9 ต.ค. 2023 เวลา 09:16 • นิยาย เรื่องสั้น

บทที่ 2 พระเจ้าให้ชีวิตข้า แล้วไยไม่ให้เงินข้ามาด้วย?

หลังจากทำงานแบบไม่ตั้งใจเท่าไหร่ไปหกชั่วโมงเต็ม ในที่สุดก็ถึงเวลาเลิกงานแล้ว
อลันพาร่างกายอวบอัดที่ล้าเล็กน้อยออกมาจากร้านสะดวกซื้อ หากเป็นตัวอลันคนก่อน เขาต้องเดินทางไปถนนรีเวอร์เพื่อจิบเบียร์เย็น ๆ ร่วมกับขี้เมาแถว ๆ นั้น รอจนดึกดื่นไม่ก็เกือบเช้าค่อยโซซัดโซเซกลับห้อง แต่ในเมื่อเขาไม่ใช่คนเดิมแล้วเขาก็ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้นอีกต่อไป
เขาเดินไปนั่งรถประจำทางที่รูปทรงโฉบเฉี่ยวล้ำยุคกว่าโลกเดิมมาก เพื่อไปซุปเปอร์มาเก็ตใกล้ ๆ หอพัก วันนี้เขาวางแผนจะทำอาหารกินเอง เพราะว่าจากการทำงานวันนี้ อลันรำคาญร่างกายที่อวบอัดนี้อย่างมาก แค่ขยับไปมาก็เหนื่อย ก้ม ๆ เงย ๆ ก็อึดอัด จะหันตัวเร็ว ๆ ก็ปวดโน่นนี่ไม่หยุด นี่มันไม่ควรเป็นร่างกายของคนอายุยี่สิบสามปีแม้แต่น้อย
“วันนี้ต้องทำอาหารดี ๆ กินหน่อย เอาแบบครบห้าหมู่ แล้วก็ช่วงนี้ไม่มีงานกะเช้าไปอีกสองอาทิตย์ เพราะสมิทกับเจนนิสต้องไปติวหนังสือช่วงบ่าย เพื่อไปสอบงานเจ้าหน้าที่สำนักงานเมืองเดือนหน้าเลยขอทำกะเช้ายาว ๆ ดังนั้นเราต้องเริ่มออกกำลังกาย” เขาบ่นพึมพำกับตัวเอง เพื่อวางแผนเปลี่ยนแปลงร่างกายอันอุ้ยอ้ายนี้
ราวหนึ่งทุ่มเขาก็กลับถึงห้องพักแล้ว กว่าจะทำอาหารเสร็จก็คงเกือบ ๆ สองทุ่ม นั่นเป็นเวลาที่ไม่ดีเท่าไหร่กับการทานอาหารเย็น ดังนั้น พรุ่งนี้เขาจะทำอาหารเผื่อไว้ พอเลิกงานจะได้กลับมากินข้าวเย็นได้ทันที
เขานำเนื้อปลาที่ซื้อมาจี่กับกระทะเทฟลอนเพื่อทำปลาย่างหอม ๆ โดยไม่ใส่น้ำมันหรือเนย จากนั้นก็นำผักสองสามชนิดลงไปย่างด้วย เช่นหน่อไม้ฝรั่ง กระเทียม เป็นต้น ส่วนคาร์โบไฮเดรตเขาเลือกข้าวกล้องผสมข้าวแดงที่หุงสำเร็จแล้วมา แม้ว่าอาหารที่นี่จะมีหลากหลาย แต่ข้าวก็แทบจะเหมือนโลกเดิมเลยทีเดียว
หลังจากง่วนอยู่หน้าเตาสักพัก มีอึดอัดบ้างเล็กน้อยเพราะขนาดห้องครัวไม่สัมพันธ์กันกับขนาดร่างกาย  แต่สุดท้ายอาหารเย็นมื้อแรกก็เสร็จสมบูรณ์
“รสจืดไปหน่อยแฮะ พรุ่งนี้ตอนเลิกงานซื้อซอสปรุงรสดี ๆ เก็บไว้บ้างดีกว่า” เขากินไปบ่นไป เนื่องจากที่ห้องไม่มีเครื่องปรุงรสเลย ตอนไปซื้อเขาก็ลืม ต่อให้อาหารจะคลีนขนาดไหน แต่ถ้ามันไม่อร่อยสักพักเดี๋ยวก็เบื่อ ดังนั้นสำหรับอลันแล้ว ลดเรื่องความคลีนลงบ้าง แต่สามารถทานได้เรื่อย ๆ ก็นับเป็นทางเลือกที่น่าสนใจกว่า
