26 ก.ย. 2023 เวลา 12:18 • อสังหาริมทรัพย์

[1st Impression] SCOPE Langsuan

พบนิยามของคำว่า ‘SCOPE EXPERIENCE’ ที่ “เหนือกว่า” คำว่า ‘Luxury Living’
ปฎิเสธไม่ได้ว่า SCOPE Langsuan (สโคป หลังสวน) คือโครงการ Ultra Luxury Residences ที่ดูจะโดดเด่นที่สุดในบรรดาทุกโครงการพร้อมอยู่ที่เพิ่งสร้างเสร้จหมาดๆในปีนี้ ด้วยแนวคิดหลักในการพัฒนาโครงการที่ทุกองค์ประกอบหลัก อย่าง Location. Design. Distinction
จำเป็นที่จะต้องสอดรับกับมาตรฐานในการพัฒนาโครงการพรีเมียมระดับสากล (International Premium) เพื่อเป้าหมายสูงสุดเพียงหนึ่งเดียวคือการสร้างประสบการณ์เหนือระดับที่ทั้งพิเศษ และแตกต่างจากใคร ภายใต้บริบทของ ‘SCOPE EXPERIENCE’ ที่ดูเหมือนว่านิยามของคำว่า Luxury จะถูกยกระดับขึ้นให้เหนือว่ามาตรฐานคอนโด Luxury ทั่วไปในกรุงเทพฯ
ปัจจุบันโครงการ SCOPE Langsuan ที่ออกแบบโดยดีไซเนอร์ชื่อก้องโลกอย่าง “โทมัส ยูล-ฮันเซน” ที่ ดีไซน์โครงการระดับโลกมากมาย อย่าง ONE57 ในมหานครนิวยอร์ค ร้านอาหารมิชลินสตาร์อย่าง Jean George ได้สร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว โดยโครงการมีมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท
ตั้งอยู่บนถนนหลังสวน มี 34 ชั้น ทั้งหมด 133 ยูนิต แบ่งเป็น 1 ห้องนอน 68 ยูนิต มีห้องขนาดตั้งแต่ 80 ตรม.ขึ้นไป แบบ 2 ห้องนอน 53 ยูนิต มีห้องขนาดตั้งแต่ 160 ตรม.ขึ้นไป 3 ห้องนอน 9 ยูนิต มีห้องขนาดตั้งแต่ 240 ตรม. และเพนท์เฮาส์ 3 ยูนิต 430 ตรม. ทุกห้องมี private lift เชื่อมเข้าสู่ภายในห้อง บริเวณตรงกลางอาคาร และสามารถเลี้ยงสัตว์ได้(ตามข้อกำหนดของคอนโด)
โดยทั้งโครงการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ระดับโลกที่ดีไซเนอร์คัดสรรเอง อาทิ Vladimir Kagan แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ที่ แองเจลินา โจลี ดาราชื่อดัง ทอม ฟอร์ด แฟชั่นดีไซเนอร์ และเซอร์ เอลตัน จอห์น นักร้องชื่อก้องโลกชื่นชอบ CINEAK แบรนด์สัญชาติเบลเยี่ยมที่สร้างโรงหนังส่วนตัว (Private Cinema) ที่ดีที่สุดในโลก Gallotti & Radice และอื่นๆ อีกมากมาย
“เบื้องหลังของการพัฒนาแบรนด์ SCOPE นั้นเรามองถึงความต้องการที่ผู้อยู่อาศัยที่ “ต้องการมากกว่า” คอนโดมิเนียมที่อยู่สบาย ประกอบกับการโตแบบก้าวกระโดดของตลาดลักซ์ชัวรี่ในประเทศไทยช่วงของโควิดที่ผ่านมาทำให้เราเล็งเห็นถึงกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นทั้งกำลังซื้อในประเทศไทยและต่างชาติ เราจึงต้องการยกระดับแบรนด์ SCOPE ให้อยู่ในระดับเดียวกับแบรนด์ชื่อดังระดับภูมิภาคที่เพียบพร้อมทั้งด้านสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ (Facilities)
