เล่าเรื่องเที่ยวฮาบิ้น ตอน 2
ต่อเนื่องจากโฟส์ก่อนหน้านี้คะ
วันนี้....เราตื่นสายได้ไงนะ น่าจะเหนื่อยจากเมื่อวานและด้วยเวลาเปลี่ยนจากบ้านเรา เริ่มด้วยหาไรรองท้องก่อนออกเดินทางไปนอกที่พักเลย จุดหมายแรกก็คือ sun island ก็ตามที่โรงแรมแนะนำและเราเองก็หาข้อมูลมา แต่พอได้ถามคนเดินแถวนั้นดู เขาบอกว่าไปทำไม เช้าอย่างนี้ sun island ต้องไปตอนเย็นถึงกลางคืนถึงจะสวย เธอแนะนำให้ไปเที่ยวที่โปสถ์ก่อนแล้วต่อด้วย stalin part ดีนะที่เราเชื่อคนท้องถิ่นทำให้เราใช้เวลาได้คุ้มค่ามากชึ้น วันนี้เลยเดินตั้งแต่เช้ายันดึกเพราะได้ร่วมงาน แสงสีเสียงท่ามกลางความหนาวคะ
ดังนั้นแผนก็เลยปรับเป็นสถานที่แรกคือ st. Sophia ซึ่งเป็นโบสถ์เก่าแก่ที่สวยและเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาถ่ายรูปกันที่นี่ เราใช้เวลาเดินประมาณเกือบ 1 ชั่วโมงเห็นจะได้ ซึ่งเราจะคอยถามคนไปเรื่อยๆเป็นการ confirm ว่ามาถูกทางแล้ว สุดท้ายก็มาถึง เป็นโบสถ์ที่สวยงามทีเดียว มีนักท่องเที่ยวมากพอดูคะ เราอยู่ที่นี่ประมาณชั่วโมงกว่าๆเห็นจะได้ เราเดินคนเดียว ดื่มด่ำบรรยากาศท่ามกลางอากาศยะเยือกติดลบ 20 กว่าๆๆๆ ฮา ฮา (เปิด 8:00-18:00น. / มีค่าเข้าชม )
ระหว่างทางไปโบสถ์ ผู้คนมากมายทำให้ไม่เหนื่อยที่จะชมเมืองเลย
ชาวรัสเซียที่มาเที่ยวเหมือนกัน ส่งภาษาใบ้ เลยถ่ายเป็นที่ละลึกน่ะ
กินไอติมที่อากาศหนาวติดลบ 20 ก็จะได้อารมณ์แปลกๆ
จากนั้นเราก็มุ่งไปที่ stalin park ซึงระหว่างที่ไปก็ถามทางไปเรื่อยจนมาเจอกับร้านขายของชำซึ่งตอนแรกเราไม่รู้ว่ามันเป็นร้านขายของ หากไม่เข้าไปดู มันดูไม่ออกเลย ข้างในมีร้านขายของกินเยอะมากมายไปหมด เราไปกินและถ่ายรูปมามายมายซึ่งเห็นจะมีแต่คนท้องถิ่นทั้งนี้น อาหารกินเล่นและอาหารพื้นเมืองให้เลือกกันมากมายคะ
ของกินข้างทางเยอะมาก แผ่นความร้อนก็มีขายนะ
เดินมาสักพักก็มาถึงท่าน้ำซึ่งมีคนมาเล่นกีฬาน้ำแข็งมากมายไปหมด ทั้งขับรถบนน้ำแข็ง ล้อลาก ล้อเลื่อน และเดินเล่นเป็นต้น ซึ่งเขาจะเล่นบนแม่น้ำซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแผ่นน้ำแข็งขนาดใหญ่ หนาน่าจะมากกว่า 1 เมตรเห็นจะได้
มาเองก็จะดีประมาณนี้ที่แวะได้ทุกที่ที่ต้องการ
เรากินอาหารกลางวันที่สนามนี้ ประทังชีวิตไปด้วยขนมเปี๊ยะที่นำข้ามน้ำข้ามทะเลจากไทยมา รวมกับขนมปังที่ได้มาจากเครื่องบิน เพราะว่าเราไม่อยากเสียเวลามาก เนื่องจากเราต้องเดินทางไปที่ลานเทศกาลน้ำแข็งซึ่งอยู่อีกฝาก เราอยู่ที่นี่จนถึงหนึ่งทุ่มเห็นจะได้ ขอบอกว่าหนาวมาก แต่สวยมากเข่นกัน คนเยอะมาก เสียค่าผ่านประตู 300 หยวน
เข้างานก่อนมืด พอใกล้ค่ำแสงไฟเริ่มเปิดทำให้ลานน้ำแข็งสว่างไสว ทำให้ครื้นเครงน่าเที่ยว อากาศก็เย็นยะเยือกมาก
สุดท้ายก็จบไปอีกวัน ต้องเตรียมตัวเตรียมใจสำหรับวันพรุ่งนี้ซึ่งเราต้องจับเครื่องบินไปซีอานตอน 5 โมงเย็นหมายถึงเราต้องออกจากตัวเมืองอย่างช้าบ่ายสองโมง
ตอนเย็นหลังจากกลับจากที่ลานแสดงน้ำแข็งเราโส้ยอาหารเย็นมื้อสุดท้ายที่ร้านเดินสุดแสนจะอร่อยของเรา วันนี้เราสั่ง
อาหารตามสั่ง ข้าวฟรี น้ำฟรี กินไม่หมดเพราะว่าเยอะมากกกกก
คำแนะนำส่งท้ายบท......
ผู้ที่จะเดินทางไปเที่ยวฮาร์บิน ควรเตรียมเสื้อผ้ากันหนาวให้เหมาะสม กับสภาพอากาศ และอย่าลืมพกยาประจำตัวไปด้วยนะ สำหรับผู้ที่เดินทางไปเที่ยวเองในช่วงฤดูหนาวจะมืดเร็วมาก รวมทั้งร้านค้าก็จะปิดเร็วด้วย ดังนั้นควรเตรียมแผนการเดินทางให้รอบคอบ มีอาหารไว้กันหิวก็ดีคะ 555
การเดินทางไปฮาร์บิน ไม่มีไฟลต์บินตรงจากประเทศไทย จะต้องไปต่อเครื่องที่เมืองใดเมืองหนึ่ง เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ คะ
ปิดท้ายด้วยรูปแสงสี ไม่อยากกลับ แต่หนาวมากคะ
ตอนหน้าจะเป็นช่วงสุดท้ายของเมืองฮาบิ้น คอยติดตามคะ
#เที่ยวคนเดียว #โลกนี้น่าเที่ยว #พาแม่เที่ยวโดยเปา #โซโลทริป #ไปเที่ยวกัน
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
