รีวิวพาลูก3ขวบเที่ยวต่างประเทศครั้งแรก
เพิ่งกลับมาจากการไปเที่ยวสดๆร้อน เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์การพาลูกวัย3ขวบไปเที่ยวค่ะ
เราเลือกประเทศที่ไม่ไกลจากไทยมาก ไม่ต้องนั่งเครื่องบินนานเกินไป ก็สรุปได้เป็นประเทศสิงคโปร์ ค่ะ
ทริปนี้ชวนพี่และเพื่อนที่ทำงานไปด้วย พี่ที่ทำงาน พาหลานสาววัย 6ขวบไปด้วยกันค่ะ ก็เลยเลือกช่วงเวลาเป็นช่วงปิดเทอม เราปักหมุดไว้ช่วงปลายเดือนกันยายน เพราะช่วงกลางเดือนที่สิงคโปร์จัดการแข่งขัน F1 ซึ่งหลายปีก่อนเคยบอนไปเที่ยวในช่วงเวลานี้แล้วหลงทางค่ะ เจอปิดถนนเพื่อจัดการแข่งขันรถF1 มารู้ตัวอีกทีคือตอนขึ้น Singapore flyer แล้วเห็นว่า ถนนถูกทำเป็นแทรคแข่งรถก็เลยถึงบ้างอ้อเลยค่ะ
ทริปนี้จัดเพื่อเอาใจเด็กๆล้วนๆเลยจะไปเป็น museum และที่เล่นสำหรับเด็กๆเป็นส่วนใหญ่
แพลนที่วางไว้ คือ 4วัน3คืนไปเที่ยวจริงมีปรับเปลี่ยนแพลนบ้างตามเวลาและสถานการณ์นะคะ
วันแรก …
เราเดินทางกับสายการบินหางแดงค่ะ ลุ้นเกือบตกเครื่องอยู่นะคะ ไฟล์ทค่อนข้างเช้ามาก 06.10-09.35 boarding time 05.30 น.
เราตื่นตีสามครึ่ง ปลุกเด็กชายเช้ามาก เด็กชายงอแงเล็กน้อยขอนอนต่อ พออาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ตื่นเลยค่ะ ด้วยความที่เดินทางไปทั้งบ้าน เลยจองที่จอดรถไว้แถวสนามบินค่ะ (ราคาถูกกว่าจอดที่สนามบิน ) แต่ต้องเผื่อเวลาเอารถไปจอด และก็นั่งแท็กซี่มาที่สนามบินด้วยนะคะ เรานี่เลยลุุ้นมากเลยค่ะ เพราะถึงที่จอดรถตี4เกือบตี5 แล้ว กว่าจะมาถึงสนามบินก็ตี5.10-5.15 ลุ่นมากค่ะ เพราะต้องใช้เวลาพอสมควร ต้องไปผ่าน ตม มีเด็กต้องไปช่องทางที่ผ่านเจ้าหน้าที่ ใช้ช่องอัตโนมัติไม่ได้อีก
ผ่านตม.เสร็จต้องไปสแกนกระเป๋า เราเจอเปิดกระเป๋าใบที่มีพวกครีม เครื่องสำอางค์เช็คอีก เจ้าหน้าที่ก็ถามว่าขึ้นเครื่องกี่โมง กว่าจะผ่านมาได้เฉียดฉิวมาก เรียกว่าวิ่งไปเกทกันเลยค่ะ
ถึงหน้าเกทละ สบายใจว่าทันแล้ว ถ่ายรูปได้
พอไปถึง เกทเปิดช้ากว่ากำหนดประมาณ15นาที ก็เลยได้นั่งรอเล็กน้อย โล่งใจที่ไม่ตกเครื่องแล้ว😅😅
มีเวลานั่งถ่ายรูปได้เบาๆ พาเด็กชายแวะเข้าห้องน้ำไป1รอบ
ได้เวลาขึ้นเครื่องแล้ว
เป็นเวลาช่วงเช้าแม่ก็คาดหวังว่าเด็กชายจะหลับ แต่ป่าวเลยค่ะ คุณเค้าชวนคุยถามนู้นนี่นั่นเป็นเวลา 1.30 ชั่วโมง และมาหลับเอาตอน 30นาทีสุดท้ายก่อนเครื่องแลนดิ้งค่ะ
ขาไปได้นั่งข้างพี่คนไทย ก็ใจดี ให้หมอนรองหัวมาให้ลูกชายใช้ตอนหลับ แถมให้เด็กชายยื่นขาไปทางเบาะพี่เค้าด้วยค่ะ อันนี้แม่ต้องขอบคุณพี่คนไทยใจดีมากเลย ขอบคุณนะคะ
นั่งลงปุ๊บ คุณเค้าใส่beltเองได้เลย แม่ว้าวมาก
