7 ต.ค. 2023 เวลา 05:19 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

อัพเดทแผนพัฒนาโครงการ Starship ผ่านงาน IAC 2023

เมื่อช่วงค่ำวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา ทางาน International Astronautical Congress 2023 ได้ทำการถ่ายทอดสดผ่านบัญชีทวิตเตอร์ของงาน IAC 2023 ซึ่งเป็นการถ่ายทอดสดเวทีที่จัดขึ้นสำหรับ Elon Musk โดยเฉพาะ แม้เจ้าตัวไม่ได้เดินทางมางานด้วยตัวเองและใช้การคุยในรูปแบบการประชุมออนไลน์ แต่ในครั้งนี้ก็ได้มีอัพเดทแผนการมากมายที่ไม่ใช่แค่ส่วนโครงการ Starship เท่านั้น
รับชมการถ่ายทอดสดย้อนหลัง - https://twitter.com/iac2023/status/1709925296194126134?s=61&t=YVEmoNr-oKqxPHb9-bq1gw
สำหรับโครงการ Starship ได้มีแผนที่จะปรับเปลี่ยนโครงสร้างการทำงานของทั้งตัวบูสเตอร์ Super Heavy และยาน Starship อีกเล็กน้อย เนื่องจากในช่วงหลังเมื่อไม่กี่ปีมานี้ทีมพัฒนาเครื่องยนต์ Raptor ได้พยายามปลดล็อคขีดจำกัดใหม่ ๆ ให้กับเครื่องยนต์ทำให้มันมีความทนทานต่อแรงดันและสร้างแรงขับที่สูงขึ้น ในขณะเดียวกันก็ทำให้เครื่องยนต์มีจำนวนชิ้นส่วนน้อยลงซึ่งส่งผลให้เครื่องยนต์มีน้ำหนักที่เบาลงอีกพอสมควร
เท่ากับว่าการพัฒนาเครื่องยนต์ Raptor รุ่นใหม่ ๆ ส่งผลให้แรงขับของทั้งบูสเตอร์และตัวยานมีมากขึ้นแม้จะใช้จำนวนเครื่องยนต์เท่าเดิม ทำให้แรงขับของบูสเตอร์จะเพิ่มขึ้นราว 50% หรือจากเดิมที่มีแรงขับ 74.5 ล้านนิวตัน ในอนาคตมันจะเพิ่มขึ้นไปถึงราว 111.7 ล้านนิวตันกันเลยทีเดียว
แต่การมีแรงขับส่วนส่วนของบูสเตอร์ที่มากขึ้น ไม่ได้แปลว่าจะทำให้มันผลักตัวยาน Starship ให้ไปได้ไกลขึ้น เพราะทางทีมพัฒนาเองมีแผนที่จะเพิ่มขนาดความสูงให้กับตัวยาน Starship เพื่อเพิ่มปริมาณการบรรจุเชื้อเพลิงที่มากขึ้น ซึ่งเป็นการเพิ่ม Delta-V ให้กับตัวยาน (อ่านเกี่ยวกับ Delta-V เพิ่มเติม - https://spaceth.co/trajectory-design-and-optimization/)
และมีแผนที่จะทำให้ตัวบูสเตอร์ทำงานเพียงราว 100 วินาทีเท่านั้นก่อนจะแยกตัวจากตัวยานแบบ Hot Staging (ในขณะที่บูสเตอร์ Falcon 9 จะตัดการทำงานที่ราว 150 วินาทีหลังจรวดออกตัวจากฐาน) ซึ่งตรงนี้คาดว่าเพื่อให้ตัวบูสเตอร์ขึ้นบินไม่สูงและไม่ห่างจากฐานส่งมาก ทำให้ง่ายต่อการนำกลับมาลงจอดที่ฐานส่งและควบคุมง่ายกว่าการให้บูสเตอร์บินไกลแบบ Falcon 9 และยังช่วยลดความร้อนที่เกิดขึ้นจากการเสียดสีกับอากาศอีกด้วย
ตัว Elon Musk เองมีความคาดหวังและคิดว่าจะนำยาน Starship ไปลงจอดบนดาวอังคารในช่วง 3 ถึง 4 ปีข้างหน้า แน่นอนว่าจำเป็นต้องผ่านด่านการทดสอบและพัฒนาหลายอย่างก่อนจะไปถึงจุดนั้นอย่างการทดสอบเติมเชื้อเพลิงบนวงโคจรเพื่อให้จรวดมีเชื้อเพลิงที่เพียงพอในการบินบินไปและกลับไม่ว่าจะเป็นจากดวงจันทร์หรือดาวอังคารเองก็ตาม รวมไปถึงความสำคัญในการนำยานไปลงจอดบนดวงจันทร์ภายใต้โครงการ Human Landing System ที่จะไปครั้งแรกกับภารกิจ Artemis 3 ในช่วงปลายปี 2025
