9 ต.ค. 2023 เวลา 02:30 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ชาวฟรีแลนซ์ก็มีบำนาญได้ ด้วยกองทุนการออมแห่งชาติ

ถ้าพูดถึงชีวิตหลังเกษียณ ที่มีเงินบำนาญใช้ทุก ๆ เดือน หลายคนน่าจะนึกถึงสวัสดิการของข้าราชการ
แต่รู้หรือไม่ว่า คนที่ทำอาชีพอิสระ หรือชาวฟรีแลนซ์
ก็สามารถมีเงินบำนาญใช้หลังเกษียณได้เช่นกัน แค่ออมเงินผ่านกองทุนการออมแห่งชาติ
แล้ว กองทุนการออมแห่งชาติ คืออะไร ?
และเราจะได้สิทธิประโยชน์อะไรบ้างจากการเป็นสมาชิก ?
MONEY LAB จะเล่าเรื่องการเงิน ที่โรงเรียนไม่เคยสอนให้เข้าใจ
กองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช. คือ กองทุนการออมภาคสมัครใจ ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง
โดยรัฐได้จัดให้มีขึ้น สำหรับแรงงานนอกระบบ หรือผู้ประกอบอาชีพอิสระ
ซึ่งวัตถุประสงค์ก็คือ เพื่อส่งเสริมการออม และเป็นหลักประกันให้กับผู้ประกอบอาชีพอิสระ ได้มีบำนาญใช้หลังอายุ 60 ปี
ในลักษณะคล้ายกันกับข้าราชการ ที่เป็นสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.)
หรือพนักงานบริษัท, พนักงานรัฐวิสาหกิจ, ลูกจ้างบริษัท ที่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 หรือเป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
โดยเงินบำนาญนี้ จะมาจากเงินออมสะสมที่สมาชิกส่ง รวมกับเงินที่รัฐจ่ายสมทบให้
แล้วใครบ้างที่สามารถสมัครสมาชิก กอช. ได้ ?
ทุกคนที่มีสัญชาติไทย และมีอายุตั้งแต่ 15-60 ปี สามารถสมัครเป็นสมาชิก กอช. ได้
ดังนั้น คนที่ทำงานอิสระ หรือเป็นฟรีแลนซ์, พ่อค้า แม่ค้า, เกษตรกร, คนทำงานรับจ้างทั่วไป, วินมอเตอร์ไซค์, คนขับแท็กซี่, ฟูดไรเดอร์ หรือแม้แต่นักเรียน นักศึกษาที่อายุถึงเกณฑ์ ก็สามารถสมัครสมาชิก กอช. ได้
สิ่งที่น่าสนใจของ กอช. ก็คือ เรามีสิทธิ์เลือกได้ว่า เราจะส่งเงินเข้า กอช. เพื่อเป็นเงินออมครั้งละเท่าไร
โดยมีขั้นต่ำคือ 50 บาทต่อครั้ง และสูงสุดไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี
การออมเงินกับ กอช. ยังมีความยืดหยุ่นมาก เพราะยอดที่ส่งในแต่ละครั้งไม่จำเป็นต้องเท่ากัน, จะส่งตอนไหนก็ได้ และไม่จำเป็นต้องส่งทุกเดือน
กอช. จึงเหมาะอย่างมาก กับคนที่ทำงานฟรีแลนซ์ หรือประกอบอาชีพค้าขาย ที่มักมีรายได้ประจำไม่แน่นอน
นอกจากนี้ การออมเงินกับ กอช. ยังได้รับสิทธิประโยชน์ จากเงินสมทบ ที่รัฐจะจ่ายเข้าบัญชีให้ ในเดือนถัดไปเพิ่มอีกด้วย ดังนี้
- อายุ 15-30 ปี รัฐสมทบให้ 50% ของเงินออม
- อายุ 30-50 ปี รัฐสมทบให้ 80% ของเงินออม
- อายุ 50-60 ปี รัฐสมทบให้ 100% ของเงินออม
แต่ทั้ง 3 เงื่อนไข รัฐจะสมทบให้ไม่เกิน 1,800 บาทต่อปี
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ
ถ้าเราเป็นนักศึกษาอายุ 20 ปี และส่งเงินเข้า กอช. จำนวน 3,600 บาท
ในปีนั้น เราจะได้เงินสมทบจากรัฐ จำนวน 1,800 บาท
คิดเป็นผลตอบแทน 50%
แต่ถ้าเราส่งเงินด้วยจำนวนสูงสุด เดือนละ 30,000 บาท
ในปีนั้น เราจะได้เงินสมทบจากรัฐ จำนวน 1,800 บาท
ซึ่งก็ถือว่าได้ผลตอบแทนมากถึง 6% อยู่ดี
แล้วถ้าเราส่งเงินจนถึงอายุ 60 ปีบริบูรณ์ เราจะได้อะไรบ้าง ?
