17 ข้อคิดที่เราได้จากการเรียนรู้และประสบการณ์ส่วนตัว
ข้อคิดจากประสบการณ์ส่วนตัว
1. ภาพวาดฝันที่ไม่เคยวาดฝัน - ถ้าเราวาดฝันอนาคตมันจะดีงาม ราบรื่น หรือถึงแม้จะมีอุปสรรคก็ไม่มากเกินจะท้อใจ - คุณคิดผิด! เธอตั้งเป้าหมาย จินตนาการถึงความสำเร็จได้นะ แต่ความจริงมันไม่ง่ายอย่างที่คิด อาจผิดคาดจากเดิมด้วยซ้ำ
มีปัญหาและอุปสรรคมากมายที่พร้อมจะกระโจนเข้ามาหาเธอ เส้นทางที่คิดว่าเรียบง่ายอาจมีโค้งบ้างสักเล็กน้อย เธอคิดแล้วก็ยิ้ม ความจริงมีโค้งเป็นพัน มีหนามเป็นร้อย มีเศษแก้วเป็นล้าน หรือเส้นทางเหมือนกับป่าทึบ มืดครึ้ม หรือภูเขาที่สลับซับซ้อนกันไปมาจนบางครั้งเธอมองแทบไม่เห็นปลายทางเลย และนั่นทำให้เธอท้อใจ สิ้นหวัง และถูกความโศกเศร้าเข้าโจมตี
2. ชีวิตในวัยเรียนกับโลกความจริงที่แสนโหดร้าย - จากคำบอกเล่าของผู้ผ่านพ้นวัยเรียนไปแล้วมักจะให้คำตอบคล้ายๆกันคือ ' การเรียนเป็นสิ่งที่ง่ายที่สุด ' พวกเธอที่อยู่ในวัยนี้จะคัดค้านคำนี้หรือไม่ ? เมื่อก่อนเราคัดค้านนะ เพราะการบ้านมันยากมาก ไหนจะรายงาน การรับมือกับเพื่อนและครู กิจกรรมอื่นใดร้อยแปด แต่เมื่อเราไม่ได้อยู่ ณ จุดนั้นแล้วอะ เราคิดเหมือนพวกเขา...
จริงอยู่ที่บางวิชามันยากแสนจะเข้าใจ เราเห็นด้วยนะ! ในหนึ่งวันพวกเธอคิดเรื่องเรียนโดยส่วนมากใช่ไหมล่ะคะ? เพราะเมื่อเธอก้าวขาออกจากรั้วโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยที่เป็นเซฟโซนกั้นอยู่ระหว่างโลกแห่งความฝันและโลกแห่งความเป็นจริง เธอจะรับรู้ได้เลยว่า...ความจริงมันโหดกว่าที่คิดว่ะ!
3. เงินพ่อแม่ไม่ใช่เงินของเราและเราต้องรับผิดชอบชีวิตตัวเอง 100% - ถ้าตอนนี้เธอยังมีคนซัปพอร์ตการเงินให้เธออยู่ โดยที่เธอไม่ต้องคิดวิธีหาเงินนั่นก็ดีแล้ว เธอยังสบาย พ่อแม่ซัปพอร์ตเท่าที่พวกท่านไหว ไม่ต้องน้อยเนื้อต่ำใจไปหรอกถ้าพวกเขาส่งได้เพียงเท่านี้เท่านั้น
หลังจากนั้นคือโลกแห่งความเป็นจริง ยิ่งถ้าไม่ได้คิดเรื่องการหาเงินไว้แล้วละก็ลำบากแน่นอน แล้วเมื่อวันนั้นมาถึงเธอจะตกอยู่ในสภาวะมึนงง เอาไงต่อกับชีวิตดีวะ ? และจะเครียดถึงเครียดมาก เป็นเรื่องปกติ แต่แทนที่จะเครียด หรือรู้งี้ทำแบบนี้ๆ ดีกว่า เอาเวลาไปศึกษาวิธีหาเงินเถอะนะ! และอีกอย่างความรู้เรื่องการเงินสำคัญมาก ถึงจะปวดหัวหน่อยแต่ได้ใช้จริงอย่างแน่นอน
4. สังคมเพื่อน - คบคนพาล พาลพาไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล ไม่จำเป็นต้องมีไลฟ์สไตล์เหมือนเพื่อนก็ได้ ไม่จำเป็นที่จะต้องทำตัวเองให้ลำบากเพื่อเข้ากลุ่มกับเพื่อนได้ ถ้าคบแล้วลำบากไม่ต้องมีก็ได้ ถ้ามันใช่ เราจะรู้สึกสบายเอง จำนวนเพื่อนไม่ได้สำคัญอะไรมากนัก ยอมรับความแตกต่างของกันและกันเถอะนะคะ