และบริการที่เต็มรูปแบบ (Service) เช่นเดียวกับโรงแรม 6 ดาว ซึ่งก่อนที่เราจะพัฒนาแบรนด์ SCOPE นั้น ทีมงานของเราได้ทำการศึกษาโครงการชั้นนำทั่วโลก ทั้งฝั่ง อเมริกาอย่าง นิวยอร์ค บอสตัน ลอสแองเจลิส ฝั่งยุโรปอย่าง ลอนดอน มิลาน โรม ด้านภูมิภาคเอเชียอย่างฮ่องกงและ สิงคโปร์ ซึ่งเรามองว่าใกล้เคียงกับกรุงเทพที่สุด
แต่ SCOPE จะทำอย่างไรให้ทัดเทียมหรือเหนือกว่าโครงการ ลักซ์ชัวรี่ที่อยู่ในตลาด นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการคิดของโครงการ SCOPE Langsuan” คุณยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สโคป จำกัด
ในกลุ่มคอนโดประเภท Ultra Luxury นั้นเรามักจะพบว่า Logic ในการซื้อของ Real Demand มักจะตรงกันข้ามกับกลุ่มตลาดอื่นเสมอ กล่าวคือยิ่งมีราคาสูงมากเท่าไหร่ยิ่งมีดีมานด์ในการซื้อมากเท่านั้น โดยที่คนซื้อมักจะมองข้ามความสำคัญของเหตุผลหลักในการใช้งานออกไป คนกลุ่มนี้มองว่าไม่ได้ซื้อคอนโดมาเพื่ออยู่ใกล้ที่ทำงานเดินทางสะดวก แต่อาจจะมองว่าซื้อมาเพื่อใช้เป็นห้องแต่งตัวเวลาไปงาน Gala Dinner ในโรงแรมหรูย่านชิดลม
คนต่างชาติชาวเอเชียหลายรายอาจะมองในเรื่องของความใกล้พระพรหมเอราวัณ เดินทางไปสักการะได้สะดวกตลอดทั้งปี บางคนเพียงแค่เลือกซื้อห้องที่แพงที่สุด จากโครงการที่แพงที่สุดเพราะเชื่อมั่นว่าราคาในแบบ Superlative คือเครื่องยืนยันถึงการได้ครอบครองห้องที่ดีมีคุณภาพมากที่สุด รวมถึงการได้อยู่ร่วมกับผู้คนในสถานะเดียวกัน…
มีหลายคนกล่าวว่าคนซื้อคอนโด Ultra Luxury เค้าไม่ได้ดูเปรียบเทียบในเรื่องของราคา สเปคห้องเท่าไหร่หรอก แค่สร้างออกมาให้บรรยากาศมันดูดี เดี๋ยวก็ขายได้ ซึ่งนั่นคือความเข้าใจที่ค่อนข้างผิดเพี้ยนไปในการทำการตลาดของกลุ่มสินค้าประเภท Ultra Luxury ในมาตรฐานสากลที่จำเป็นต้องเพียบพร้อมด้วยคุณลักษณะสำคัญในแบบ Extraordinary
ทั้งที่จับต้องได้ และจับต้องไม่ได้ จนเกิดเป็นคุณค่าในใจผู้ซื้อที่มากกว่าการอยู่อาศัยในคอนโดทั่วไป ซึ่งจากประสบการณ์ของผมมองว่าคอนโดที่เรียกตัวเองว่าเป็น Ultra Luxury โดยสมบูรณ์ควรที่จะมีองค์ประกอบที่ชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างจาก Mass Market ดังนี้ครับ 1. Excellent Quality 2. Scarcity 3. Premium Price 4. Aesthetics และ 5. Superfluous