ก่อนเครื่องแลนดิ้งมีในตกหนักพายุเข้า กัปตันแจ้งว่าต้องขับเครื่องบินวนอยู่ก่อนจนกว่าทางสนามบินจะแจ้งมา ก็ได้วนอยู่เกือบ10นาที ก็ได้แลนดิ้ง จะบอกว่าฝนตก แต่กัปตันเก่งมากเลยนะขอชื่นชมค่ะ แลนดิ้งได้เบามากกกกก ล้อแตะพื้นรันเวย์แบบไม่รู้สึกเลยค่ะ รู้ตัวอีกทีคือตอนเบรคแล้ว อยากบอกว่าประทับใจการแลนด์ดิ้งของคุณกัปตันไฟล์ทนี้มากเลยค่ะ 🥰🥰
ตอนรับวันแรกด้วยฝนตกเลยจ้า
ถึงสนามบินชางกี
ก็ไปซื้อบัตร mrt แบบ tourlist pass สำหรับ 3วัน ราคา34 SGD ใช้ขึ้นรถไฟฟ้า รถเมย์ได้ไม่จำกัด มีตู้อัตโนมัติให้ซื้อบัตรได้ จ่ายผ่านบัตรได้ ถ้าไปซื้อใน office tickets รับเฉพาะเงินสด ในบัตรจะมีค่ามัดจำ10 เหรียญ จะได้เมื่อไปคืนบัตรที่office tickets ตกคนละประมาณ600กว่าบาท เฉลี่ย200 บาทต่อวัน
เด็กอายุน้อยกว่า6ขวบ ไปติดต่อที่tickets office เพื่อขอบัตรฟรี simplyGo Child Card ไม่ต้องคืน เจ้าหน้าที่แจ้งว่าให้เป็นของที่ระลึกเลย
หน้าตาบัตรเป็นแบบนี้
บัตร mrt ฟรี สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 6ขวบ
จากนั้นเราก็เดินทางไปโรงแรมที่จองล่วงหน้าไว้ จองไว้แถวสถานี Chinatown ไม่ไกลจากสถานีmrtมาก ค่อนข้างสะดวก ใกล้ร้านอาหาร ห้าง สถานที่ท่องเที่ยว
MRT Chinatown exit A
เราไปฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรม เนื่องจาก โรงแรมให้เช็คอินได้หลังบ่าย 2 ออกมาจากที่พักก็เดินไปหาข้าวเที่ยงกินกันก่อน กองทัพต้องเดินด้วยท้อง
เราก็เข้าร้านอาหารข้างๆโรงแรมเลยค่ะ สั่งเป็น ผัดผักบุ้ง ไข่เจียว ไก่ทอด ข้าวสวย6จาน โดนไป 66 SGD(ราคาแรงมากกก) แล้วระหว่างทริปเราก็ค้นพบว่าควรไปรับประทานอาหารตาม food court food park อาหารจะราคาไม่แพงมาก เฉลี่ยไม่ถึงคนละ10SGDอย่างที่เจอไปมื้อแรกแน่ๆ😭😭
ออ ที่สิงคโปร์เรียก food court ว่า kopitiam นะคะ มองหาป้าย kopitiam ได้กินอาหารหลากหลายแน่นอนค่ะ แล้วเวลาเก็บถาดอาหารต้องดูด้วยนะคะ เค้าจะแยกโซน halal - non halal ด้วยนะคะ เรานี่ตอนแรกไม่รู้ไปว่างที่ว่างๆ ซึ่งเป็น โซนhalal ก็เจอเจ้าหน้าที่ร้องบอกว่า ให้มาวางอีกฝั่ง ถึงได้สังเกตเห็น จากนั้นก็เลยรู้ว่าต้องดูด้วย
ตามที่เที่ยวจะมีตู้หยอดเหรียญกินน้ำส้มคั้นนะคะ ลูกเราชอบมากเลย ส้มไม่ค่อยหวานค่ะเปรี้ยวนิดๆ แต่เย็นชื่นใจดี ราคา2-3 SGD ราคาถูกแพงตามสถานที่นะคะ
น้ำส้มคั้นจากตู้
กินอิ่มเราก็ไปเที่ยวตามแพลนที่วางไว้ค่ะ
Let’s go
✨Art of Science Museum ✨
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 670/ เด็ก 490
เวลาเปิด-ปิด : 10:00 – 19:00 น.