หลังจากเก็บล้างทำความสะอาด ต่อไปก็ต้องหาข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อวางแผนการขั้นต่อไป เขาไม่พอใจชีวิตห่วย ๆ แบบนี้แน่นอน
หลังจากเปิดคอมฯ หาข้อมูลสักพัก อลันก็เข้าใจโลกเอเลนอร์ใบนี้มากขึ้น เนื่องจากสงครามระหว่างเผ่าพันธุ์มนุษย์และเผ่ามารยังดำเนินอยู่มาจนถึงตอนนี้ทำให้มนุษย์ทุกคนที่บรรลุระดับหนึ่ง ต้องลงทะเบียนไปทำอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้หรือค้นหาทรัพยากร และสำหรับนักธุรกิจหรือคนทั่วไปที่วิวัฒนาการแต่ไม่สังกัดสมาคม หากไม่อยากไปสงครามก็ต้องจ่ายเงินไปจำนวนไม่น้อยเพื่อสนับสนุนการสงคราม
เท่าที่อลันอ่าน เงื่อนไขนี้นับว่าน่าสนใจมาก แค่จ่ายเงินก้อนโตก็สามารถใช้ชีวิตสบาย ๆ ไม่ต้องเดินทางไปแนวหน้า ...แต่เขาก็ยังไม่ได้ตัดโอกาสอื่น ๆ เช่นกัน เพราะหากทำธุรกิจโดยที่ไม่มีสมาคมใด ๆ รับรอง ภาษีที่ต้องเสียมันสูงจนอลันแทบจะเป็นลมเลยที่เดียว
อีกทั้งยังมีอีกหลายอาชีพในสังกัดสมาคมที่ไม่ต้องไปทำสงครามแม้จะวิวัฒนาการแล้ว แต่ก็เลี่ยงไม่ได้ที่ต้องออกพื้นที่อื่น ๆ เพื่อสะสมทรัพยากรด้วยการไล่สังหารพวกสัตว์กลายพันธุ์และสัตว์อสูรแทน
สัตว์กลายพันธุ์และสัตวอสูรไม่ใช่ผู้รุกรานแบบเผ่ามารที่มากับความผันผวนของมิติ พวกมันอาศัยอยู่ที่เอเลนอร์ร่วมกับมนุษย์มาช้านานแล้ว สัตว์กลายพันธุ์และสัตว์อสูรเหล่านี้จึงเป็นทรัพยากรที่มีค่าของเหล่ามนุษย์
ส่วนเมืองที่เขาอยู่คือเมืองโร้คแลนด์ เป็นเมืองไกลปืนเที่ยงอย่างแท้จริง เนื่องจากมันอยู่แทบจะด้านตรงข้ามกับพื้นที่โซนภาคเหนือที่กำลังเปิดศึกเต็มอัตรากับเผ่ามาร อีกทั้งด้วยสภาพแวดล้อมที่เป็นเมืองใหญ่ มีการป้องกันระดับสูง ทำให้มนุษย์ไม่จำเป็นต้องออกไปต่อสู้ ผู้ที่บรรลุระดับหนึ่งจึงมีน้อยกว่าค่าเฉลี่ยของเมืองอื่นอย่างเห็นได้ชัด
ไม่ใช่ทุกคนที่ต้องการแสวงหาความมั่งคั่งและสถานะทางสังคมจากการต่อสู้หรือสงคราม ประชาชนจำนวนมากเลือกที่จะไม่ฝึกฝนตัวเอง เพื่อจะได้ไม่วิวัฒนาการโดยไม่รู้ตัว และไม่ทางที่จะไปเสียเงินกระตุ้นการวิวัฒนาการแบบพิเศษด้วย เนื่องจากพื้นที่นี้อยู่ในแนวหลังสุด ๆ