หากใช้ 5 ข้อดังกล่าวในการกรองโครงการออกก็จะพบว่าในกรุงเทพฯ มีโครงการระดับ Ultra Luxury ที่สามารถทัดเทียมกับมาตรฐานสากลไม่ถึง 10 โครงการ เนื่องจากกระบวนความคิดในการพัฒนาโครงการของดีเวลลอปเปอร์ไทยส่วนใหญ่ยังคงมองถึง KPI หลัก ซึ่งก็คือยอดขายจากการพัฒนาโครงการหลายๆ โครงการเพื่อตอบสนองกลุ่มเป้าหมายหลายกลุ่ม จนทำให้โครงการ Ultra Luxury ส่วนใหญ่มีกระบวนการในการพัฒนาที่ไม่ต่างกับโครงการแบบ Mass
คือใช้วัสดุแบบเดียวกัน ออกแบบสไตล์ Copy and Reuse เน้นทำเลและพื้นที่ส่วนกลางแบบตามกระแสนิยม แต่กลับอัพราคาเพิ่ม และใส่กลยุทธ์สื่อสารการตลาดให้กลุ่มเป้าหมายรับรู้ว่านี่คือโครงการในระดับ Ultra Luxury แล้วนะ…คุณยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ ผู้ซึ่งมีประสบการณ์ทั้งการพัฒนาโครงการในประเทศ และเข้าถึงรสนิยมการอยู่อาศัยอย่างเหนือระดับจากทั่วโลก
รู้ดีถึงข้อจำกัดที่ทุกดีเวลลอปเปอร์ต้องเผชิญ และมองเห็นถึง Pain Point ของกลุ่ม Luxury Seeker ทั่วโลกว่ายังไม่มีโครงการไหนในไทยที่มี Brand Promise ที่จะส่งมอบงานที่สนองความต้องการของกลุ่มผู้ซื้อในระดับนี้ได้เท่าที่ควร หากเทียบกับในมหานครใหญ่ทั่วโลก จึงได้ประกาศตั้ง “สโคป” บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพักอาศัยที่มา Disrupt วงการ
ฉีกแบบแผนการพัฒนาที่อยู่อาศัยแบบเดิมที่เคยมีมา ด้วยการมุ่งเน้นเรื่องการออกแบบและก่อสร้างที่อยู่อาศัยคุณภาพพรีเมี่ยมมาตรฐานระดับโลกโดยเฉพาะ…โครงการ SCOPE Langsuan จึงถูกนับว่าเป็นโครงการแรกในไทยที่เริ่มปักหมุดในกลุ่มเซกเมนท์ใหม่ ที่ Larger Than Life กว่ากลุ่ม Old Luxury เดิมๆ ที่เราเคยรู้จัก
หรือพูดอีกอย่างก็คือ International Premium คือเซกเมนท์ New Luxury ที่ผสานสมดุลในเรื่องของคุณภาพ ความประณีต และ Aesthetic Experience จนสามารถเติมเต็ม Emotional Needs ที่แตกต่างกันไปของกลุ่ม Luxury Seeker ทั่วโลก
เมื่อมองภาพกลุ่มเป้าหมายที่มาจากทั่วโลกแล้วจึงไม่แปลกที่ SCOPE Langsuan จะเป็นการ Collaborate กันระหว่าง โทมัส ยูล-ฮันเซน และ เคพีเอฟ เพื่อให้เป็นโครงการที่ผสานมาตรฐานสูงสุดระดับสากล การออกแบบที่เป็นเลิศระดับโลก และสุดยอดของหนึ่งในทำเลที่ดีที่สุดใจกลางกรุงเทพฯ บนถนนหลังสวนเข้าไว้ด้วยกัน
ความเป็น Excellent Quality ของ SCOPE Langsuan ล้วนแต่เป็น Tangible Benefit ที่ถ่ายทอดออกมาผ่านแบรนด์ชั้นนำระดับโลกที่นำมาเป็นวัสดุในการก่อสร้าง และตกแต่ง แบรนด์อย่าง Bulthaup, Sub-Zero, Gaggenau, Lema, AXOR และ TOTO ล้วนแต่ถูกคัดสรรมาเป็นอย่างดีจาก โทมัส ยูล-ฮันเซน ว่ามีความเป็น Top Quality Materials