วิธีเดินทาง : นั่ง MRT สาย Circle หรือ Downtown ก็ได้มาลงที่สถานี Bayfront แล้วใช้ทางออก D
พิกัด : https://goo.gl/maps/NQP2yNKNwvMdPTMW7
เราทำการจองตั๋วในklook ค่ะ จริงๆจองได้หลายแอฟนะคะ เช็คราคาก่อนก็ได้ บางอย่างหน้างานถูกกว่าในเน็ตนะคะ เราเลยใช้วิธีเช็คราคาหน้างานกับในเน็ต ราคาที่ไหนถูกกว่าก็จัดที่นั่นไปค่ะ ที่ไม่อยากจองล่วงหน้าก็เผื่อเปลี่ยนแพลนด้วยจะได้ไม่เสียเงินไปฟรีๆค่ะ
แต่วันแรกของเราก็จองผิดอันไปเรียบร้อยแล้ว ไม่รู้ว่าใน Art of Science Museum มีหลายโซน
เราทำการกดจอง sensory odyssey ไป มันอยู่อันแรก แต่จริงๆตอนแพลนทริปดูในรีวิวคิดว่าน่าจะเป็นอีกอันค่ะ ก็เป็นบทเรียนไปนะคะ เลยมาเล่าให้ฟังค่ะ ว่าดูดีๆก่อนนะคะ ไม่ต้องรีบจะได้ไม่พลาดเหมือนเรานะคะ😅😅
สำหรับ sensory odyssey ก็เป็นเกี่ยวกับธรรมชาติ สัตว์ แมลง ปลา เดินไปเรื่อยๆค่ะ จะมีจุดต่างๆให้หยุดดูธรรมชาติ ของสัตว์แต่ละชนิด ก็เพลินๆดีค่ะ เด็กๆก็จะชอบนะคะ เราผู้ใหญ่ก็ดูได้ค่ะ ออกมาโซนสุดท้ายก็จะมีให้เขียนข้อความรักษ์โรคไปแปะไว้ที่ฝาผนังค่ะ ค่าบัตรแพงพอสมควรนะคะ เด็กก็เสียค่าเข้าด้วยค่ะ
อีกอันน่าจะชื่อว่า Future world เป็นโซนที่ดูจากรีวิวแล้วตั้งใจจะไปที่นี่แต่ดันซื้อผิดอัน ซะงั้น!! ามรีวิวคือสวยเหมาะแก่การไปถ่ายรูปอาร์ทๆ
ไว้ได้ไปครั้งหน้าจะไปซ่อมตรงนี้ใหม่นะคะ😅😂
หลังจากที่ออกมาจาก Art of Science Museum
ตอนแรกแพลนจะเดินตรงสะพาน helix แล้ววนไปที่ merlion park แต่ว่ายังมีฝนตกปรอยๆ อยู่ ก็เลย ขึ้น mrt ไป น้ำพุแห่งความมั่งคั่ง ซันเทคซิตี้ แทน
✨น้ำพุแห่งความมั่งคั่ง ซันเทคซิตี้ (Fountain of Wealth Suntec City)✨
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาเปิด-ปิด : รอบเปิดน้ำพุ 10:00 – 12:00 น. / 14.00 – 16.00 น. / 18.00 น. – 19.30 น.
