25 ก.ย. 2023 เวลา 04:10 • หุ้น & เศรษฐกิจ

เปิดโผ 13 หุ้นเด่นน่าลงทุน ได้ประโยชน์ ผลประชุม UNGA78

“เศรษฐา” ดึงยักษ์ใหญ่โลก เข้าลงทุนไทย
ที่ประชุม UNGA78 นอกจากจะไปร่วมอภิปรายประเด็นด้านความยั่งยืนแล้ว “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี ยังได้มีการพูดคุยกับบริษัทเอกชนหลายแห่ง เช่น Tesla, Google, Microsoft, Citibank, JP Morgan, BlackRock, Estee lauder, รวมถึงตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก หลังจากนี้ คณะทำงานจะไปพิจารณาข้อเสนอ เพื่อจูงใจให้เกิดการลงทุนโดยเร็วที่สุด ซึ่งนักวิเคราะห์ได้รวบรวมหุ้นที่จะได้ผลบวกจาก UNGA78 มาฝากนักลงทุน
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า นายกฯ กล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม สมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 (UNGA78) ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 18-24 กันยายน 2566 ด้วยการดำเนินบทบาทอย่างสร้างสรรค์ร่วมกับประชาคมโลกเพื่อส่งเสริมสันติภาพสิทธิมนุษยชนสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืนซึ่งขอเสนอของประเทศไทย
ทั้งนี้มี 4 ประเด็นหลักคือ 1) ส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศผ่านการเจรจากรอบความร่วมมือ FTA 2) ส่งเสริมการเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อมผ่าน BCG Model
3) ส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนทั้งการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศและการใช้พลังงานสะอาด เช่น การติดตั้ง Solar Rooftop และ 4) การให้ทุนสนับสนุนธุรกิจสีเขียวผ่านตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืน (Sustainability Bond) รวมถึง Thailand Green Taxonomy เพื่อส่งเสริมให้เกิดการลงทุนด้านความยั่งยืนและกระตุ้นให้ธุรกิจที่ปล่อยคาร์บอนสูงมีการตื่นตัวในการดูแลสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
โดยรัฐบาลไทยตั้งเป้าลดก๊าซเรือนกระจก 40% ภายในปี 2583, มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ภายในปี 2593 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2608 หรือ ภายใน 48 ปีหลังจากนี้
ขณะที่ นอกจากจะไปร่วมอภิปรายประเด็นด้านความยั่งยืนแล้ว นายกฯ และรัฐบาลไทย ได้มีการพูดคุยกับบริษัทเอกชนหลายแห่ง เช่น Tesla, Google, Microsoft, Citibank, JP Morgan, BlackRock, Estee lauder, รวมถึงตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก เพื่อผลักดันให้บริษัทไทยไปจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งทุกบริษัทล้วนให้ความสนใจลงทุนในประเทศไทย ทั้งในด้านเทคโนโลยีและการเงิน
หลังจากนี้ คณะทำงานจะไปพิจารณาข้อเสนอ เพื่อจูงใจให้เกิดการลงทุนโดยเร็วที่สุด และคาดว่าจะมีการสานต่อประเด็นที่เจรจาค้างไว้ รวมถึงการเจรจาเพิ่มเติมอีกหลายบริษัทในการประชุม APEC ระหว่าง 11-17 พ.ย. 2566 ที่สหรัฐฯ ด้วย
นายกฯ ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg ว่าจะกระตุ้น GDP ให้โตเฉลี่ย 5% ต่อปีในช่วง 4 ปีข้างหน้า และตั้งเป้าโตเร่งขึ้นระดับ 6-7% ต่อปีในปี 2569-2570 ผ่านการกระตุ้นการลงทุนทางตรงของนักลงทุนต่างชาติ และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ท้าทายเมื่อเทียบกับ GDP ช่วง 10 ปีย้อนหลังของไทย (ไม่นับช่วง COVID-19 ระบาด) ที่โตเฉลี่ยเพียง 2.9% ต่อปี
ขณะเดียวกัน นายกฯ ยังให้ความเห็นกรณีตลาดหุ้นไทยที่อ่อนตัวลงช่วงนี้ เป็นผลจากกระแสเงินทุนที่ไหลออกเพราะส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น แต่คาดว่าจะเรียกความเชื่อมั่นกลับมาได้ภายใน 6 เดือน ผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลกำลังทำอยู่
ดังนั้น ประเมินความพยายามของรัฐบาลในการเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุน จะช่วยจำกัด Downside ให้กับภาวะเศรษฐกิจ และ SET INDEX ในช่วงที่เหลือของปี โดยเมื่อเม็ดเงินลงทุนผ่าน BOI เร่งตัวขึ้น ซึ่งคาดว่าเป็นปีหน้า จะเปิด Upside ให้ SET INDEX กลับมา Outperform ภูมิภาคได้อย่างโดดเด่น เนื่องจากยอดขอ BOI และ SET INDEX เปลี่ยนแปลงในทิศทางเดียวกันระดับสูงราว 65%
ส่วนกลุ่มที่ได้ Sentiment เชิงบวกจากการประชุม UNGA78 และสามารถเก็งกำไรระยะสั้นในช่วงนี้ได้ คือ นิคมอุตสาหกรรม WHA, AMATA, ROJNA โครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสาร ADVANC, TRUE, THCOM, SYMC, ITEL, BE8, I2 และพลังงานสะอาด โดยเฉพาะ Solar Rooftopเช่น GUNKUL, SSP, KJL
โฆษณา