ในขณะที่ความเป็น Scarcity ก็มาจาก Limitation ของ Supply บนทำเลเดียวกัน ซี่งทำเลหลังสวนก็นับว่าเป็น Super Prime Area ที่พื้นที่โดยรอบถูกพัฒนาเป็นโครงการขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่อง
“หากเราจะพูดถึงโครงการต่างๆที่เป็นแลนด์มาร์คในทั่วโลก เราจะเห็นทุกที่ให้ความสำคัญกับวัสดุต่างๆ ความประณีตของงานฝีมือในการออกแบบตกแต่ง ขนาดห้องที่ใหญ่ ที่มาพร้อมกับเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ดัง การออก แบบโดยดีไซเนอร์ระดับโลก ที่สำคัญคือทำเลที่ตั้งของโครงการต้องเป็นจุดศูนย์กลางของลักซ์ชูรี่ ความตั้งใจของเราในการพัฒนาโครงการ คือต้องให้สิ่งที่ “เหนือกว่า”
นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของความคิดในการพัฒนาโครงการ ทำให้เกิดนิยามของคำว่า ‘SCOPE EXPERIENCE’ ที่จะนำไปสู่การดีไซน์โครงการต่างๆ อย่าง SCOPE LANGSUAN มีโรงหนังแบบอ็กซ์คลูซีฟอยู่ในโครงการ มีสตูดิโอซ้อมดนตรีที่คุณภาพเดียวกับห้องอัดเสียง มีห้อง Thermal Bath ให้ผ่อนคลายหลังจากการทำงาน Langsuan Lounge ห้องจัดเลี้ยงส่วนตัวที่ลูกบ้านสามารถจัดไพรเวทดินเนอร์หรือคอกเทลปาร์ตี้ได้ด้วยอุปกรณ์ชุดครัวแบบเวิลด์คลาส
นอกเหนือจากนั้นสำหรับผู้ชื่นชอบการช้อปปิ้ง เรามีบริการ Hands Free Shopping ที่นอกเหนือการจัดส่งถึงบ้านแล้ว ยังมีบริการ PRIVATE บริการนำสินค้าให้ชมแบบส่วนตัวอีกด้วย” ทั้งหมดนี้เป็น SCOPE EXPEREINCE ที่เราไว้มีบริการให้กับผู้อยู่อาศัย” ยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติม
ในขณะที่พื้นที่ส่วนกลางราวๆ 2,500 ตรม.จากทั้ง 4 ชั้นก็มอบประสบการณ์ทางสุนทรียะ (Aesthetic Experience) ที่ค่อนข้างแตกต่างกว่าที่อื่นๆ ตรงที่มีการ Customized ให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์อันมีเอกลักษณ์ของผู้อยู่อาศัย ที่มองหาความสุขสบายในการใช้ชีวิต แต่ยังคงไว้ซึ่ง Practical Living
ไม่ว่าจะเป็นบริการ Valet Service และ Residence Manager ตลอด 24 ชม. The Langsuan Clubhouse ซึ่งเป็น Private Residential Clubhouse ที่มีครบทั้ง ห้องเก็บของควบคุมอุณหภูมิ ห้องเก็บไวน์ ซิการ์ ห้องเล่นเปียโน สปา ออนเซ็น ห้องแต่งตัว ห้องเพลย์รูม สวนสนุกขนาดย่อมสำหรับเด็กด้วยพื้นที่กว่า 100 ตรม. ห้องดูหนังสไตล์ออดิทอเรี่ยม 25 ที่นั่งที่มาพร้อมระบบเสียงระดับสุดยอด
และสตูดิโอซ้อมดนตรีอัดเสียง ฟิตเนส ห้องทำงาน รวมถึงสระว่ายน้ำขนาดใหญ่บนชั้น 4 ที่ว่ายได้จริงในทุกฤดูกาลเนื่องจากเป็นสระแบบปรับอุณหภูมิได้ ชั้น 2 มีทั้ง Pet Day Care และ หอพักแม่บ้านสเปคดีไว้ปล่อยเช่าถึง 11 ห้อง!! และThe Langsuan Lounge หรือ Rooftop Terrace สำหรับการจัด Private Party โดยที่ความเป็น Superfluous (ความหรูหราแบบเกินขีด)
