1 ต.ค. 2023 เวลา 03:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ส่อง 5 กลุ่มเด่นจาก Healthcare ที่ไม่ได้มีดีแค่หุ้นโรงพยาบาล!

รู้หรือไม่ ? ผลตอบแทนกลุ่ม Healthcare ย้อนหลัง 10 ปี มีตัวเลขที่สูงถึง 10.27% เมื่อเทียบกับตลาดโลกที่เติบโตอยู่ที่ 9.12% นั่นแสดงให้เห็นถึงการเติบโตที่ดีของกลุ่ม Healthcare ในระยะยาวที่ผ่านมา
2
(อ้างอิงจากตัวเลขดัชนี MSCI ACWI ของกลุ่ม Healthcare ย้อนหลัง 10 ปี จาก MSCI.COM เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2566)
ซึ่งการเติบโตของกลุ่ม “𝐇𝐞𝐚𝐥𝐭𝐡𝐜𝐚𝐫𝐞” นี้ ไม่ได้มาจากการเติบโตของกลุ่มโรงพยาบาลเพียงอย่างเดียวเหมือนอย่างที่หลายคนคิด แต่ยังมีกลุ่มธุรกิจอื่น ๆ ที่มีความน่าสนใจอีกไม่น้อย ที่ทำให้ธุรกิจในกลุ่ม Healthcare สามารถเติบโตได้ โดยแบ่งออกเป็น 5 กลุ่มสำคัญ ที่ประกอบไปด้วย…
  • กลุ่มที่ 1 𝐏𝐡𝐚𝐫𝐦𝐚𝐜𝐞𝐮𝐭𝐢𝐜𝐚𝐥
เป็นกลุ่มบริษัทยา ที่ครอบคลุมตั้งแต่การคิดค้น วิจัย พัฒนา และจัดจำหน่ายยา ซึ่งโดยปกติแล้ว บริษัทกลุ่มนี้จะสามารถสร้างกำไรได้ค่อนข้างสม่ำเสมอในทุกภาวะเศรษฐกิจ สอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภค ที่มักจะมองหาทางเลือกในการรักษาอาการเบื้องต้นด้วยตัวเองก่อน แถมกลุ่มบริษัทยายังมีความสามารถในการพัฒนายา ทำให้ในช่วงโควิด 19 บริษัทในกลุ่มนี้สามารถสร้างกำไรได้ไม่น้อยเลย
สำหรับประเภทยาที่ผลิตและจำหน่าย แบ่งออกเป็น 2 ประเภท
1
1) Original ยาที่ได้รับการจดสิทธิบัตร เป็นยาใหม่ที่มีการผลิต และค้นคว้าวิจัย
2) Generic ยาสามัญ ซึ่งเป็นยาที่มาจากยาที่หมดสิทธิบัตรแล้ว
1
ตัวอย่างบริษัท :
- Eli Lilly & Co. บริษัทยาของสหรัฐฯ มีมูลค่าตลาดสูงที่สุดในกลุ่ม Pharmaceutical อยู่ที่ 568.91 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีมูลค่าตลาดสูงอยู่ในอันดับที่ 10 ของโลก
- Merck & Co. บริษัทเวชภัณฑ์ยา สัญชาติอเมริกัน ผู้ผลิตยาเม็ด Molnupiravir ใช้รักษาผู้ป่วยโควิด 19 ระยะแรก มีมูลค่าตลาดอยู่ในอันดับที่ 4 ของกลุ่ม Pharmaceutical อยู่ที่ 276.64 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
1
(*มูลค่าตลาดและการจัดอันดับ ตามการอ้างอิงจาก Companiesmarketcap.com เมื่อวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2566)
  • กลุ่มที่ 2 𝐁𝐢𝐨𝐭𝐞𝐜𝐡𝐧𝐨𝐥𝐨𝐠𝐲
เป็นกลุ่มธุรกิจที่เน้นวิจัย และพัฒนาเกี่ยวกับเทคโนโลยีชีวภาพ รวมถึงการใช้เครื่องมือเทคโนโลยีตัดต่อพันธุกรรม (Genomics) การปรับเปลี่ยนโครโมโซม ทำให้เทคโนโลยีชีวภาพเหล่านี้ มีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์ของโลก
ตัวอย่างบริษัท :
  • Biogen บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของสหรัฐฯ มุ่งเน้นเรื่องของไบโอเทคโนโลยี คิดค้นพัฒนาสารใหม่ ๆ และปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 37.42 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • AmGen บริษัทชั้นนำระดับโลกด้านเทคโนโลยีชีวภาพ จากเยอรมนี เปลี่ยนความสำเร็จด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นวิธีการบำบัดรักษาโรคที่ช่วยฟื้นฟูสุขภาพ หรือรักษาชีวิตของผู้ป่วย ปัจจุบันมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 53.21 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