เนื่องจากแนวคิดที่จะทำให้ Starship ส่งของขึ้นอวกาศได้ราว 1,000 ครั้งต่อปี ทำให้ในแต่ละวันอาจมีภารกิจส่งยาน Starship ราว 3 ถึง 4 ครั้งต่อวัน การให้จรวดบินขึ้นลงซ้ำ ๆ ที่เดิมทั้งฐานส่งที่ Boca Chica หรือแม้แต่ฐานส่ง Launch Complex 39A ที่แหลมเคนาเวอรัลอาจเป็นการสร้างภาระที่มากไปให้กับพื้นที่ส่ง ทำให้แนวคิดของการทำฐานส่งกลางน้ำยังอยู่ระหว่างการศึกษาและพัฒนา
เพิ่มเติม - การอัพเดทในครั้งนี้ไม่ได้มีการบอกถึงแผนที่จะทำการทดสอบส่ง Starship ขึ้นวงโคจรในครั้งถัดไป ซึ่งต้องแก้ไขปัญหาที่ถูกพบหลังการทดสอบเมื่อวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมาและต้องรอใบอนุญาตการบินจากหน่วยงาน FAA ก่อน
ในช่วงหลังมานี้ การพัฒเดทแผน Starship อาจไม่ได้ถึงขึ้นมีอะไรให้ตื่นเต้นมาก เพราะตัวโครงการเองกำลังอยู่ในช่วงปรับแต่งเพิ่มเติมให้ใกล้เคียงกับแผนที่วางเอาไว้ ทำให้เรียกได้ว่าตัวโครงการเองก็เข้าใกล้ความสมบูรณ์มากขึ้น ทำให้ในครั้งนี้ Elon Musk ได้พูดถึงโครงการเพิ่มเติมที่ทางบริษัท SpaceX กำลังดำเนินการอยู่หรือไม่ก็เป็นเพียงแต่แนวคิด
ทางบริษัทเองกำลังมองหาความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ในการขยายจำนวนฐานส่งสำหรับ Starship ที่แหลมเคอนาเวอรัลในรัฐฟลอริดา นั่นเท่ากับว่าฐานส่งที่ Launch Complex 39A อาจไม่ใช่ฐานส่งแห่งเดียวสำหรับ Starship ที่แหลมในอนาคต
รวมไปถึงแนวคิดการบินแบบ Point-to-point สำหรับ Starship ที่จะทำให้ผู้โดยสารถึงที่หมายทุกที่บนโลกได้ภายในระยะเวลาเพียง 30 นาที ซึ่งเร็วกว่าเครื่องบินเชิงพาณิชย์ที่ใช้กันในปัจจุบันและเครื่องบินความเร็วเหนือเสียงเชิงพาณิชย์ (Supersonic aircraft) ที่หลายบริษัทและหน่วยงานกำลังร่วมพัฒนากันอยู่
ซึ่งแนวคิดตรงนี้อาจเป็นไปได้ยากหน่อยจากสิ่งที่เคยเกิดขึ้นกับเครื่องบิน Concorde ที่จำเป็นต้องตรวจสุขภาพผู้โดยสารก่อนขึ้นบิน ซึ่งสร้างข้อจำกัดให้กับผู้โดยสารและผู้ที่คิดจะใช้บริการที่มีร่างกายไม่เข็งแรง รวมทั้งความจะเป็นต้องได้รับการฝึกเพื่อคุ้นชินและทนต่อ G Tolerance ที่สูงกว่าการโดยสารไปกับเครื่องบิน Concorde
Elon Musk เองยังได้แสดงทัศนวิสัยในด้านของการทำกิจกรรมในอวกาศโดยมนุษย์ โดยเจ้าตัวเชื่อว่ามนุษย์เราสามารถจัดงาน IAC แบบนี้ได้บนอวกาศในระยะเวลาเพียงไม่ถึง 10 ปีนับจากนี้ ซึ่งตัว Musk ก็เชื่อว่าศักยภาพของบริษัทในตอนนี้สามารถทำได้ทันทีหากมีใครประสงค์ในการจัดงาน Conference แบบ IAC บนอวกาศแต่อาจส่งคนไปได้ในจำนวนที่น้อยและงบประมาณที่แพงแสนแพงราว 50 ล้านเหรียญ (ยาน Crew Dragon สามารถทำได้ในตอนนี้หากยังนึกภาพไม่ออก)
ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นไม่น้อยหากงานประชุมทางวิชาการเกี่ยวกับอวกาศจะสามารถเกิดขึ้นได้บนอวกาศจริง
โฆษณา