ของที่นี่ก็มีให้เห็นเด่นชัดในขนาดของห้องที่แม้แต่ห้องขนาด 1 ห้องนอนยังเริ่มต้นที่ 87 ตารางเมตร ที่มาพร้อมเพดานสูง 3.5 เมตร มีตู้เก็บของ เก็บรองเท้าขนาดใหญ่มาก ในขณะที่ห้องเพนท์เฮาส์เพดานสูงถึง 4 เมตร มาพร้อมกระจกหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานและลิฟต์ล็อบบี้ส่วนตัวทุกห้อง
สิ่งที่ผมค่อนข้างว้าวกับความหรูหราเกินความต้องการก็คือห้องอาบน้ำที่ให้ Rain Shower ถึง 2 หัว พ่วงด้วย Hand Shower และหัวฉีดน้ำติดผนังอีก 2 หัว พร้อมอ่างอาบน้ำอีกต่างหาก…ความหรูหราของแท้ต้องมีเกินความต้องการขั้นพื้นฐานแบบนี้ล่ะครับ
นอกจากโครงการจะได้มีโอกาส Collaboration กับทั้งดีไซน์เนอร์ดังระดับโลก รวมไปถึงแบรนด์เฟอร์ฯชั้นนำทั่วทั้งโครงการแล้ว ก็ยังมีการทำ Private Event ร่วมกับ Luxury Lifestyle Product แบรนโดังอย่างต่อเนื่องครับ ตั้งแต่ Devialet แบรนด์ลำโพงสัญชาติฝรั่งเศส ที่จัดไพรเวทอีเว้นท์ ALIVE/INSIDE จนมาถึงล่าสุดนี้กับการร่วมมือกับ Chanintr ในการแต่งห้องแบบ Exclusive Fully Furnished สำหรับห้องแบบ 3 ห้องนอน ขนาด 247 ตรม.ขายในราคา 167 ลบ.ครับ
ห้องนี้แต่งบนคอนเซปท์ Eclectic Luxury ที่ใช้ส่วนผสมอันลงตัวของหินอ่อน พื้นไม้ มาผสานกับเฟอร์ฯนำเข้าแบรนด์ดัง อาทิ Minotti, Baker, Audo, De La Espada, Karimoku, Theodore Alexander, Louis Poulsen และ Chanintr x Co บนงานดีไซน์ที่แตกต่างกันไปตามแต่ละมุมห้องทั้ง Modern, Contemporary, Scandinavian และ Transitional
ซึ่งแบรนด์ Chanintr นั้น ได้เป็น Partner กับทางคุณยงมาตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ประทับใจทั้งเรื่องของ Taste, คุณภาพของสินค้า รวมไปถึงบริการหลังการขายที่ดีที่สุด อีกทั้งที่ผ่านมาก็มีลูกค้าหลายรายของโครงการที่ไปเลือกซื้อเฟอร์ฯจาก Chanintr มาไว้ในห้อง โดยห้องนี้ทาง Chanintr ได้จัดเฟอร์ฯมาลงรวมมูลค่ากว่า 12 ลบ. เทียบเท่ากับการยกเอาโชว์รูมของ Chanintr Living มาไว้บนห้องเลยทีเดียว
ราคาเริ่มต้น 2 ห้องนอน 95 ล้านบาท และเตรียมพบกับผลงานระดับมาสเตอร์พีซครั้งใหม่ PENTHOUSE ระดับ ULTIMATE CLASS ที่แพงที่สุด! ทุบสถิติคอนโดแพงสุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ทะลุ 1 ล้านบาทต่อตารางเมตร เคาะราคาขายกว่า 436 ล้านบาท จากฝีมือการออกแบบของโทมัส ยูล-ฮานเซน (Thomas Juul-Hansen)
โฆษณา