1
(*มูลค่าตลาดและการจัดอันดับ ตามการอ้างอิงจาก Companiesmarketcap.com เมื่อวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2566)
  • กลุ่มที่ 3 𝐇𝐞𝐚𝐥𝐭𝐡𝐜𝐚𝐫e 𝐄𝐪𝐮𝐢𝐩𝐦𝐞𝐧𝐭 & 𝐒𝐮𝐩𝐩𝐥𝐢𝐞𝐬
ธุรกิจผลิตเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์ เป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่ได้รับอานิสงส์จากเทรนด์รักสวยรักงาม และยังสามารถสร้างการเติบโตได้จากธุรกิจที่ให้บริการด้านสุขภาพที่มีความต้องการเพิ่มขึ้น
1
โดยอุปกรณ์การแพทย์ แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่
  • อุปกรณ์ใช้แล้วทิ้ง (Single-Use Devices) เช่น เข็มฉีดยา หลอดฉีดยา ถุงมือยาง
  • อุปกรณ์ใช้คงทน (Durable Medical Devices) เช่น เตียงคนไข้ รถเข็น เครื่องมือแพทย์วินิจฉัยโรค
  • น้ำยาวินิจฉัยโรค (Reagents and test Kits) สำหรับใช้ในห้องปฏิบัติการ
3
ตัวอย่างบริษัท :
  • Abbott Laboratories บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ จากสหรัฐฯ ปัจจุบันมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 177.78 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • Medtronic บริษัทผลิตเครื่องมือแพทย์อันดับต้น ๆ ของโลก โดยเครื่องมือแพทย์ที่สร้างรายได้มากที่สุดคือ เครื่องมือรักษาโรคหัวใจและหลอดเลือด ปัจจุบันมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 107.74 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
(*มูลค่าตลาดและการจัดอันดับ ตามการอ้างอิงจาก Companiesmarketcap.com เมื่อวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2566)
  • กลุ่มที่ 4 𝐇𝐞𝐚𝐥𝐭𝐡𝐜𝐚𝐫𝐞 𝐏𝐫𝐨𝐯𝐢𝐝𝐞𝐫
กลุ่มผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพ ซึ่งเป็นได้ทั้งบุคคลหรือหน่วยงานที่ให้การดูแลทางการแพทย์หรือการรักษา ไม่ว่าจะเป็น แพทย์ ผู้ประกอบวิชาชีพพยาบาล นักรังสีวิทยา ห้องปฏิบัติการ โรงพยาบาล คลินิกดูแลฉุกเฉิน และอื่น ๆ โดยธุรกิจในกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่เรามักจะคุ้นเคยมากที่สุด และใช้บริการอยู่บ่อย ๆ
ตัวอย่างบริษัท :
  • Teladoc Health ผู้นำธุรกิจเทเลเมดิซีนของสหรัฐฯ ให้บริการด้านการแพทย์ทางไกล และการดูแลสุขภาพเสมือนจริง ปัจจุบันมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 3.70 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • BDMS โรงพยาบาลเอกชนชั้นนำในประเทศไทย ให้บริการทางการแพทย์แบบครบวงจร ปัจจุบันมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 12.24 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นอันดับที่ 18 ในกลุ่ม Medical Care Facilities
(*มูลค่าตลาดและการจัดอันดับ ตามการอ้างอิงจาก Companiesmarketcap.com เมื่อวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2566)
  • กลุ่มที่ 5 𝐇𝐞𝐚𝐥𝐭𝐡𝐜𝐚𝐫𝐞 𝐈𝐧𝐬𝐮𝐫𝐚𝐧𝐜𝐞
กลุ่มธุรกิจผู้ให้บริการด้านประกันสุขภาพ เป็นหนึ่งในกลุ่มที่หลายคนคาดไม่ถึง ว่าจะอยู่ในอุตสาหกรรม Healthcare แต่ต้องบอกว่า สำหรับธุรกิจในกลุ่มนี้เริ่มมีความสำคัญมากขึ้น โดยเฉพาะกับสหรัฐฯ ที่ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลแพงที่สุดในโลก
1
