โบรกฯ กังวล `มูดี้ส์` ลดมุมมองไทย หวั่นกู้เงินใช้ `ดิจิทัลวอลเล็ต` 5.6 แสนล้าน
บล.กสิกรไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ ตลาดมีความกังวล เกี่ยวกับการกลับมาใช้นโยบายประชานิยมที่มีการอัดฉีดเม็ดเงินผ่านการทำดิจิทัลวอลเล็ต วงเงิน 5.6 แสนล้านบาท ทำให้เกิดการตั้งสงสัยเกี่ยวกับเม็ดเงิน และความคุ้มค่าการผ่อนคลายนโยบายการคลังหรือไม่
.
ความกังวลดังกล่าว จึงเป็นโอกาสมากน้อยแค่ไหนที่ประเทศไทยจะโดนปรับลด Outlook จาก บริษัทจัดอันดับเครดิตความน่าเชื่อถือ มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ซึ่งปัจจุบัน มูดี้ส์ จัดอันดับเครดิตประเทศไทยที่ "Baa1" และ outlook "Stable"
.
อย่างไรก็ตามเชื่อว่าการถูกลดเครดิตเรทติ้งประเทศไทย คงไม่เกิดขึ้น เนื่องจากในแง่การลงทุนระหว่างประเทศไทยยังคงสถานะไทยเป็นเจ้าหนี้กับต่างชาติ (Net creditor) และระดับเงินสำรองระหว่างประเทศกว่า 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐ
.
แต่มีโอกาสหรือไม่ที่จะถูกปรับลด outlook เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับ Fiscal debt metric รวมถึงแผนการก่อหนี้ที่สูงขึ้น และแผนการบริหารหนี้ไม่ชัดเจน เนื่องจากไทยที่จะกู้ยืมเงินอย่างมีนัยสำคัญเพื่อใช้ดิจิทัลวอลเล็ต ขณะที่จะทำให้ระดับหนี้สาธารณะสูงขึ้น
.
"เรามีการใช้ขาดการดุลงบประมาณเพิ่มขึ้นอีก 1 แสนล้านบาท ในปีงบประมาณ 67 และการขาดดุลงบประมาณจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และทำให้หนี้สาธารณะต่อจีดีพี ปัจจุบัน 62% จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คาดมีโอกาส 69.6% ในปี 69 ซึ่งปริ่มเพดานหนี้ 70% เป็นประเด็นที่มูดี้ส์อาจจะมอง"
.
บล.กสิกรไทย เสนอแนะ 3 แนวทาง ระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว อาจไม่ต้องถูกปรับลด Outlook ได้แก่
.
1. ระยะสั้น คือการขึ้นภาษี ซึ่งประเด็นนี้ตลาดหุ้นไม่ชอบ
2.ระยะกลาง การเจรจาเปิดเสรีการค้า (FTA) เป็นการเปิดช่องทางการดึงเงินลงทุนเข้ามาลงทุน และตลาดหุ้นชอบ เป็นช่องทางสร้างรายได้ให้คนไทย
3.เพิ่มประสิทธิภาพ ประสิทธิผลต่อการจ้างงาน
.
เช่นเดียวกับ บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ ระบุสั้นๆ ในบทวิเคราะห์ว่า ตลาดวิตกที่มาเงิน Digital Wallet หากใช้วิธีกู้จากธนาคารรัฐ ไม่ออกพันธบัตร อาจถูกลดเครดิต
***********************************
กด Follow & See First
ไว้เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสำคัญกันนะคะ
***********************************
#efinancethai
#มีข่าวมีโอกาส
#ข่าวหุ้น
#มูดี้ส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
