การพักผ่อนที่หัวหินครั้งนี้พิเศษกว่าครั้งอื่นๆ
3
การต้อนรับอย่างเป็นกันเองและอบอุ่นจากพนักงานเสมือนเป็นแขกคนสำคัญทำให้รู้สึกเหมือนมาเที่ยวบ้านสวยๆของญาติผู้ใหญ่มากกว่ามาพักโรงแรมหรู ต้นไม้ดอกไม้ที่นี่พร้อมใจกันออกดอกเต็มไปหมด มีหลายต้นหน้าตาแปลกๆ น่ารัก ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลย ความจริงแค่เดินเล่นในสวนมองดอกไม้ก็เพลินแล้ว 🙂
2
อีกอย่างที่ชอบมากคือโรงแรมอยู่ติดทะเล แนะนำให้ตื่นแต่เช้ามารอดูพระอาทิตย์ขึ้นริมหาดจะเจอโมเม้นท์ที่สวยสงบ เติมพลังชีวิตได้ดีเลย
รอบนี้เราพาครอบครัวมาด้วย พ่อกับแม่ดูมีความสุขมาก ถูกใจกับที่พักสวยๆและอาหารอร่อยๆ เห็นแบบนี้ลูกก็ชื่นใจรู้สึกคิดถูกมากที่เลือกพักที่นี่ ลองดูรูปในอัลบั้มนะคะแล้วจะรู้ว่าที่เล่ามาไม่เกินจริงเลย จรัสภาวันจะทำให้ทุกคนได้ความทรงจำดีๆกลับบ้านไปแน่นอน
2
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือสำรองห้องพักได้ที่
☎️+66 (0) 83 524 5329
Line : @charrasbhawan
Rsvn : @charrasbhawan.com
จรัสภาวัน มาจาก "จรัส" คือชื่อคุณย่า "ภาวัน" เป็นภาษาสันสกฤต แปลว่า บ้านหลังใหญ่ แปลรวมกันเลยหมายความว่า บ้านหลังใหญ่ของคุณย่าจรัส คุณย่าจรัส ได้รับพระราชทานชื่อ ณพรัตน์ จากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชนนีพันปีหลวง เมื่อเข้ารับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นคุณหญิง
หน้าระเบียงห้องพัก "วิลล่า ทวีวัฒน์" มีอ่างแช่น้ำขนาดใหญ่ด้วย ออกแบบมาให้มองเห็นวิวทะเลหัวหิน เป็นมุมที่เราชอบมากอีกมุมนึงเลย
"วิลล่า ทวีวัฒน์" มีที่มาจากชื่อของคุณปู่ ม.ล. ทวีวัฒน์ สนิทวงศ์ เป็นผู้ริเริ่มก่อสร้างบ้านพักตากอากาศหลังแรกของที่นี่ ในวิลล่ามี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่น และมินิบาร์ เราเลือกนอนกันห้องนี้ เตียงใหญ่นุ่มสบาย อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆไม่แพ้โรงแรม 5 ดาวเลย
ลายฉลุที่เตียงนอนถูกออกแบบมาให้เหมือนสมัยคุณย่ายังอยู่
ที่นี่มีกิจกรรมให้เลือกเล่นหลายอย่าง มีทั้งปั่นจักรยาน พายเรือคายัค แพดเดิลบอร์ด วอลเลย์บอลชายหาดและกิจกรรมขี่ม้าบนชายหาดด้วย
บรรยายกาศสวนที่นี่ร่มรื่นมากก มองไปทางไหนก็จะเห็นดอกไม้สวยๆและต้นไม้สีเขียวสบายตา
โซฟาขนาดใหญ่จะอยู่ตรงกลางระหว่างสองห้อง นั่งดู Netflix ก่อนนอนกันสบายอารมณ์มากๆ แอร์ก็เย็นฉ่ำ มีความสุข ^^
อีกห้องนอนจะเป็นเตียงแยกกันแบบนี้ค่ะ ครอบครัวไหนมากับลูกก็ให้ลูกๆนอนที่ห้องนี้
ห้องน้ำกว้าง สะอาดและสวยมากๆ ชอบสบู่และยาสระผมของที่นี่ เป็นกลิ่นมะม่วงดิบ ไม่เคยได้กลิ่นจากที่ไหนเลย เราเพิ่งเคยลองครั้งแรก ติดใจเลย กลิ่นหอมสดชื่นจริงๆ
ชอบที่เรามองเห็นทะเลจากห้องนอนเลย
มุมพักผ่อนเบาๆ หลังจากแช่น้ำเสร็จ
ที่นี่อยู่ใกล้กับชาวประมงเขาเต่ามาก เดินออกไปด้านหน้าหาดฝั่งขวา ก็จะเห็นเรือประมงจอดเรียงกันอยู่ เป็นภาพวิถีชีวิตที่ไม่ค่อยได้เห็นในชีวิตประจำวันซักเท่าไหร่