คำตอบก็คือ เราจะได้เงินบำนาญ เดือนละอย่างน้อย 600 บาท
โดยเงินตั้งต้นสำหรับบำนาญ ก็จะมาจาก 3 ส่วนนี้
1. เงินที่เราส่งเข้ากองทุน ตลอดที่ผ่านมา
นั่นหมายความว่า ยิ่งเราส่งเงินเข้ากองทุนมากและยาวนานเท่าไร เราก็จะยิ่งได้รับเงินบำนาญมากขึ้นเท่านั้น
2. เงินสมทบจากรัฐ
3. ผลตอบแทนจากการลงทุน
โดย กอช. จะนำเงินออมของเรา ไปลงทุนใน กองทุนรวม, หุ้น หรือพันธบัตรรัฐบาล เพื่อทำให้เงินออมก้อนนี้สามารถเติบโตขึ้นได้
และรัฐยังการันตีผลตอบแทนจากการลงทุน จนถึงอายุ 60 ปีบริบูรณ์ ในอัตราไม่น้อยกว่าดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือน เฉลี่ย 7 ธนาคาร ด้วย
โดยเงินบำนาญอาจจะมากขึ้น หรือน้อยลง ขึ้นอยู่กับว่า
เราเข้าเกณฑ์ใด จาก 2 เกณฑ์นี้
- เกณฑ์ที่ 1 ถ้าเรามีเงินใน กอช. ไม่เกิน 144,000 บาท
เราจะได้เป็นเงินดำรงชีพ แบ่งจ่ายเดือนละ 600 บาท จนกว่าเงินใน กอช. ของเราจะหมด
เช่น ถ้าเรามีเงินใน กอช. 72,000 บาท
เราก็จะได้เงินดำรงชีพ เดือนละ 600 บาท เป็นเวลา 120 เดือน หรือตั้งแต่อายุ 60-70 ปี
- เกณฑ์ที่ 2 ถ้าเรามีเงินใน กอช. ตั้งแต่ 144,000 บาทขึ้นไป
เราจะได้เป็นเงินบำนาญต่อเดือน โดยคำนวณจากสูตร
“เงินใน กอช. หารด้วย 240”
และที่สำคัญ หากเข้าเกณฑ์ที่ 2 เราจะได้บำนาญ ด้วยจำนวนเงินต่อเดือนเท่านี้ ไปจนกว่าเราจะเสียชีวิตเลย
เช่น ถ้าเรามีเงินใน กอช. 192,000 บาท
เราก็จะได้บำนาญ เดือนละ 800 บาท ตั้งแต่อายุ 60 ปี ไปจนกว่าจะเสียชีวิต
นอกจากจะได้เงินบำนาญในวันข้างหน้าแล้ว เงินออม กอช. นี้ยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้ ในวันนี้ ได้เต็มจำนวน ตามที่กรมสรรพากรกำหนดอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม สิทธิประโยชน์ทั้งหมดนี้ ก็อยู่บนเงื่อนไขที่ว่า เราต้องออมเงินกับ กอช. จนถึงอายุ 60 ปี
เพราะถ้าเราถอนเงินออกมาก่อนถึงอายุ 60 ปี เราจะได้คืนกลับมาแค่เงินออมในส่วนของเราเท่านั้น
ส่วนที่เป็นเงินสมทบจากรัฐ เราจะไม่ได้
นับได้ว่า การออมเงินผ่าน กอช. ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจในการวางแผนเกษียณ สำหรับชาวฟรีแลนซ์
1
เพราะนอกจากจะมีเงินบำนาญหลังเกษียณแล้ว ยังมีสิทธิประโยชน์อีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น เงินสมทบจากรัฐ, การการันตีผลตอบแทนจากรัฐ, การลดหย่อนภาษี
 
รวมไปถึงความยืดหยุ่นในการออม ที่เป็นปัจจัยสำคัญของคนทำงานฟรีแลนซ์อีกด้วย..
References
- รายงานประจำปี 2565 กองทุนการออมแห่งชาติ
โฆษณา