ข้อมูลจาก Statista.com เมื่อวันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2566 ระบุว่า ในปี พ.ศ. 2565 มีค่าใช้จ่ายด้านการดูแลรักษาสุขภาพต่อคนอยู่ที่ 12.55 พันดอลลาร์สหรัฐ แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการสร้างผลตอบแทนของกลุ่ม Health Insurance ที่ยังมีอยู่อีกมาก
ตัวอย่างบริษัท :
  • UnitedHealth Group บริษัทประกันภัยสุขภาพชั้นนำของสหรัฐฯ ที่เน้นการขายประกันสุขภาพให้กับคนอเมริกัน รวมถึงยังให้คำปรึกษาเกี่ยวกับด้านสุขภาพ ครอบคลุมธุรกิจกลุ่ม Healthcare Provider ปัจจุบันบริษัทนี้มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 444.53 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นอันดับ 1 ของกลุ่ม Healthcare และอันดับที่ 14 ของโลก
1
(*มูลค่าตลาดและการจัดอันดับ ตามการอ้างอิงจาก Companiesmarketcap.com เมื่อวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2566)
และทั้งหมดนี้คือ 5 กลุ่มจากอุตสาหกรรม Healthcare ที่มีมากกว่าแค่โรงพยาบาล ซึ่งจะพบว่า แต่ละกลุ่มของอุตสาหกรรมนี้ ล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่มีความสามารถในการพัฒนาทางการแพทย์ ที่ส่งผลดีต่อเนื่องต่อคุณภาพชีวิตของทุก ๆ คน
จากข้อมูลการเติบโต ทั้งตัวเลขดัชนี MSCI ACWI และรูปแบบเฉพาะกลุ่มเหล่านี้ ก็สะท้อนให้เห็นว่า ธุรกิจ Healthcare มีความสำคัญในระยะยาว ซึ่งคาดว่าจะมีการเติบโตที่เพิ่มสูงขึ้นได้อีก จากความสามารถในการพัฒนาทางด้านการแพทย์ที่ก้าวหน้าขึ้นเรื่อย ๆ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าวันนี้เราจะไม่ได้ทำงานที่เกี่ยวข้องกับด้านการแพทย์ แต่เราเองก็สามารถสร้างโอกาสจากอุตสาหกรรมนี้ได้เช่นกัน โดยเลือกลงทุนกับ กองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ เฮลธ์แคร์ ฟันด์ หรือ KT-HEALTHCARE หรือลงทุนพร้อมสิทธิประโยชน์ทางภาษีได้กับกองทุน KT-HEALTHCARE-SSF และ KT-HEALTHC RMF
โดยทั้ง 3 กองทุนนี้เป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงระดับ 7 ซึ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนในกองทุนต่างประเทศ Janus Henderson Global Life Sciences Fund (Master Fund) เพียงกองทุนเดียว เน้นลงทุนในตราสารทุนของบริษัทต่าง ๆ ทั่วโลก ที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ทางการรักษาและพัฒนาคุณภาพชีวิต
ผู้สนใจลงทุน สามารถศึกษารายละเอียดกองทุนเพิ่มเติมได้ที่
1
คำเตือน :
ปัจจัยความเสี่ยงที่สำคัญ : ความเสี่ยงทางตลาด (Market Risk) / ความเสี่ยงจากการดำเนินงานของผู้ออกตราสาร (Business Risk) / ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน (Currency Risk) / ความเสี่ยงของประเทศที่ลงทุน (Country Risk) เป็นต้น
กองทุนนี้มีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
ในกรณีที่กองทุนไม่ได้มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุน หรืออาจจะได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
1
ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการออม / กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ หากลงทุนไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กรมสรรพากรกำหนด อาจต้องคืนสิทธิประโยชน์ทางภาษีและเสียเงินเพิ่ม
References :
โฆษณา