อย่างนึงที่เราสังเกตคือทุกห้องจะมีงานศิลปะประดับอยู่ แล้วแต่ละภาพคือสวยมาก เป็นแนวที่เราชอบเลย
พามาดูอีกวิลล่ากันบ้าง "วิลล่า วัลย์"เมื่อก่อนบ้านหลังนี้เป็นหนึ่งในเรือนบริวารของคุณปู่คุณย่า โดยเรือนหลังใหญ่ใช้เป็นบ้านพักและเรือนหลังเล็กใช้เป็นเรือนครัว
คุณพ่อกับคุณแม่ และครอบครัวน้องชายนอนหลังนี้กันค่ะ มีสองห้องนอนเหมือนกัน ข้อดีคือไม่ต้องเดินขึ้นบันไดและหน้าบ้านมีสระว่ายน้ำส่วนตัวด้วย
มินิบาร์และขนมทานได้ทุกอย่าง ใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นมาแปรรูปอย่าง แครกเกอร์สัปปะรดกับกล้วยฉาบ อร่อยมากกก ทานเพลินจนหมดโหลที่ห้องตัวเองไม่พอ มาต่อห้องพ่อแม่อีก 5555
ห้องน้ำวิลล่าที่คุณพ่อคุณแม่นอน สวยมาก เลยขอแว็บมาตีฟองหน่อยค่ะ
พอแดดร่มก็ขี่จักรยานเล่นกัน เหมือนทางโรงแรมเตรียมทุกอย่างไว้ให้แขกที่มาพักสัมผัสกับฟีลบ้านพักตากอากาศที่หัวหินในยุคก่อน เป็นการใช้ชีวิตช้าๆที่มีความสุขมาก
สระว่ายน้ำส่วนกลางอยู่ติดริมทะเลเลย แขกที่มาพักสามารถมานั่งพักผ่อนหย่อนใจตรงนี้ได้ตลอดทั้งวัน
ตอนอยู่ที่นี่ มองไปทางไหนก็จะเห็นธรรมชาติสีเขียวๆเต็มไปหมด
ดอกไม้ที่นี่เยอะมากอยู่รวมกันหลายๆชนิด แต่ดูเข้ากันไปหมด ดอกนี้น่ารักดีเพิ่งจะเคยเห็นครั้งแรกค่ะ
บ่ายแก่ๆเรามานั่งนอกบ้านจิบชาใต้ร่มไม้ เพลินที่สุด Afternoon Tea ของที่นี่จะแบ่งเป็น 2 เซต มีเซตไทยกับเซตอินเตอร์
ขนมไทยอร่อยทุกอย่าง เราชอบมะพร้าวกะทิคาราเมลกรอบกับบ้าบิ่นมะพร้าวอ่อนที่สุด รสละมุน หนุบหนับ เมนูตามนี้เลย
- มะละกอแช่อิ่ม
- มะพร้าวกะทิคาราเมลกรอบ
- ดอกจอก
- ม้าฮ่อสับปะรด
- บ้าบิ่นมะพร้าวอ่อน
- ผลไม้แตงโมสัปปะรดกับข้าวเหนียวปลาแห้ง
ส่วนเซตอินเตอร์จะมีเสิร์ฟมาให้ 6 อย่าง
- เค้กวานิลาสัปปะรด
- ช็อกโกแลต
- แซนวิสแตงกวา
- แครกเกอร์ไข่
- คุกกี้แอลมอนด์ช็อกโกแลต
- ไก่บาร์บีคิว
ร้านอาหารปวัน เมื่อก่อนเคยเป็นเรือนรับแขกของครอบครัว ปัจจุบันได้เปลี่ยนเป็นร้านอาหาร ตามความชื่นชอบในอาหารและเครื่องดื่มของเจ้าของบ้าน
มื้อเย็นวันแรก เราสั่งอาหารไทยมาทานกันที่ห้องอาหารปวัน ที่นี่เค้าเอาสูตรอาหารดั้งเดิมของคุณย่าจรัส (คุณหญิง ณพรัตน์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา) มาปรุงแต่งเสิร์ฟให้เราได้ลิ้มลอง เมนูอาหารไทยที่นี่เป็นเมนูอาหารไทยโบราณ วัตถุดิบที่ใช้เอามาจากชาวประมงเขาเต่า เพื่อสนับสนุนและช่วยเหลือคนท้องถิ่นให้มีรายได้จุนเจือครอบครัว รับรองได้เลยว่าสดใหม่
เมนูที่ทุกคนชอบมาก คือหมูสามชั้นผัดพริกเกลือ ทานคลุกข้าวอร่อยมาก และเมนูเมี่ยงโบราณปวัน สูตรของที่นี่จะไม่มีมะพร้าวคั่ว จะใช้ปลาทูแทน น้ำเมี่ยงคำหวานกำลังดี เป็นอาหารคาวกึ่งอาหารว่างที่ทานเพลิน
เมนูที่สั่งมาตามด้านล่างนี้ค่ะ
- ลาบปากหมึก
- แกงกะหรี่ ทานคู่กับอาจาด
- ปลากระพงทอด
- สามชั้นผัดพริกเกลือ
