28 ก.ย. 2023 เวลา 03:23 • การศึกษา
"เอตา มะยัง ภันเต สุจิระปรินิพุตัมปิ ตัง ภะคะวันตัง สะระณัง คัจฉามะ ธัมมัญจะ สังฆัญจะ พุทธมามิกาติ โน สังโฆ ธาเรตุ" นี่คือบทสวดแสดงตนเป็นพุทธมามกะ เราระลึกรู้ได้ว่าเรารู้จักบทสวดนี้ และได้สวดจริงจัง เอาก็ตอนอายุ 30 กว่าแล้ว
ถามว่าก่อนหน้านั้น หากนับย้อนตั้งแต่ลืมตาดูโลก เราเชื่อว่าทุกคน คงได้เคยติดสอยห้อยตามพ่อแม่ไปวัด หรือใส่บาตรพระหน้าบ้าน หรือไปงานเผาศพ หรืองานบวช งานแต่ง ที่จะต้องมีพระสงฆ์องค์เจ้ามาทำพิธีเพื่อความเป็นศิริมงคลในงาน จนเมื่อพวกเราได้รับการศึกษา อ่านหนังสือหนังหา คลุกคลีกับผู้รู้ พวกเราจึงได้ตระหนักว่า สิ่งเหล่านี้คือ "เปลือก" ที่ยังคงจำเป็นต้องทำหน้าที่ห่อหุ้ม "แก่นพระพุทธศาสนา" เอาไว้
ชีวิตมนุษย์ทุกคน ล้วนมีจุดเริ่มต้นจากความโง่ ความไม่รู้ ทุกสิ่งถูกปั่นและสร้างให้มี "รูป" โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "นาม" ซึ่งเป็นสิ่งสมมติ และที่สุดพวกเราก็ตระหนักว่าสิ่งเหล่านี้แทบทั้งหมด เกิดขึ้น ตั้งอยู่ชั่วคราว แล้วก็ดับไปในที่สุด จึงเป็นที่มาของวลี ว่าเหล่านี้คือ "สิ่งสมมติ" และกว่าที่พวกเราแต่ละคน จะค่อยๆ ตระหนักรู้สิ่งนี้ มันก็ไม่ง่าย เพราะแต่ละคน เกิดมาด้วยบุญกรรมที่ไม่เหมือนกันเลย แต่พวกเราก็ไม่เคยที่จะยอมรับความจริงในข้อนี้ มันจึงตามมาด้วย อยากมี อยากได้ อยากเป็น อิจฉาริษยา โกรธแค้น
พวกเราทุกคนเกิดมาด้วยความโง่
แล้วก็โง่ดักดานกันทุกคนนั่นแหละค่ะ
แม้นตายลงไป ก็ยังไม่หายโง่อยู่ดี
ไม่รู้ว่าเราตอบคำถามคุณหรือไม่นะคะ
โฆษณา