ภัยคุกคามที่อันตรายที่สุดก็มีแค่สัตว์กลายพันธุ์และสัตว์อสูรระดับต่ำที่กระจายตัวอยู่รอบ ๆ เมืองเท่านั้น และเนื่องจากพื้นที่นี้เป็นพื้นที่ที่ทำอุตสาหกรรมเกษตรและปศุสัตว์ขนาดใหญ่ ระดับความปลอดภัยค่อนข้างสูง ประชาชนธรรมดาสามารถมีชีวิตอย่างปกติสุขได้ ส่วนใหญ่เลยเลือกไปสายการศึกษาเพื่อทำอาชีพเกี่ยวกับพนักงานของรัฐ ไม่ก็ทำธุรกิจกันเสียมากกว่า
คนที่เอเลนอร์นั้น ส่วนใหญ่หากฝึกฝนเป็นประจำตั้งแต่เด็ก ๆ เมื่ออายุราว ๆ 12-18 ปี ก็จะเกิดการวิวัฒนาการ แบบนี้จะเรียกว่าเป็นการวิวัฒนาการด้วยตัวเองหรือการวิวัฒนาการตามธรรมชาติ
การวิวัฒนาการด้วยวิธีนี้มักจะได้ความสามารถดี ๆ แต่จะดีแค่ไหนก็แล้วแต่ดวงเช่นกัน หากได้พลังพิเศษที่เกี่ยวกับต่อสู้ หรือไม่ก็ความสามารถหากยาก นั่นก็แล้วไป เพราะหลังลงทะเบียนจะถูกส่งไปเรียนเป็นนักเรียนเตรียมทหาร ใช้เวลาอีกสามถึงห้าปีก็ออกมารบในตำแหน่งหัวหน้าหน่วยย่อย
แต่หากได้พลังไม่ดีหรือพลังพิเศษที่อยู่ในระดับทั่วไป ร้อยทั้งร้อยก็ถูกจับเข้ากรม ฝึกหนักสองปี เสร็จแล้วก็ไปแนวหน้า อัตราการตายของทหารใหม่ในการลงสมรภูมิครั้งแรกนั้นสูงมาก และสมรภูมิหลังจากนั้นก็ยังอยู่ในระดับสูงอยู่ดี เรียกว่าหากประจำการครบสองปีแล้วเหลือสักครึ่งหนึ่งในรุ่นก็นับประสบความสำเร็จอย่างมากแล้ว ...เพราะตามสถิติ ส่วนใหญ่ราว ๆ สองในสามจะตายภายในสองปีที่ประจำการนั่นแหละ
ส่วนคนอย่างอลันคนก่อนก็มีบ้าง ไม่ฝึกฝนการต่อสู้ ไม่ยอมบรรลุระดับหนึ่งผ่านการกระตุ้น แล้วก็ไม่ยอมที่จะเรียนต่อด้วย ...ทำได้เพียงทำงานหาเงินขั้นต่ำไปเรื่อย ๆ ไร้การพัฒนา ช่างน่าอนาถใจแท้ ๆ
เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง เมื่อรวบรวมข้อมูลเสร็จอลันก็เริ่มวางแผนคร่าว ๆ ให้กับตัวเอง โดยขั้นแรก เขาต้องพัฒนาร่างกายที่อวบอัดนี้ให้ได้มาตรฐานเสียก่อน
เพื่อจะลดน้ำหนักส่วนเกินราว 6-7 กิโลออก เขาวางแผนออกกำลังกายคร่าว ๆ ไว้ราว 2 เดือน ซึ่งเป็นการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอล้วน ๆ ไว้หลังจากน้ำหนักลดลงประมาณหนึ่งค่อยวางแผนเพิ่มพูนกล้ามเนื้อต่อไป
อันที่จริงเขาจะไม่สนใจเรื่องพวกนี้ก็ได้ เพราะหากใช้การกระตุ้นเพื่อยกระดับไปเป็นระดับหนึ่งแล้ว กำลังกายกับการเผาผลาญจะดีขึ้นมาก ใช้เวลาไม่กี่เดือนเขาก็จะมีรูปร่างที่ดีโดยไม่ต้องทำอะไร
เพียงแต่การเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนมักจะทำให้ได้รับทักษะดี ๆ เขาไม่อยากได้ทักษะที่ไม่ค่อยมีโยชน์ เช่น พวกทักษะเร่งการย่อยอาหาร หรือไม่ก็ทักษะเร่งการเผาผลาญแอลกอฮอล์...
