30 ก.ย. 2023 เวลา 09:19 • ข่าว

คอนเทนต์ด้านการทหารกับการดึงสงครามสู่กระแสวัฒนธรรมของรัสเซีย

การทหาร และ สงคราม อาจเป็นมรดกตกทอดทางวัฒนธรรมของชาวรัสเซียไปเสียแล้ว ที่สามารถพูดเรื่องหนักๆขนาดนี้ออกสื่อกันได้อย่างไม่ขัดเขิน ราวกับเป็น Pop Culture อย่างหนึ่ง
1
อย่างล่าสุด เมื่อวันศุกร์ (29 กันยายน 2023) วลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ได้จูงมือนายอังเดร ทรอสเชฟ อดีตผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองกำลังทหารรับจ้างเอกชน Wagner มาหารือเกี่ยวกับการเกณฑ์กำลังพลรอบใหม่ เพื่อกลับสู่สมรภูมิในยูเครนอีกครั้ง ซึ่งงานนี้ไม่ได้คุยกันเงียบๆ เป็นการภายในแค่ทำเนียบเครมลิน แต่จัดการถ่ายทอดออกสื่อโทรทัศน์เสียด้วย ราวกับเป็น Reality Show
2
หลังจากที่กองกำลัง Wagner ดูเหมือนจะสลายไปแล้วหลังเหตุการณ์จลาจลลุกฮือยึดกองบัญชาการทหารรัสเซียที่เมือง รอสตอฟ-นา-โดนู และ การเสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินตกของ เยฟเกนี พริโกซิน ผู้ก่อตั้ง Wagner เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ที่หลายคนเชื่อว่าฝ่ายกลาโหม Wagner คงเทคโอเวอร์ หน่วยงานนี้ไปดูแลเอง
และล่าสุด มีการถ่ายทอดการประชุมที่ไม่ลับระหว่าง ปูติน กับ อังเดร ทรอสเชฟ อดีตผู้บังคับบัญชาอาวุโสของ Wagner ออกสื่อรัสเซียอย่างเปิดเผย แถมยังมอบหมายให้ ทรอสเชฟ ไปรวบรวมทหารอาสาชุดใหม่มาลงสนามรบในยูเครน แถมยังสำทับด้วยว่า อังเคร ทรอสเชฟ สู้รบในกองกำลัง Wagner มานานหลายปี เขารู้ว่าต้องทำอย่างไร
1
การนำตัว อดีตผู้นำ Wagner มาออกสื่อทีวีให้ชาวรัสเซียได้เห็น พูดคุยกันเรื่องเพิ่มกองกำลังรบกันแบบหน้าตาเฉย ง่ายเหมือนตั้งหน่วยกู้ภัยอาสา และยังเป็นการบอกชาวรัสเซียให้รู้ว่ารัฐบาลเครมลินยังสามารถคุมกองกำลัง Wagner ได้อยู่ ไม่มีแตกแถว ซึ่ง ดมิตรี เพสคอฟ โฆษกรัฐบาลเครมลิน ก็ยังยืนยันผ่านสื่อรัสเซียว่า ตอนนี้ อังเดร ทรอสเชฟ สังกัดอยู่ในกลาโหมรัสเซียเรียบร้อยแล้ว
1
สอดรับกับที่ปูติน เพิ่งเซ็นคำสั่งเกณฑ์กำลังพลในฤดูกาลใหม่อีก 130,000 นาย โดย กองทหารอาสาของ ทรอสเชฟ จะอยู่ในหน่วยปฏิบัติการทหารพิเศษ เป็นกำลังเสริมไม่เกี่ยวกับกองทัพ ซึ่งไม่ต่างจากการใช้บริการเสริมกองทหาร Wagner ในอดีตเลยแม้แต่น้อย เพียงแต่ชัดเจนขึ้นว่ายังไงเสีย ก็สังกัดในร่มเงาของกลาโหมรัสเซีย ที่ไม่สามารถปัดความรับผิดชอบได้เหมือนเมื่อก่อนแล้ว
