27 ก.ย. 2023 เวลา 13:12 • หุ้น & เศรษฐกิจ

จะรู้ได้อย่างไรว่าหุ้นตัวไหนราคาถูกแล้วและควรซื้อตอนไหน

สามารถพิจารณาได้จากปัจจัยทางการเงินและพื้นฐานของบริษัท
ปัจจัยทางการเงินและพื้นฐานของบริษัทเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินว่าหุ้นตัวไหนราคาถูกแล้วและควรซื้อ โดยสามารถพิจารณาได้จาก
อัตราส่วนทางการเงิน เช่น P/E Ratio, P/BV Ratio, Dividend Yield
P/E Ratio คือ อัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้น เป็นการเปรียบเทียบระหว่างราคาหุ้นในปัจจุบันกับกำไรต่อหุ้นของบริษัท โดยหาก P/E Ratio ต่ำ แสดงว่าหุ้นมีราคาถูกเมื่อเทียบกับกำไรของบริษัท
P/BV Ratio คือ อัตราส่วนราคาต่อมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น เป็นการเปรียบเทียบระหว่างราคาหุ้นในปัจจุบันกับมูลค่าทางบัญชีของบริษัท โดยหาก P/BV Ratio ต่ำ แสดงว่าหุ้นมีราคาถูกเมื่อเทียบกับมูลค่าทางบัญชีของบริษัท
Dividend Yield คือ อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล เป็นการเปรียบเทียบระหว่างเงินปันผลต่อหุ้นกับราคาหุ้นในปัจจุบัน โดยหาก Dividend Yield สูง แสดงว่าหุ้นมีราคาถูกเมื่อเทียบกับเงินปันผลที่จะได้รับ
ปัจจัยพื้นฐาน เช่น ผลประกอบการ, อุตสาหกรรม, ผู้บริหาร, เศรษฐกิจ, นโยบายของภาครัฐ
1
ผลประกอบการ เป็นตัวชี้วัดความสามารถในการทำกำไรของบริษัท หากบริษัทมีผลประกอบการที่ดี แสดงว่าบริษัทมีแนวโน้มที่จะเติบโตในอนาคต
อุตสาหกรรม เป็นตัวกำหนดทิศทางของธุรกิจของบริษัท หากอุตสาหกรรมมีแนวโน้มเติบโต แสดงว่าหุ้นของบริษัทมีแนวโน้มที่จะเติบโตเช่นกัน
ผู้บริหาร เป็นตัวกำหนดทิศทางของบริษัท หากผู้บริหารมีฝีมือและประสบการณ์ แสดงว่าบริษัทมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จในอนาคต
เศรษฐกิจ เป็นตัวกำหนดสภาพแวดล้อมทางธุรกิจของประเทศ หากเศรษฐกิจมีแนวโน้มเติบโต แสดงว่าหุ้นของบริษัทมีแนวโน้มที่จะเติบโตเช่นกัน
นโยบายของภาครัฐ เป็นตัวกำหนดกฎระเบียบและข้อบังคับต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ หากนโยบายของภาครัฐเอื้อต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท แสดงว่าหุ้นของบริษัทมีแนวโน้มที่จะเติบโตเช่นกัน
ข้อควรระวัง
การลงทุนในหุ้นมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน โดยควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน รวมถึงปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจของบริษัท
โฆษณา