กลยุทธ์ ล่าเมียว ทำร้านหม่าล่าขึ้นห้าง เปิดข้าง ๆ คู่แข่งร้านดัง
ถ้าเราอยากเปิดร้านอาหารสักร้านหนึ่ง แล้วทำเลที่เราอยากไปเปิดมีคู่แข่งเจ้าใหญ่อยู่
หลายคนอาจจะอยากไปเลือกทำเลอื่น ๆ ที่มีศักยภาพมากกว่า เพราะไม่อยากถูกกลืน หรือถูกแย่งลูกค้าไป
แต่ก็มีอยู่ร้านหนึ่งที่กล้าเปิดชนข้าง ๆ ร้านใหญ่
และตอนนี้ก็ยังเติบโต เปิดสาขาเพิ่มได้เรื่อย ๆ
แล้วเจ้าของทำได้อย่างไร ทำไมถึงเลือกกลยุทธ์แบบนี้
BrandCase สรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ
อย่างแรกคือเรื่อง กลุ่มเป้าหมาย
ต้องบอกว่าล่าเมียวนั้น เป็นร้านหม่าล่าบาร์ หรือหม่าล่าสไตล์ชั่งน้ำหนักขาย โดยให้ลูกค้าสามารถเลือกวัตถุดิบ พร้อมเลือกประเภทน้ำซุปเอง และคิดราคาตามน้ำหนัก
ซึ่งในตอนแรก ล่าเมียวเปิดตามย่านคนจีนอย่างย่านรัชดาฯ เพื่อต้องการเจาะกลุ่มคนจีนในบริเวณนั้น โดยในตอนแรกเป็นการลงทุนเปิดร้านเล็ก ๆ ก่อนขยายสาขาขึ้นห้างสาขาแรก ที่ห้างเอสพละนาด รัชดาฯ
แต่ด้วยความที่คุณแอมป์ รัตตรุจน์ ทองประดิษฐ์ ผู้ก่อตั้ง อยากหากลุ่มฐานลูกค้าใหม่ ๆ โดยเฉพาะคนไทย ให้หันมาสนใจอาหารสไตล์นี้มากขึ้น
จึงมองสาขาใหม่ไปที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ที่มีคนไทยพลุกพล่าน
เพราะเชื่อว่าเป็นทำเลศักยภาพ และถ้ามันประสบความสำเร็จ ยอดขายก็จะดีตามไปด้วย
ซึ่งที่น่าสนใจคือที่ตั้งของร้านนั้นอยู่ข้าง ๆ กับร้านไหตี่เลา สุกี้หม้อไฟร้านดังจากจีนที่เปิดมาก่อนแล้ว
หลาย ๆ คนอาจจะมองว่า ล่าเมียวอาจจะโดนแย่งลูกค้าจากไหตี่เลา
แต่หากมาลองวิเคราะห์ดู ในช่วงแรก ๆ ที่ไหตี่เลาเปิดใหม่ ๆ นั้น จำนวนลูกค้าค่อนข้างเยอะ
ซึ่งในช่วงที่เปิดใหม่ ๆ ตอนนั้น บางคนก็ต้องใช้เวลารอกันหลายชั่วโมง
ดังนั้นก็มีหลายคนที่ทนรอคิวไม่ไหว แต่ยังอยากทานอาหารสไตล์คล้าย ๆ กันอยู่
ก็อาจจะมีคนเปิดใจไปลองล่าเมียวร้านข้าง ๆ ดูบ้าง
จนพอมาถึงตอนนี้ ล่าเมียวก็กลายเป็นร้านหม่าล่าอีกหนึ่งทางเลือก สำหรับคนที่ต้องการความสะดวกและรวดเร็ว ในงบที่สามารถควบคุมได้ และอิ่มท้องกำลังพอดี
เพราะพอไปถึงร้านก็สามารถไปเลือกวัตถุดิบ เลือกรายละเอียดต่าง ๆ แล้วนั่งรอที่โต๊ะได้เลย
ซึ่งว่ากันตรง ๆ ก็คือเหมาะกับชาวออฟฟิศในย่านนั้น ที่มีเวลาพักเที่ยงไม่นาน แต่อยากทานหม่าล่า ในราคาที่ไม่แรงมาก จำกัดงบประมาณได้ด้วยตัวเอง
โดยวันนี้สาขาที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ก็เป็นสาขาที่มีคนแวะเวียนมาตลอดทั้งวัน และมีช่วงที่ลูกค้าหนาแน่นในช่วงกลางวันและตอนเย็น
พอตีตลาดคนไทยสำเร็จ ล่าเมียวก็ต้องการที่จะขยายสาขาเพิ่มเรื่อย ๆ
แล้วทีนี้คุณแอมป์มีวิธีในการขยายสาขาอื่น ๆ อย่างไร
เพราะในปัจจุบัน ล่าเมียวไม่ได้มีแค่ทำเลใจกลางเมือง แต่ยังมีย่านชานเมืองอีกหลายสาขา
ต้องบอกว่าจริง ๆ แล้ว เรื่องนี้ไม่ใช่ความกล้า แต่เป็นการนำข้อมูลที่เก็บสะสมไว้ และนำมาวิเคราะห์อย่างดี
โดยตั้งแต่เปิดร้านแรกจนมาถึงปัจจุบัน
คุณแอมป์นั้นมีการบันทึกข้อมูลของลูกค้าไว้หมด เช่น การทำไลน์ Official ส่งข้อความพูดคุยกับลูกค้า หรือการบันทึกข้อมูลโลเคชัน รหัสไปรษณีย์ของลูกค้าในแต่ละการสั่งออนไลน์
ซึ่งเรื่องนี้ก็ทำให้คุณแอมป์เข้าใจความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น
และเริ่มเห็นว่า ลูกค้าที่สั่งออนไลน์กันเข้ามา นั้นอาศัยอยู่บริเวณไหน
พอนำข้อมูลตรงนี้มาใช้ จะเห็นได้ว่าล่าเมียวเริ่มกล้าเปิดสาขาที่ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากขึ้น
และกล้าไปเปิดย่านชานเมือง โดยเลือกทำเลที่ลูกค้าส่วนใหญ่ไม่เสียค่าส่งแพงจนเกินไป
ไม่ว่าจะเป็นสาขาเดอะมอลล์ท่าพระ
สาขาฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต
และสาขาอื่น ๆ
ซึ่งในปัจจุบัน ล่าเมียว มีสาขาทั้งหมด 8 สาขา แล้ว
โดยแต่ละสาขาจะอยู่บนห้างทั้งหมด นั่นก็คือ
- เซ็นทรัลเวิลด์
- เซ็นทรัล พระราม 9
- เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ ท่าพระ
- สยามเซ็นเตอร์
- เซ็นทรัล พลาซ่า เวสเกต
- ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต
- เซ็นทรัล ลาดพร้าว
- เทอร์มินอล 21 พัทยา
- 6
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