1
ก็เรียกได้ว่าเป็นคอนเทนต์หนึ่งของรัฐบาลรัสเซีย ที่มักมีออกมาให้ชาวรัสเซียได้ชมกันบ่อยๆ ไม่ขาดสาย นอกเหนือจากการโชว์ทดสอบขีปนาวุธ หรืองานถ่ายทอดการสวนสนามใหญ่
1
และการใช้สื่อนำเสนอคอนเทนต์ด้านการทหารก็กลายเป็นส่วนสำคัญในการสร้างฐานเสียง และกลุ่มผู้สนับสนุนรัสเซียอีกด้วย ไม่ได้เป็นเพียงแค่การโฆษณาชวนเชื่อ และไม่ได้มีเพียงฝ่ายกลาโหมของรัฐบาลรัสเซียเท่านั้นที่ทำ
อย่างกลุ่ม Wagner ที่มีช่อง Telegram เป็นของตัวเอง ที่มียอดผู้ติดตามกว่า 1.5 ล้านบัญชี บวกกับสื่อหลักที่อยู่ในเครือพันธมิตรของพริโกซิน นำเสนอข่าวสาร Wagner ให้ชาวรัสเซียได้ติดตามผลงานอย่างสม่ำเสมอ และเป็นการนำเสนอข่าวสารอีกแง่หนึ่ง คู่ขนานไปกับสื่อของรัฐบาล
และจะเห็นได้จากเหตุการลุกฮือของกลุ่ม Wagner เมื่อไม่นานมานี้ ที่มีชาวรัสเซียจำนวนมากออกมาให้กำลังใจพริโกซิน จนถึงการเสียชีวิตของเขา ก็ได้รับความสนใจจากชาวรัสเซียอย่างล้นหลาม มีผู้คนมาวางดอกไม้ไว้อาลัยมากมาย แม้จะรู้ว่าเยฟเกนี พริโกซิน จะมีประวัติชีวิตด้านมืดมามากแค่ไหนก็ตาม
1
ด้านกลุ่มกองกำลังเชเชน ที่นำโดย แรมซาน คาดีรอฟ ก็ใช่ย่อย มีช่องทางออกไลฟ์สดใน Telegram พูดคุยกับแฟนคลับของเขาเหมือนกัน และมีผู้ติดตามมากถึง 3.2 ล้านบัญชี นับเป็นนักการเมืองรัสเซียที่มียอดผู้ติดตามสูงที่สุด มากกว่าช่องของปูติน ภาคภาษาอังกฤษเสียอีก
เมื่อผู้นำสายทหารกลายเหมือนคนดังในรัสเซีย แม้จะมีทั้งกองเชียร์ และ กองแช่ง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ความเคลื่อนไหวของผู้มีอิทธิพลด้านการทหารเป็นที่จับตาของประชาชนรัสเซีย และ สื่อทั่วโลก
จึงไม่แปลกใจที่การนำเสนอคอนเทนต์ด้านการทหาร จะเป็นหัวใจของรัฐบาลรัสเซีย เพื่อสื่อสารในมุมของฝ่ายรัสเซีย ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ปูติน ก็ได้เชิญอินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายโปร-รัฐบาลหลายสิบคน เข้ามานั่งคุยกันอย่างเปิดอก สไตล์กันเองถึงในทำเนียบ และถ่ายทอดผ่านออนไลน์ด้วย
1