เขายังมองหาโรงฝึกศิลปะการต่อสู้และสนามยิงปืนเอาไว้ก่อน หลังจากลดน้ำหนักเขาจะได้ฝึกฝนต่อได้เลย อันที่จริงเขาสนใจทักษะการต่อสู้ระยะประชิดแบบต่าง ๆ เป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าจากข้อมูลที่หามาทักษะที่ระดับหนึ่งได้รับมาจะรุนแรงสู้กระสุนปืนไม่ได้ก็ตาม แต่ในอนาคตการต่อสู้ระยะประชิดหรือการใช้พลังงานพิเศษร่วมกับทักษะต่าง ๆ จะมีความรุนแรงอย่างมากจนกระทั่งปืนใหญ่บางชนิดอาจจะรุนแรงไม่เท่าก็ได้
หลังจากแผนงานคร่าว ๆ ในเรื่องร่างกายและการฝึกฝน ต่อไปเขาก็ต้องวางแผนการหาเงินต่อ
ไม่ว่าโลกไหน ...สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเงิน
ในบัญชีของอลัน หมอนี่มีเงินเก็บอยู่ราว ๆ หมื่นกว่าเครดิตเท่านั้น รายได้จากการทำงานร้านสะดวกซื้อก็ได้เพียง 12,000 – 15,000 เครดิตต่อเดือน
อีกทั้งเขายังมีภาระที่ต้องผ่อนคอมพิวเตอร์เดือนละ 4,000 เครดิตไปอีก 6 เดือน เท่ากับว่าเขามีเงินใช้เพียง 8,000 – 11,000 เครดิตต่อเดือน
…ไม่สิ หลังหักภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เขาจะเหลือเงินใช้ราว 7,400 – 10,250 เครดิต เท่านั้น โดยยังมีรายจ่ายเป็นค่าอาหารตกเดือนละ 5,000 เครดิต ค่าห้องรูหนูนี่อีกเดือนละ 1,500 เครดิต นี่ยังไม่รวมรายจ่ายจิปาถะอื่น ๆ อีก... อลันเอ๊ย ก่อนหน้านี้เอ็งไปหาเงินกินเบียร์มาจากไหนเยอะแยะฟะ...
หลังจากคำนวณเงินจนหัวหมุน ทำให้เขารู้ว่าต่อให้ประหยัดแค่ไหน เต็มที่เขาก็เก็บเงินได้ราว 1,000-2,000 เครดิตต่อเดือนเท่านั้น หลังจากผ่อนคอมฯ หมดก็เก็บได้ไม่กิน 6,000 เครดิต
ส่วนค่าการกระตุ้นเพื่อวิวัฒนาการยกระดับเป็นขั้นหนึ่ง นั้น สนนราคาก็แค่...
