9 ต.ค. 2023 เวลา 12:04 • ปรัชญา

โพชฌงค์ 7 คือธรรมที่เป็นองค์แห่งการตรัสรู้

โพชฌงค์ 7 คือธรรมที่เป็นองค์แห่งการตรัสรู้
ประกอบด้วย   สติ   ธัมมวิจยะ   วิริยะ   ปีติ ปัสสัทธิ   สมาธิ    และอุเบกขา
ครูบาอาจารย์สอนเอาไว้ว่า
"เมื่อไรมีสติ  เมื่อนั้นมีความเพียร
เมื่อไรมีความเพียร  เมื่อนั้นก็ต้องมีสติ"
ถ้าเรามีสติเกิดขึ้นบ่อยๆ  ก็จะได้ 🔸สติสัมโพชฌงค์
การที่เราคอยมีสติระลึกรู้กายระลึกรู้ใจ
ก็เพื่อศึกษาความจริงของกายของใจ
เรียกว่า 🔸ธัมมวิจยะ
เมื่อเราตามรู้ตามดูเรื่อยๆ
พอมีสติก็มีความเพียรเรียกว่า 🔸วิริยะ
มีวิริยะแล้วก็เกิด 🔸ปีติ
ซึ่งเป็นปีติในธรรมะ  ไม่ใช่ปีติจากสมาธิ
แต่เป็นปีติที่ได้เห็นความจริง
จิตใจก็ร่าเริงเบิกบานในธรรมะ
ถ้าเรามีสติรู้ทันใจที่ร่าเริงเบิกบาน
ใจก็จะเปลี่ยนจากปีติมาเป็นความสุข
พอมีสติรู้ความสุขขึ้นมาอีก
ความสุขก็ค่อยๆ สลายตัวไป
ค่อยสงบระงับลงไปเป็น 🔸ปัสสัทธิ
จากนั้นใจก็เข้าสู่ความสงบ ตั้งมั่นเป็น 🔸สมาธิ
แต่เป็นความสงบเพราะผ่านการเจริญปัญญามา
ไม่เหมือนความสงบจากการทำสมาธิจากสมถะ
ที่ทำให้เราได้พักผ่อน   ใจไม่วุ่นวาย มีกำลังขึ้นมา
ถ้ารู้ธรรมภายใน  คือรูปนามของตัวเอง
รู้อย่างนี้เรื่อยไปด้วยจิตที่ตั้งมั่น จิตที่สงบพอประมาณ
จิตไม่หลงไม่ไหลไปทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
รู้ทุกอย่างอย่างเป็นกลาง
เห็นรูปแล้วยินดี  รู้ทัน  จิตจะเป็นกลางด้วยสติ
เห็นรูปแล้วยินร้ายให้รู้ทัน  จิตจะเป็นกลางด้วยสติ
สุดท้ายจะเป็นกลางด้วยปัญญา
เรียกว่า 🔸อุเบกขา
ถ้าเราภาวนาไปจนถึงขั้นที่จิตเป็นกลางด้วยปัญญา
เพราะรู้ความจริงแล้วว่า
อะไรๆ ก็ไม่เที่ยง 
อะไรๆ ก็เป็นทุกข์ 
อะไรๆ ก็บังคับไม่ได้
ไม่ใช่ตัวเรา
เรียกว่ามี ☄สังขารุเปกขาฌาน
ใกล้กับมรรคผลนิพพานแล้ว
ตรงที่เราเดินปัญญาเป็นการสะสมพลัง
ถ้ากำลังเราพอ
คุณงามความดีของเราเพียงพอ
จิตจะรวมเข้าอัปปนาสมาธิ
แล้วก็ล้างกิเลส
กิเลสที่ล้างด้วยอริยมรรคไม่เหมือนการล้างด้วยวิธีอื่น
ถ้าเป็นการล้างด้วยปัญญาระดับมรรค
ล้างแล้วล้างเลย  ไม่ต้องล้างครั้งที่ 2
Cr.หนังสือโรดแม็พ ธรรมปฏิบัติ ทางเดินสู่โลกุตตรธรรม : หน้าที่ ๑๕๔-๑๕๖
โฆษณา