และถึงแม้สื่อของรัสเซียจะถูกแบนจากแพลทฟอร์มออนไลน์ของพันธมิตรชาติตะวันตก หรือมักจะถูกปักป้ายว่าเป็น Fake News เสมอ แต่สื่อรัสเซียกลับกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในประเทศแถบโซนลาตินอเมริกา ลงมาถึงอเมริกาใต้ ที่คนในกลุ่มประเทศเหล่านี้จำนวนมากมีมุมมองที่แตกต่างจากโลกตะวันตก และต้องการติดตามข่าวในอีกแง่มุมหนึ่งที่ไม่ได้มากจากสื่อกระแสหลักของพันธมิตรชาติตะวันตก
1
ดังจะเห็นได้จากการที่สำนักข่าว RT และ Sputnik News ของรัสเซียได้เพิ่มปริมาณนักข่าวที่เชี่ยวชาญภาษาสเปนเพิ่มขึ้นมากกว่า 200 คน ในสำนักงานหลักที่มอสโคว เพื่อนำเสนอข้อมูลสงครามยูเครนจากฝั่งของรัสเซียเป็นภาษาสเปน ที่เข้าถึงง่ายสำหรับกลุ่มผู้ติดตามในโซนอเมริกาล่าง
1
จึงทำให้นักวิชาการตั้งข้อสังเกตว่า ประเทศในแถบอเมริกาโซนล่างๆ ไม่ค่อยออกมาต่อต้านรัสเซียมากเท่ากับประเทศโซนอื่นๆ ที่รับข่าวจากสื่อตะวันตกเป็นหลัก
อาจเป็นเรื่องที่โหดร้ายเกินไปที่จะกล่าวว่า รัสเซียเป็นประเทศที่ดึงเอาสงคราม มาหล่อใหม่ให้เป็นเหมือน Pop Culture ส่งต่อเป็นกระแสวัฒนธรรมสู่ประชาชน เพราะคงไม่มีใครอยากใช้คำนี้กับการใช้ความรุนแรงทางทหาร ที่หมายถึงการเสียชีวิตของทหาร และ พลเรือนนับแสนในช่วงเวลาแค่ไม่ถึง 3 ปี
แต่ก็ต้องยอมรับว่าข่าวสารความเคลื่อนไหวด้านการทหารของรัสเซียกลายเป็นคอนเทนต์อย่างหนึ่ง ที่มีอยู่ในชีวิตประจำวันของชาวรัสเซียมานานตั้งแต่ยุคสงครามเย็น แม้กระทั่งวัฒนธรรมการส่งต่อชุดรหัสควบคุมขีปนาวุธนิวเคลียร์ เมื่อมีการเปลี่ยนผู้นำ ยังต้องนำเสนอออกสื่อ
1
การสร้างคอนเทนต์ ก็เป็นส่วนหนึ่งในการชี้นำทางความคิด ที่ถึงแม้รัฐบาลรัสเซียจะภาคภูมิใจหนักหนาในแสนยานุภาพด้านการทหารของตนแค่ไหนก็ตาม แต่การทำสงครามใหญ่ ก็ยังต้องพึ่งพิงกระแสการสนับสนุนจากประชาชนเช่นกัน ถึงแม้ลึกๆ ชาวรัสเซียจะไม่ได้เห็นชอบสักเท่าไหร่ แต่ร้อยทั้งร้อย ไม่มีใครอยากเห็นประเทศตัวเองเป็นฝ่ายแพ้สงคราม
3
ดังนั้นรัฐบาลรัสเซีย จึงต้องคอยสร้างคอนเทนต์ด้านสงครามออกสื่ออย่างสม่ำเสนอ ให้ประชาชนได้ติดตาม และยังสร้างความมั่นใจว่า รัสเซียเรายัง สู้ได้ สู้อยู่ และ สู้ต่อ แต่จะสู้จบเมื่อไหร่ ก็ว่ากันอีกที
1
****************
ติดตามบทความของ "หรรสาระ" เพิ่มเติมได้ที่
Facebook - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
Twitter - @HunsaraByJeans
Blockdit - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
แพลทฟอร์มคุณภาพ ไม่ปิดกั้นการมองเห็นเนื้อหา
****************
แหล่งข้อมูล
โฆษณา