“เอ่อ... หน่วย... สิบ... ร้อย ... ... แสน ...สองแสน! ไอ้ชิบหาย! แพงไปไหนวะ!” อลันคนใหม่สบถภาษาโลกเก่าออกมาอย่างอดไม่ได้
เก็บเงินได้ปีนึงไม่กี่หมื่น ต้องใช้เวลาอีกเกือบห้าปีกว่าจะเลื่อนระดับได้ แล้วนี่ยังไม่รวมค่าเรียนทักษะอื่น ๆ เลยนะ... เท่าที่เขาเห็นผ่าน ๆ ลงคอร์สเรียนการต่อสู้ระยะสั้น ๆ ไม่กี่เดือนก็ราคาหลายหมื่นเครดิตแล้ว
“ต้องหาทางรวยก่อน! นี่ถ้าโลกนี้ไม่มีเทคโนโลยีอลังการขนาดนี้ ก็คงหาเงินได้ง่าย ๆ จากความรู้ของโลกเดิม แต่ที่นี่มันดันไฮเทคฯกว่าที่โลกอีก! เฮ้อ... ตูจะบ้า!” อลันหมดคำจะพูด จากนิยายที่เขาเคยอ่านตอนไม่มีอะไรทำ หากตัวเอกได้ย้อนกลับไปโลกที่พัฒนาน้อยกว่า ตัวเอกจะเอาความรู้และประสบการณ์จากโลกเดิมของตนเองไปใช้หาเงินอย่างชิล ๆ ...แต่ที่นี่อลันไม่รู้จะทำอย่างไรจริง ๆ
เขายังนึกเสียดาย ถ้าอลันเจ้าของร่างจบสูงกว่านี้อีกนิด เขาคงไปสอบสำนักงานเมืองกับ เจนนิสและสมิธด้วย แต่ด้วยวุฒิการศึกษาของหมอนี่ แค่ทำงานโรงงานยังทำไม่ได้เลย …ที่นี่พนักงานในโรงงานล้วนแต่มีตำแหน่งและเงินเดือนสูง ๆ ทั้งนั้น เพราะมันมีเทคโนโลยีล้ำยุค คนที่จะเข้าไปทำงานต้องจบสายงานนายช่างมาโดยตรง ไม่ก็สูงกว่านั้นเลย เช่นพวกวิศวกรสาขาต่าง ๆ
...แต่หมอนี้จบแค่การศึกษาภาคบังคับ หรือประมาณ มัธยมศึกษาปีที่ 3 เท่านั้น
“…พระเจ้าให้ชีวิตใหม่ข้า ...แล้วไยไม่ให้เงินข้ามาด้วย” อลันรำพันติดตลกเชิงตัดพ้อโชคชะตา
“ช่างมัน! วิธีหาเงินมีเยอะแยะ ค่อย ๆ หาทางไปก็แล้วกัน” ท้อไปก็ไม่ได้อะไร หาทางเข้าแล้วกัน เขาไม่ได้ชีวิต 35 ปีจากโลกเดิมมาแบบขำ ๆ สักหน่อย แม้จะหาวิธีรวยทางลัดแบบในนิยายไม่ได้ แต่เขาก็มีความสามารถในการทำธุรกิจที่โลกเดิมมาบ้าง มันต้องประยุกต์ใช้ได้สักอย่างแหละน่า
บทสรุปในคืนแรกหลังจากข้ามโลกมา สุดท้ายอลันผู้อวบอัด ก็ใช้เวลาไปกับการวางแผนไม่ได้หยุด หลังจากเขียนแผนธุรกิจแบบคร่าว ๆ ได้สองสามแผน อลันก็ตัดใจหลับตาลงเพื่อพักผ่อนเสียที
_____
เวลาตีห้า อลันลุกขึ้นมาแบบงัวเงีย แม้จะยังไม่ตื่นเต็มตา แต่เขาก็มุ่งมั่นกับแผนพัฒนาร่างกายตัวเอง
หลังจากทานอาหารง่าย ๆ อย่างขนมปังโฮลวีตและนมสดไขมันต่ำที่ซื้อมาเมื่อวาน เขาก็ออกไปวิ่งที่สวนสาธารณะใกล้ ๆ ที่พัก
นี่อาจเป็นการวิ่งครั้งแรกในรอบหลาย ๆ ปีของร่างกายนี้ก็เป็นได้ หลังจากวิ่งไปได้สองกิโลฯ เขาก็หายใจหอบเหมือนจะขาดใจตายให้ได้