5. ความคาดหวังมักจะมาพร้อมกับความผิดหวังเสมอ - ถึงแม้เราจะเตรียมตัวมาดีแค่ไหน บางทีบางครั้งก็ไม่พ้นความผิดหวัง การล้มที่ทำให้ต้องเจ็บหนัก อาจทำให้สูญเสียกำลังใจในการก้าวเดินต่อ มันเจ็บจนอยากยอมแพ้ การยอมรับความจริงข้อนี้ได้ทำให้เราคาดหวังโดยที่ในขณะเดียวกันก็ยอมรับสิ่งที่เราไม่สามารถควบคุมได้เช่นกัน
6. การค้นหาตัวเองและการหลงทาง - การค้นหาตัวเองหรือการที่เรารู้จักตัวเองเป็นเรื่องที่ดี นอกจากจะทำให้ตอบคำถามได้ว่า เราเกิดมาทำไม? แล้วยังช่วยให้เราใช้ชีวิตอย่างมีจุดมุ่งหมาย การค้นหาตัวเองมันเป็นเรื่องยากสำหรับคนส่วนใหญ่ บางคนไม่อยากรู้ว่าตัวเองเป็นใครด้วยซ้ำ เพราะคิดว่าการทำตามคนอื่นนั้นง่ายกว่ามาก บางคนถูกกำหนดชีวิตไว้หมดแล้ว นั่นคือความปลอดภัยและเซฟโซนอย่างหนึ่ง แต่เขาไม่คิดสงสัยเลยหรือว่านั่นใช่เขาจริงๆ หรือเปล่า มันใช่ความคิดของเขาหรือถูกความคิดผู้ใดยัดเยียดให้
การหลงทางเป็นเรื่องปกติที่พวกเราจะต้องได้เจอกันสักครั้งในชีวิต แต่แยกให้ออกว่าการหลงทางกับการลังเลในความสามารถของตัวเองในเส้นทางที่เราเลือกนั้นมันคนละอย่างกัน ถ้าเธอแค่สงสัยในความสามารถหรือความรู้ของตัวเอง เธอต้องลงมือทำและเพิ่มพูนความรู้ความสามารถของเธอ เธอรู้เป้าหมายและตัวตนของเธอแล้ว อย่าลังเลนาน แต่ถ้าตอนนี้เธอหลงทางไม่รู้จุดหมาย หยุดสักนิด เพื่อคิดทบทวน เพราะบางทีเราก็แค่เดินออกนอกเส้นทางแค่นั้นเอง ทราบแล้วเปลี่ยน !
7. การเปรียบเทียบที่ไม่มีวันจบสิ้นและความสมบูรณ์แบบที่ไม่มีจริง - โซเชียลมีเดียคือโลกจำลองความสมบูรณ์แบบชนิดหนึ่ง ที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้เราเสพติดมันโดยเฉพาะ แน่นอนว่าโซเชียลมีเดียมีทั้งข้อดีข้อเสีย หากเราใช้ในการเสพเรื่องราวของคนอื่น เรื่องลบๆมากเกินไป นอกจากจะเสียเวลาแล้ว ยังทำให้เราเกิดการเปรียบเทียบชีวิตตัวเองกับผู้อื่น ยิ่งทำให้เราไม่พอใจในตัวเองมากขึ้น ไขว่คว้าหาความสมบูรณ์แบบที่ไม่มีอยู่จริง วงจรของความไม่รู้จักพอและความสุขที่ไม่จริง ดังนั้นควบคุมมันดีกว่าให้มันควบคุมเรา
8.ความกล้าหาญมีอยู่ในตัวของทุกคนแต่ถูกบดบังด้วยความกลัว - เลิกหนีปัญหา ยอมรับความจริงซะบ้าง เผชิญหน้ากับมันตรงๆ ถึงแม้จะยังคงมีความกลัว แต่ปัญหาแค่เพียงนิดจะขยายตัวเพิ่มขึ้นหลายเท่าถ้าเราปล่อยมันไว้เรื่อยๆ ความกลัวก็จะถูกหล่อเลี้ยงให้เจริญเติบโตมากขึ้นเช่นกัน นั่นทำให้ความมั่นใจในการจัดการกับปัญหาของเราน้อยลง เราจะยิ่งคิดไปเองว่าปัญหานั่นยิ่งใหญ่เหลือเกินจนเราไม่สามารถจะแก้มันได้ เธอก็จะยิ่งจมกับความคิดที่ว่าเธอไม่เก่งพอและโทษตัวเอง มิหนำซ้ำอาจโทษคนอื่นไปด้วย
