25 ก.ย. 2023 เวลา 07:33 • กีฬา

เดินหน้า “ลิเวอร์พูล 2.0”

By: Colly
จบลงไปแล้วกับชัยชนะของ ลิเวอร์พูล ที่มีต่อ เวสต์แฮม ด้วยสกอร์ยอดฮิต 3-1 (สกอร์นี้กี่นัดแล้ววะเนี่ย)
ซึ่งผมต้องขอยอมรับตามตรงเลยว่า แม้จะโดน จาร์ร็อด โบเว่น โหม่งตีเสมอ 1-1 แต่นี่เป็นนัดแรกนับตั้งแต่เปิดฤดูกาล ที่ผมมีความมั่นใจเต็มเปี่ยมว่า “ชนะแน่” ตีเสมอแล้วไงวะ เดี๋ยวพวกมึงก็โดน แล้วสุดท้ายก็เป็นงั้นจริงๆ
ไม่แปลกเลยที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ จะรู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษตั้งแต่ก่อนแข่ง เกี่ยวกับทีมของเขาในปัจจุบัน ที่มีความหลากหลายและสมบูรณ์แบบเกือบทุกตำแหน่ง จนบอกว่านี่คือ “ลิเวอร์พูล เวอร์ชั่น 2.0” ของเขา
คือขอสนุกกับการสร้างทีมชุดนี้ดีกว่าจะไปเป็นกุนซือทีมชาติเยอรมนีอย่างที่ เดเอฟเบ ต้องการ
โดยหลังจากที่ หงส์แดง คว้าถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก ต่อด้วยการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลถัดมา ดูเหมือนว่า JK และบอร์ดบริหารจะไว้เนื้อเชื่อใจทีมชุดดังกล่าวมากเกินไป จนไม่สามารถสร้างหรือเฟ้นหานักเตะใหม่มาทดแทนการโรยราของแข้งหน้าเก่า ประกอบกับช่วงโควิดที่ต้องมีโปรแกรมเตะถี่ยิบแถมต้องประหยัดเงินเพราะขาดรายได้ ทำให้สถานการณ์ของทีมตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง ถึงขั้นต้องหลุดไปเตะถ้วยยูโรปาลีก ต้องไปเจอกับทีมอะไรก็ไม่รู้ในซีซั่นนี้
แต่นิมิตรหมายอันดีของทีมก็เกิดขึ้นในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา เพราะพวกเขาเดินหน้าคว้าตัวนักเตะใหม่มากมาย โดยเฉพาะกองกลางที่เปลี่ยนเกือบยกแผง และแข้งหน้าใหม่เหล่านี้ก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ลบจุดด้อยจากซีซั่นที่ผ่านมาเป็นอย่างดี
เกมกับเวสต์แฮมเมื่อคืนนี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจน
โดยเฉพาะ โดมินิค โซโบซไล กองกลางสุดหล่อที่ไปสอยมาจาก แอร์เบ ไลป์ซิก ที่ไม่รู้ว่าพี่แกไปเอาพลังม้ามาจากไหน วิ่งไปอยู่ในทุกพื้นที่ของสนาม คือไม่ว่ากล้องจะแพนไปตรงไหนก็ต้องเจอพี่แกอยู่ตลอด เมื่อกี่วิ่งไปช่วยเกมรับอยู่ดีๆ พอมาถึงตอนจะยิงประตู “โซโบ” วิ่งมาโผล่อยู่หน้ากรอบเขตโทษคู่แข่งอีกแล้ว