“โอย... เดินสลับวิ่งไปก่อนแล้วกัน” เขาลดความคาดหวังลงมาตามสภาพที่เกิดขึ้นจริงไปก่อน
หลังจากใช้เวลาราวหนึ่งชั่วโมงเพื่อวิ่งสลับเดินไปแค่สี่กิโลฯ กว่า ๆ สุดท้ายอลันก็ลากสังขารกลับหอพัก หลังจากนั้นก็ดันพื้นกับซิตอัพอีกไม่กี่สิบที เขาก็หมดแรงแบบยกมือแทบไม่ขึ้น
หลังจากอาบน้ำและนอนพักผ่อนครู่หนึ่ง เขาก็ฝืนเดินออกไปสำรวจตลาดด้วยอาการขาลากนิดหน่อย เขายังมีแผนการต้องทำอีกมาก จะมาสิ้นสภาพเพราะวิ่งไปวูบเดียวไม่ได้
มันเป็นการเดินที่ค่อนข้างทรมานมาก เนื่องจากขาของเขาล้าจากการวิ่ง แต่ความมุ่งมั่นในความร่ำรวยทำให้หนุ่มอลันมุ่งหน้าสำรวจตลาดไม่หยุดและหวังว่าจะได้ไอเดียมาทำงานหาเงินเพิ่ม
สิบเอ็ดโมงเขาก็กลับมาที่ห้องอีกครั้ง เพื่อที่จะอาบน้ำ ทำอาหารเที่ยงและอาหารเย็นเผื่อไว้ โดยมื้อเที่ยงเขาทำผัดผักใส่ปลาแล้วก็ไข่ต้ม กินกับข้าวสวย ส่วนอาหารเย็นเขาเตรียมเครื่องต่าง ๆ ไว้ทำข้าวต้มปลาแบบง่าย ๆ จากนั้นเขาก็เดินทางไปทำงาน
วันนี้เขาก็ให้แอนนาไปทำหน้าที่แคชเชียร์เหมือนเช่นเดิม ส่วนเขาก็ใช้ร่างที่เหนื่อยล้าทำงานจัดสินค้าไปเรื่อย ๆ พลางคิดหาวิธีทำเงิน พอเจอขวดหรือถุงสินค้าที่มีน้ำหนักหน่อยเขาก็ยกโดยฝึกกล้ามเนื้อไปในตัว
เรื่องเงินนับเป็นปัญหาใหญ่มาก ในเมื่อไม่มีเงินทุนไปลง ดังนั้นธุรกิจแรกที่ทำต้องเป็นธุรกิจที่ง่าย ไม่ซับซ้อน และด้วยเวลาที่จำกัด ...สุดท้ายก็ไม่พ้นการขายของกิน
เนื่องจากอาหารเป็นการขายที่ง่ายและทำเงินได้เร็วเป็นอันดับต้น ๆ ในโลกก่อนเขาก็เริ่มจากการเปิดร้านอาหารเช่นกัน แม้ตอนนั้นเขาจะมีเงินลงทุนราวสี่แสนบาท แต่ตอนนี้เขามีเพียงหมื่นเครดิตก็ตาม
เมื่อเงินน้อย เขาก็สร้างร้านไม่ได้ ดังนั้น รูปแบบการขายก็ควรจะเป็นลักษณะซุ้มขายอาหารแทน เขานึกภาพตลาดนัดที่สามารถเช่าล็อกขนาดเล็ก เพื่อขายอาหารง่าย ๆ ซึ่งจากการเดินสำรวจตลาด ทุกวันเสาร์ที่ลานกว้างหน้าสำนักงานเมืองก็เปิดให้ขายของเช่นกัน
หลังจากเติมของผิด ๆ ถูก ๆ ไปหลายรอบ สุดท้ายด้วยสายตาไม่ค่อยพอใจของแอนนา อลันก็ตั้งสมาธิทำงานต่อจนได้
ตกเย็นหลังเลิกงาน อลันก็เดินทางไปซุปเปอร์มาเก็ตอีกครั้ง เพื่อที่จะตุนเสบียง พร้อมหาวัตถุดิบสำหรับทำอาหารขายไปด้วย ในหัวเขาพยายามคิดวิธีขายหลากหลายวิธี
หลังจากช็อปปิ้งของราคาไม่แพงมาเป็นจำนวนมาก เขาก็หอบร่างกายพร้อมสินค้าเต็มมือกลับเข้าห้องพัก วันนี้เขาไม่วางแผนสะเปะสะปะ เพียงแค่จัดเรียงของไว้เท่านั้น
วันอันแสนวุ่นวายก็จบลงไปอีกหนึ่งวัน...