9. พูดไพเราะกับพ่อแม่หน่อยก็ดี - พูดกันให้ช้าลง รับฟังให้มากขึ้น จ้องตากันให้นานกว่าเดิม และเปิดใจให้กว้าง บางทีพวกเขาก็ไม่ได้เลวร้ายเหมือนที่เราคิด บางปัญหาที่เราไม่สามารถแก้ได้ด้วยตัวเอง ฝึกการเป็นผู้รับโดยการขอความช่วยเหลือจากพ่อแม่หรือคนอื่นๆบ้าง หากนั่นจะทำให้เราออกมาจากวงจรของความวิตกกังวลได้เร็วขึ้น เราจะก้าวต่อไปได้อย่างรวดเร็วมากกว่าการนั่งคิดวิตกกับปัญหาอยู่คนเดียว
10. ทุกอย่างไม่มีจีรังยั่งยืนและการยึดติดทำให้เราเศร้าหมอง - การยึดติดกับบางสิ่งบางอย่างหรือยึดติดกับใครบางคน อาจทำให้เรายิ่งรู้สึกโดดเดี่ยว ยิ่งเศร้าใจ ถ้าเราไม่ได้ทำใจยอมรับถึงการจากลาเลย
11. เส้นทางสู่ความประสบความสำเร็จและความโดดเดี่ยว - การที่เราจะประสบความสำเร็จเราจำเป็นต้องทิ้งเพื่อน ทิ้งครอบครัว ละความสำคัญกับคนบางคนหรือบางสิ่งบางอย่างหรือไม่? และเราต้องโดดเดี่ยวไหม คำตอบอยู่ที่เธอแล้วละ จริงอยู่ที่เราต้องละทิ้งนิสัยไม่ดีที่ขัดขวางการพัฒนาตัวเองของเราทิ้งไป และบางครั้งเองเราก็ต้องแบ่งเวลามาโฟกัสเรื่องของเราให้เต็มที่จนละเลยความสัมพันธ์กับคนสำคัญไปบ้าง เรื่องนี้ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจและการจัดการเวลาของเธอ
12. ไม่จำเป็นต้องใจดีกับทุกคนแต่อย่าใจร้ายเกินไป - หากใครมาละเมิดสิทธิเรา เราก็ควรที่จะปกป้องสิทธิเรากลับบ้าง บางทีการที่เราใจดีเกินไป ไม่รู้จักปฏิเสธใครเลยอาจทำให้เราเกิดการเสียเปรียบ ยืดหยัดในสิ่งที่เราต้องการ ปฏิเสธในสิ่งที่เราไม่ต้องการที่จะทำ พูดความจริงกับตัวเองและคนอื่น พูดกันอย่างจริงใจและตรงไปตรงมา แต่ไม่ใช่พูดจาแบบแทงใจดำจนทำร้ายจิตใจผู้ฟังจนเกินไป ขีดเส้นแบ่งให้ชัดเจนเพื่อป้องกันคนที่จะล้ำเส้นเรา
13. ร้องไห้คือคนปกติ - การแสดงออกทางอารมณ์เป็นเรื่องปกติ หลายๆ คนมองว่าการร้องไห้เป็นเรื่องที่เด็กๆ เท่านั้นที่จะทำ หรือเป็นเรื่องแค่ผู้หญิงเท่านั้นที่มีสิทธิร้องไห้ได้ อันเนื่องมาจากการที่สังคมพร่ำบอกว่าผู้ชายต้องเข้มแข็งและการร้องไห้คือความอ่อนแอ น้ำตามีประโยชน์อย่างมาก ช่วยระบายสิ่งที่อยู่ในใจอาจจะไม่สามารถเรียบเรียงเป็นคำพูดได้แต่น้ำตาจะคลายสิ่งเหล่านั้นช่วยบรรเทาบาดแผลและรักษาจิตใจให้ดีขึ้นเอง จริงไหมล่ะคะที่คนเรามักจะได้รับบทเรียนที่ล้ำค่ามากที่สุดจากความทุกข์ ?