- เมี่ยงโบราณปวัน
- กะปิคั่วกับปลาทรายซุปแป้งทอด
- ต้มจืดสามกษัตริย์
นั่งทานอาหารไป มองวิวไป ดีต่อใจมาก
อาหารเช้าของที่นี่ บอกเลยว่ารสมือดี อร่อย สะอาด มีให้เลือกทานหลายอย่างและยังคงเป็นสูตรของคุณย่าที่เคยทำให้ลูกหลานทาน อย่างข้าวต้มปลาขูด สูตรของคุณย่าที่คิดค้น นำปลาไปแกะเนื้อออกมาแล้วปั่นเป็นก้อนๆให้ทานง่าย โรยด้วยใบโหระพาเพิ่มกลิ่นหอมดับคาว
1
เมนูข้าวต้มแห้งซี่โครงหมูก็อร่อยไม่แพ้เมนูอื่นๆ ซี่โครงหมูเปื่อยยุ่ย ทานกับข้าวต้มเม็ดที่มีน้ำปลาหรือซอสเค็มๆอะไรสักอย่างแบบเข้ากัน
1
เราชอบมักกะโรนีน้ำใสไก่ฉีกกับอะโวคาโดโทสต์ เป็นเมนูที่สั่งซ้ำตลอดที่พักอยู่ที่นี่ ส่วนอาหารแนวสุขภาพคงต้องยกให้เป็นสมูทตี้โบวล์ เนื้ออะโวคาโดโยเกิร์ตที่เอาไปทำจนเนียนละเอียดละมุน โรยหน้าด้วยผลไม้ กราโนล่า โกจิเบอรี่ อร่อยทานเพลินหมดชาม
เมนูของทอดต้องเป็นเปาะเปี๊ยะไข่ไส้กุ้ง กรอบทานตอนร้อนๆฟิน อาหารเช้าที่นี่สั่งเพิ่มได้ตลอดจนกว่าเราจะอิ่ม
มื้อเย็นของวันที่สอง เรามาทานอาหารอิตาเลี่ยนกันที่ห้องอาหารปวันเหมือนเดิม อยู่บนดาดฟ้าด้านบนของห้องอาหารปวัน มีแบบ Indoor-Outdoor เลือกได้เลยว่าอยากนั่งตรงไหน
เราเลือกนั่งทานกันข้างในห้อง ตกแต่งสวยงามด้วยโทนสีส้มแดง ตามฝาพนังก็ประดับด้วยรูปภาพเรื่องราวในสมัยที่คุณปู่คุณย่ายังมีชีวิตอยู่กับงาน Abstract Art ประดับทำให้ห้องดูมีสีสัน
ในส่วนเมนูที่เราทานกันตามด้านล่างนี้เลย รสชาติดี อร่อยทุกเมนูจริงๆ ทีเด็ดคือ พิซซ่าปลาเค็มพริกแห้ง แป้งบางกรอบ หอมปลาเค็ม เป็นเมนูที่ยังไม่เคยทานที่ไหนมาก่อน กับแคปเปลลินีไส้อั่ว รสชาติจัดจ้านแบบเบาๆ และกลมกล่อม
ส่วนเมนู Starters แนะนำเป็นคาลามารีหมึกดำ คือปลาหมึกซุปแป้งทอดที่เอาหมึกดำของปลาหมึกมาผสมในแป้งให้เป็นสีดำมาทานคู่พร้อมกันโฮมเมดทาร์ทาร์ซอสค่ะ
- คาลามารีหมึกดำ
- พิซซ่าปลาเค็มพริกแห้ง
- ซีซาร์สลัด
- เฟตตูชินีกุ้งย่างซอสครีมวอดก้า
- พิซซ่าแป้งดำปลาหมึก
- สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า
- แคปเปลลินีไส้อั่ว
- มะพร้าวกะทิคาราเมลกรอบ
- สัปปะรดคาราเมล และไอศกรีมกะทิ
ปรับสีรูปโทนนี้ให้เข้ากับบรรยากาศ เหมือนได้ย้อนยุคเลย
มองมุมนี้ได้ทั้งวันไม่เบื่อเลย สวย คลาสสิค ทั้งกลางวันและกลางคืน
เราสองคนชอบตื่นเช้ามานั่งดูพระอาทิตย์ขึ้น เป็นโมเมนต์ที่สงบและสวยงามที่สุด
จากที่ท้องฟ้ามืดๆ ในที่สุดเวลาที่เรารอคอยก็มาถึง มันสวยมากๆๆ ยอมตื่นเช้าก็เพื่อโมเม้นท์นี้
1
ปิดท้ายด้วยรูปนี้นะคะ รู้สึกมีความสุขและประทับใจมากที่ได้มาพักผ่อนที่บ้านหลังใหญ่ของคุณย่าจรัส ใครกำลังมองหาที่พักที่ สวย เงียบสงบ และบรรยากาศดีๆแบบนี้ จรัสภาวัน ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอนค่ะ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือสำรองห้องพักได้ที่
☎️+66 (0) 83 524 5329
Line : @charrasbhawan
Rsvn : @charrasbhawan.com
โฆษณา