คือในตลาดช่วงซัมเมอร์ ผมคาดหวังในตัวของ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ มากกว่าใคร เนื่องจากฟอร์มที่ยอดเยี่ยมสมัยเล่นให้ ไบรท์ตัน รวมถึงการช่วย เมสซี่ พา อาร์เจนติน่า เป็นแชมป์โลก ส่วน โซโบซไล นั้น โอเคล่ะที่เจ้าตัวทำผลงานให้ ไลป์ซิก ได้ดี แต่ก็ไม่รู้จะปรับตัวเข้ากับความดุเดือดของพรีเมียร์ลีกได้แค่ไหน แถมคุณจะคาดหวังอะไรกับ “กองกลางทีมชาติฮังการี” กันล่ะ? นักเตะจากประเทศนี้ในประวัติศาสตร์ทีมลิเวอร์พูล มีใครได้เรื่องได้ราวบ้าง? ไม่มีซักราย
แต่สุดท้าย โซโบซไล เด่นสุดซะงั้น 555
ที่ยังไม่สมบูรณ์แบบในกองกลางชุดนี้ก็เห็นจะเป็น เคอร์ติส โจนส์ นี่ล่ะ ยังเหมือนจะมีประโยชน์ต่อทีมน้อยไปหน่อย ประมาณว่ามีไว้ก็ดีแต่ไม่มีก็ไม่ได้เสียหายอะไร แถมการจับ แม็ค อัลลิสเตอร์ ไปเป็นกองกลางตัวรับก็ดูจะทำให้เสียของไปอีก
อย่างไรก็ตามผมมองว่าช่วงนี้ก็ต้องอาศัย โจนส์ เล่นไปก่อน เพราะต้องให้เวลา วาตารุ เอ็นโด กับ ไรอัน กราเฟนแบร์ก ปรับตัวให้เข้าระบบให้ได้ก่อน จากนั้นเชื่อว่า สองคนนี้น่าจะมาเป็นตัวจริงในตำแหน่งกองกลางตัวรับได้ แล้วให้ แม็ค อัลลิสเตอร์ เป็นกองกลาง box-to-box คู่กับ โซโบซไล
จุดที่ต้องชื่นชมอีกอย่างก็คือสามตัวรุก โม ซาลาห์ แปลงร่างจากดาวยิงตัวความหวังของทีม กลายเป็นกองหน้าที่ “ทั้งยิงทั้งจ่าย” เพิ่มความหลากหลายไปอีก จากที่แต่ก่อนใครๆก็จับทางได้ง่ายๆว่า “เดี๋ยวแม่งก็เลี้ยงตัดเข้าในแล้วปั่นไปเสาสอง” แต่ตอนนี้ ปิดทางเลี้ยงเหรอ...กูจ่าย คิดว่ากูจะจ่ายเหรอ...กูไปเอง แนวรับคู่แข่งเลยชักจะทำอะไรไม่ถูก
และความหลากหลายของซาลาห์ บวกกับฟอร์มที่ดีวันดีคืนของ ดาร์วิน นูนเญซ ที่วิ่งหาพื้นที่โคตรเก่ง แถมยังเร็วชะมัด จิ้มแล้ววิ่งแซงกันดื้อๆ และยังแข็งแกร่งใครเบียดก็ไม่ล้มง่ายๆอีก ทีนี้เลยสนุกกันใหญ่ ทีมเลยยิงนัดละ 3 ลูกแทบทุกเกม ใครมายิงนำอย่าได้หลงดีใจเลยว่ะ 555
แม้แนวรับจะยังมีข้อผิดพลาด แต่จากการที่กองกลางดีกว่าเดิมชัดเจน แถมกองหน้าเริ่มพัฒนาทีมเวิร์คให้เห็นอย่างต่อเนื่อง ทำให้หงส์แดงตอนนี้มีความมั่นใจสุดขีด จนชนะมาติดๆกันในปัจจุบัน
ถ้ารักษาฟอร์มแบบนี้ได้ตลอดทั้งซีซั่น และไม่มีตัวหลักเจ็บยาวล่ะก็ หงส์แดงชุดนี้อาจเปลี่ยนจาก “ลุ้นแชมป์” เป็น “คว้าแชมป์” ก็ได้
โฆษณา