เติมน้ำมันรถ “ครึ่งถัง” vs “เต็มถัง” แบบไหนประหยัดกว่า?
เป็นคำถามที่ถกเถียงกันมานานว่าการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงให้กับรถยนต์นั้น ควรเติมในปริมาณเท่าไรถึงจะเหมาะสม และประหยัดเงินในกระเป๋ามากกว่ากัน
ควรเติมแค่ “ครึ่งถัง” พอ หรือเติมให้ “เต็มถัง” ไปเลยกันแน่?
สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ว่า...
การเติมน้ำมัน “ครึ่งถัง” ไม่ได้ช่วยเรื่องประหยัดพลังงานอะไรเลย และที่สำคัญอาจจะส่งผลเสียต่อเครื่องยนต์ได้อีกด้วย
Image Credit: Pixabay
เนื่องจากพอน้ำมันเหลือน้อย ปั๊มติ๊ก (ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์) จะต้องทำงานหนักมากขึ้น เพราะไม่มีน้ำมันห่อหุ้มเพื่อระบายความร้อนและหล่อลื่น ส่งให้ปั๊มติ๊กจากไปก่อนเวลาอันควร
นอกจากนี้ หากเรารอให้น้ำมันใกล้หมดถังแล้วค่อยเติม เวลาที่เราขับรถด้วยความเร็วสูงผ่านถนนที่มีสภาพพื้นผิวขรุขระ ก็จะส่งผลให้กลไกลูกลอยหลุด และเกจ์วัดระดับน้ำมันเสียได้อีกด้วย
ส่วนในการเติมน้ำมันให้ “เต็มถัง” ไปเลยนั้น ข้อดีก็คือเราจะมีพลังงานสำรองซึ่งจะช่วยเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่มากขึ้น
Image Credit: Pixabay
แต่อย่างไรก็ดี หากเติมน้ำมันในปริมาณมากเกินไปก็อาจจะทำให้ไอระเหยของน้ำมันส่งผลทำให้ระบบเครื่องยนต์มีปัญหาได้ รวมถึงน้ำมันอาจจะไหลซึมออกมาจากฝาถัง ทั้งขณะที่เติมน้ำมันอยู่ (เด็กปั๊มพยายามเติมให้เป็นเลขกลมๆ) หรือตอนขับขี่
ซึ่งมันก็จะทำให้เปื้อนมาที่ตัวรถ และส่งผลเสียต่อสีรถของเรา อีกทั้งน้ำมันที่ไหลซึมออกมาก็อาจจะเกิดอันตรายได้เมื่อเจอกับสะเก็ดไฟ หรือเปลวไฟ
แล้ววิธีการเติมน้ำมันที่ดีควรทำอย่างไร?
เราควรเติมน้ำมันให้เกิน 3 ใน 4 ของถังน้ำมันอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยถนอนและรักษาเครื่องยนต์ให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากยิ่งขึ้น
และที่สำคัญอย่าปล่อยให้ถังน้ำมันแห้งบ่อยๆ เพราะจะส่งผลเสียต่อรถของเราในระยะยาวได้...
รวมถึงหากขับรถออกไปในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งมีระยะทางระหว่างปั๊มน้ำมันค่อนข้างไกลกัน อาจจะมีความเสี่ยงที่น้ำมันจะหมดระหว่างทางได้ก่อนจะไปถึงปั๊ม
การวางแผนตรวจสอบเส้นทาง และระยะทางในการเดินทางก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการวางแผนเติมน้ำมันในแต่ละครั้งด้วย
ว่าแล้วก็เช็คราคาน้ำมัน (ที่ตัวเลขวิ่งเร็วเหมือนนักวิ่ง 100 เมตรโอลิมปิก) แล้วออกไปเต็มน้ำมันตามข้อแนะนำกันครับ...
Reference: สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.)
- 8
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