14. อย่าเพิ่งยอมแพ้ จงทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้สำเร็จก่อน - ถ้าเราตั้งมั่นและมีความมุ่งมั่นในการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่าหลงในอารมณ์มากนัก เราต้องควบคุมตัวเองให้ได้ ความขี้เกียจไม่ใช่การพักผ่อนมันจะยิ่งทำให้เราผลัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อยสุดท้ายเราก็จะเกิดความรู้สึกผิดหวังกับตัวเองซ้ำๆ ทำให้ไม่มั่นใจในตัวเองหรืออาจจะท้อจนยอมแพ้ไปในที่สุด เราต้องพิสูจน์ให้ตัวเองเห็นหรือบางทีปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันก็เป็นการพิสูจน์ให้คนในสังคมเห็นเหมือนกัน แต่ถึงอย่างนั้นก็อย่าได้ไปใส่ใจคนอื่นนักเลย
ในสังคมปัจจุบันมีอัตราเด็กจบใหม่ตกงานกันเยอะมากขึ้น ยิ่งเป็นการตอกย้ำไปอีกว่ามีคนเก่งกว่าเราเยอะแยะมากมาย เป็นสังคมที่ถ้าไม่พัฒนาตัวเองจนถึงขั้นเก่งกว่าคนอื่น เราจะตกงานและลดโอกาสอีกเยอะเลย เราอยู่ในเกมที่ต้องแข่งขันกันอยู่ตลอดเวลาแต่อย่ารู้สึกว่าต้องแข่งขันกับคนนับร้อยนับล้าน ศัตรูที่ยากจะเอาชนะคือตัวของเราเองต่างหาก ดังนั้นเราควรจะพัฒนาตัวเองให้เท่าทันโลกและยอมรับทุกการเปลี่ยนแปลง สุดท้ายทุกเกมการแข่งขันก็ต้องจบลง
แต่ถึงอย่างนั้นการจริงจังจนไม่มีการผ่อนคลายหรือพักผ่อนเลยจะทำให้เราเหนื่อยจนเกิดอาการหมดไฟได้ ไม่จำเป็นว่าต้องทำทุกอย่างให้เท่ากันเสมอไป หาจุดสมดุลของตัวเองให้เจอ พิสูจน์ให้ตัวเองเห็นว่าเราก็สามารถเป็นในสิ่งที่เราอยากเป็นได้
15. กล้าที่จะถอย กล้าที่จะยกธงขาว - ถึงแม้การยืนหยัดในสิ่งที่เราคิดและยืนหยัดในสิ่งที่เราทำเป็นเรื่องที่ดี แต่เมื่อทุกอย่างดำเนินมาถึงจุดที่ต้องตัดสินใจเลือกว่าจะทำต่อหรือล้มเลิกดี ถ้าเรารู้ว่าการทำสิ่งนี้หรือเส้นทางนี้อาจจะไม่เหมาะกับเรา เราสามารถเลือกเส้นทางใหม่ได้เสมอ ถ้าเส้นทางใหม่นั้นจะสามารถนำพาเราไปถึงจุดหมายปลายทางได้เร็วขึ้นและตรงกับเป้าหมายมากกว่า
16. อย่าลังเลมากนัก ฝึกตัดสินใจอย่างเด็ดขาดและยอมรับทุกผลของการกระทำที่จะเกิดขึ้น- บ่อยครั้งการที่เราถึงเป้าหมายช้าหรือกว่าจะลงมือทำอะไรบางอย่าง เรามักจะคิดนาน ลังเลที่จะทำ อาจกลัวความผิดพลาดหรือการตัดสินใจที่ผิด กลัวเสียเวลา แต่เมื่อเรามีเป้าหมายที่ชัดเจนแล้ว อย่าลังเลที่จะทำ ฝึกตัดสินใจรวดเร็วอย่างถี่ถ้วน และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นให้เรายอมรับมันเพื่อก้าวผ่านทุกปัญหา จะทำให้เรามีความมั่นใจมากกว่าเดิม เป้าหมายไม่ไกลเกินไปหรอก
17. เป็นตัวของตัวเอง คำพูดของคนอื่นไม่ได้สำคัญอะไรมากนักหรืออาจจะไม่ได้สำคัญเลย ดังนั้นอย่าไปสนใจสิ่งเล็กน้อยเหล่านั้น - กล้าที่จะทำตามความฝันของตัวเองแม้ไม่มีใครเห็นด้วย ยืดหยัดในความคิดและความต้องการของตัวเอง
แสดงความคิดเห็นของตนเองบ้าง ความคิดของเธอไม่ได้ไร้ค่าเสียทีเดียว และความเห็นต่างคือเรื่องปกติ ทุกคนต้องเจ็บปวดและอย่ากลัวคำวิจารณ์ไปเลย
นี่เป็นเพียงความคิดเห็นของเราเท่านั้น หากท่านอ่านท่านใดมีความคิดเห็นที่ต่างไปกว่านี้หรืออยากจะชี้แนะประเด็นใดเพิ่มเติม โปรดแสดงความคิดเห็นที่ด้านล่างโพสต์นี้ได้เลยค่ะ เรายินดีรับฟัง (;
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
