1 ต.ค. 2023 เวลา 16:07 • ความคิดเห็น
ผมว่าคนขโมยยังไงก็ควรโดนทำโทษหรือตักเตือนอยู่สักหน่อย
สมัยเด็กๆ มีชาวสวนแตงโมเจ้านึงมาเช่าปลูกแตงโมอยู่แถวๆ นาของผม เด็กๆ ตามบ้านนอกนั้นซนมาก พวกเพื่อนก็ยุ แต่จะว่าพวกเขาทั้งหมดก็ไม่ได้ และแล้วเช้าวันหยุดวันหนึ่งผมก็ลงมือ "ปฎิบัติการ" ตามแผนที่ผมคิดว่ามันคงเท่ห์มาก หากผมสามารถขโมยแตงโมในสวนของชาวสวนผู้โชคร้ายคนนั้นได้
ขณะที่เดินทางไปนาตามปรกติ ผมเหวียวซ้ายแลขวา เมื่อคิดว่าปลอดคนเท่านั้นก็วิ่งจู๊ดลงไปในสวนแตงนั้น หยิบแตงโมลูกดีๆ มาลูกหนึ่ง แล้วทุบปุ้งลงกับดินจนแตงโมแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แล้วก็หยิบชิ้นแตงโมขึ้นมากินอย่างผู้ชนะ
แต่ก็เป็นชัยชนะที่อยู่ได้ไม่นานเลย เพราะเพียงครู่เดียวเจ้าของสวนแตงก็ปั่นจักรยานมาที่ผม ไม่รู้ว่าอ่อนแรงหรืออย่างไร สุดท้ายก็ถูกเจ้าของสวนจับตัวไปแค้มป์ของเขาจนได้ ผมร้องไห้อย่างไม่ต้องสงสัย ร้องไห้โยเยเลยด้วย เจ้าของสวนบอกว่าจะบอกเรื่องนี้แก่พ่อและแม่ และบอกว่าจะแจ้งตำรวจมาจับ อธิบายให้ฟังว่าเขาต้องลงทุนมากมายแค่ไหนเพื่อให้ได้แตงโมมา และผมไปขโมยมัน ทุบมัน แถมเขาจับตาดูผมอยู่ เขารู้ว่าผมจะคอบเอาหนังสติ๊กยิงแตงโมของเขา
เมื่อได้ยินคำว่าตำรวจ ผมนี่แทบจะเข่าอ่อน ตอนนั้นเหมือนกับชีวิตจะจบสิ้นแล้วเลยทีเดียว แต่พอผมร้องไห้จนพอ เจ้าของสวนแตงก็มีเมตตา บอกว่าครั้งนี้แค่อบรมสั่งสอน แต่หากมีอีกเขาจะแจ้งตำรวจมาจับผมจริงๆ จากวันนั้นมาผมเข็ดหลาบมาก ความภาคภูมิใจที่คิดว่าจะได้นำวีรกรรมของตนไปเล่าให้เพื่อนๆ วัยเดียวกันฟังก็กลายเป็นความละอาย ผมไม่ถูกตีเลยซักไม้ แต่ใจผมถูกโบยอย่างสาหัดจากความอับอายนั้น
จริงๆ นะครับ ความอยุติธรรมเป็นสิ่งที่น่าอาย และใจเราก็สามารถรับรู้มันได้ เหมือนๆ กายของเรารับรู้ความร้อนและความหนาว แต่มนุษย์มักมีคำอธิบายที่ยุ่งยากเพื่อพูดถึงความดีความเลว จริงๆ แล้วมันไม่ได้ยุ่งยากขนาดนั้นเลยหากเราแค่ซื่อสัตย์ต่อใจของเราเอง
ครับแต่การบอกจากคนอื่นก้จำเป็น คุณหมอเป็นคนใจดี แต่ผมคิดว่าคนที่ขโมยก็ต้องถูกติเตียนบ้างล่ะ ไม่เช่นนั้น ครั้งหน้าเขาอาจจะไม่ขโมยแค่กระป๋องน้ำก็ได้นะครับ
โฆษณา