วิธีเดินทาง : นั่ง MRT ลงสถานี Esplanade แล้วใช้ทางออก A
พิกัด : https://goo.gl/maps/gws5kTwaNPCRTETb9/
เดินลงไปด้านล่าง ใช้มือขวาสัมผัสน้ำพุแล้วเดินวนตามเข็มนาฬิกา 3 รอบ (รอบสัมผัส 10:00-12:00/14:00-16:00/18:00-19:30)
ช่วงค่ำ (20:00/20:30/21:00) น้ำพุแห่งนี้จะมีโชว์แสงสีให้มานั่งพักดูกันเล่น เสร็จแล้วก็เดินเล่นต่อในห้าง Suntec City Mall
เราก็มาทันได้เข้าไปดู 18.00-19.30 ได้เดินไปข้างล่างใช้มือขวาสัมผัสน้ำพุแล้วเดินวนตามเข็มนาฬิกา 3 รอบ ตามรีวิว
แล้วก็เดินวนหาทางขึ้นยากมาก หลงอยู่นานจนหาทางขึ้นมาถ่ายมุมด้านบน ตอน2ทุ่ม ทันได้ถ่ายตอนเปิดน้ำพุสูงพอดี แต่ได้ยืนถ่ายไกลๆเพราะว่าฝนตก เลยได้เป็นฉากหลังแทน
จะบอกว่าทริปที่แล้วที่มาชนF1 มาดูน้ำพุก็แห้วค่ะ เพราะว่าเค้าปิดปรับปรุง😅 รอบนี้ก็ยังโชคดีได้ลงไป ข้างล่างแล้วก็ได้ถ่ายมุมไกลๆแทน เพราะว่า ฝนตก
ถึงตอนนี้ลูกชายเริ่มไม่จอยแล้วค่ะหน้าจะเหนื่อย เริ่มงอแง ไม่เดินจะให้อุ้มอย่างเดียว ก็เลยกลับเข้าที่พักค่ะ
ก่อนเข้าที่พักก็แวะห้างตรงฝั่งตรงข้าม รร ค่ะ ไปซื้อขนมกับน้ำขวด พอดีอ่านรีวิวเค้าแข้งว่าน้ำตามซุปเปอร์มาร์เก็ต จะขายไม่แพงเท่าน้ำตามร้านสะดวกซื้อ น้ำ500 -600 ml ตามร้านสะดวกซื้อขาย ที่2.5-3 SGD นะคะซึ่งแพงมาก เดินตามร้านข้างทางเจอ 1-1.5 SGD ก็ยังแพงอยู่ดี เราซื้อไปขวดนึง พอไปที่ซุปเปอร์ก็คือ ขวด1.5L ขาย 0.9-1 SDG ค่ะ ทำการหอบมา4ขวดเลยค่ะ
กลับถึงที่พัก อยากร้องไห้เลยค่ะ เค้าแจกน้ำขวด 600 mlไว้ให้ 6ขวดตามจำนวนคนค่ะ กับน้ำชาเขียวกระป๋อง 6กระป๋อง
ก็เป็นความรู้นะคะ แนะนำให้ซื้อน้ำในซุปเปอร์มาร์เก็ต มาเติบขวดเล็กๆพกพาไปกินได้ ตามสถานที่ท่องเที่ยวบางจุดมีที่ให้กินน้ำฟรี เอาขวดเติมได้นะคะ
เราจองที่พักแบบ family roomนะคะ ผู้ใหญ่4เด็ก 2 ค่ะ ที่พักเป็นเตียง2ชั้น แคบมาก แต่ก็พออยู่ได้ค่ะ ใช้ชีวิตบนเตียง เน้นเที่ยวไม่เน้นนอน😂😂😂
สมาชิกวุ่นวายทริปรายงานตัวค่ะ
ขอจบการรีวิววันแรกไว้เท่านี้นะคะ รอติดตามชมเดย์สองได้เลย มีอะไรพีคๆมาเล่าสู่กันฟังด้วยนะคะ
#SGtrip
#วุ่นวายทริป
#Berlyninsingapore
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