_____
เช้านี้หลังจากออกไปวิ่งด้วยสภาพทุลักทะเลเหมือนเมื่อวาน อลันก็รีบกลับมาอาบน้ำเตรียมอาหารทันที เนื่องจากวันนี้เขาจะไปสำนักงานเมืองนั่นเอง
เขาลงทะเบียนจองซุ้มสำหรับขายอาหารที่ตลาดนัดของเมืองผ่านระบบไปเมื่อคืนแล้ว แต่ผู้ขายหน้าใหม่ต้องไปยืนยันตัวตนด้วยตัวเองด้วย เขาจึงต้องไปสำนักงานเมืองก่อนไปซื้ออุปกรณ์ทำมาหากิน
เขาใช้เวลาไม่นาน เนื่องจากผู้ขายหน้าใหม่มีไม่มาก เพียงแค่ครึ่งชั่วโมงก็ลงทะเบียนเสร็จเรียบร้อย เมื่อยืนยันตำแหน่งของร้านได้ อลันก็รีบจากมาทันที
สถานที่ต่อไปก็คือซุปเปอร์มาร์เก็ตอีกแห่งหนึ่ง ที่นี่ไม่มีของสดขาย แต่มีเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ไฟฟ้าหลากหลายมาก
หลักจากเดินดูหลายรอบเพื่อหาของถูก ๆ เงินเก็บหนึ่งหมื่นเครดิตก็แปรเปลี่ยนเป็นหม้อทอด โต๊ะขนาดเล็ก แล้วก็ถาดวางอาหารสแตนเลสอย่างดี พร้อมด้วยกล่องใส่อาหารที่ทำมาจากวัสดุรีไซเคิล
เนื่องจากของพะรุงพะรังมาก ดังนั้นอลันจึงเลือกที่จะขึ้นรถรับส่งส่วนบุคคลกลับมาแทน มันคล้ายแท็กซี่ในโลกเดิม เพียงแต่ว่ารถรับส่งเป็นรถคล้ายตู้รถไฟขนาดย่อมแทน
เขาเก็บอุปกรณ์ขึ้นไปเก็บบนห้องอย่างทุลักทุเล เงินลงทุนหมื่นกว่าเครดิตหมดลงแล้ว หลังจากเรียกรถส่วนบุคคลไปขายของ วันเสาร์นี้ก็จะเป็นวันชี้ชะตาว่าจะรุ่งหรือจะร่วง
“ค่ารถเช่าส่วนบุคคลขนของไปกลับ ก็น่าจะราว ๆ 300 เครดิต แต่จากที่คิดไว้ หากขายหมดกำไรน่าจะมากกว่า 3,000 เครดิตซะอีก ...แต่ก็นะ การขายครั้งแรก อาหารก็ใหม่ ขายได้กำไรสัก 1,000 เครดิตก็เก่งแล้ว” เขาคำนวณไว้คร่าว ๆ อีกสองวันจะถึงวันตลาดนัด หากแผนนี้เป็นไปด้วยดี เขาจะทำเงินได้เพิ่มไม่ต่ำกว่า 10,000 เครดิตต่อเดือน เท่ากับว่าเงินลงทุนทั้งหมดจะถอนทุนในเดือนเดียว แม้จะมองว่ากำไรจะน้อยไปหน่อย แต่มันก็เป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับพนักงานเดือนผู้จนตรอกอย่างอลัน
แต่ถ้าขาดทุน... ก็นะ หมื่นเดียว อย่าไปคิดมาก...
to be continue
โฆษณา