9 ต.ค. 2023 เวลา 18:43 • ข่าวรอบโลก
ปาเลสไตน์

🛑เกิดอะไรขึ้นในอิสราเอล: ประเด็นสำคัญ และบ่อเกิดความรุนแรงจากแถลงการณ์ขององค์กรเสียงชาวยิวในสหรัฐฯ!

_______________
💡“ถ้าคุณไม่ระวัง หนังสือพิมพ์ (สื่อกระแสหลัก) จะทำให้คุณเกลียดชังผู้ที่ถูกกดขี่ และหลงรักผู้ที่กำลังกดขี่” - มัลคอล์ม เอ็กซ์ นักปฏิวัติผิวสี เพื่อสิทธิมนุษยชน💡
1
// ฝากถึงคนไทยใจฝรั่ง ฝากถึงโลกที่ยังเมามัวอยู่ในโฆษณาชวนเชื่อของตะวันตก มาฟังเสียงชาวยิวในสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ พูดถึงต้นต่อของความรุนแรง กรณีอิสราเอลและปาเลสไตน์กันหน่อยดีไหม ?!! //
_______________
➡️ ขณะที่เหตุการณ์ต่างๆ กำลังเกิดขึ้นในปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง นับจากเช้าวันเสาร์ ที่ 7 ต.ค. 2023 จนถึงตอนนี้ ภายใต้ปฏิบัติการที่มีชื่อว่า “พายุอัลอักศอ” (Al-Aqsa Storm) ซึ่งถือได้ว่า เป็นการประกาศสงครามต่อต้านการยึดครองของอิสราเอลครั้งแรกของกลุ่มต่อสู้ปาเลสไตน์ในประวัติศาสตร์ กลุ่มต่อสู้ปาเลสไตน์ได้เรียกร้องให้มีการระดมพลทั่วไป “ใครก็ตามที่มีปืน รถบรรทุก รถยนต์..” จงลุกขึ้นสู้! และภายใน 20 นาทีแรก ก็มีการยิงจรวดมากกว่า 5,000 ลูกในทันที
ไม่ว่าเหตุการณ์ที่คุณกำลังเป็นพยาน ณ ปัจจุบัน คือ อะไร โปรดจำไว้หนึ่งอย่างว่า “พายุอัลอักศอ” คือ การตอบสนองต่อความเจ็บปวดตลอด 75 ปี ที่ถูกยึดครองของชาวปาเลสไตน์ เป็นการตอบโต้ไปยังการโจมตีมัสยิดอัลอักศอ หนึ่งใน 3 สถานที่ที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของชาวมุสลิม การโจมตีผู้สักการะ การฆ่าล้างเผ่าพันธ์ การสังหารหมู่ต่อชาวปาเลสไตน์ การรื้อถอนบ้านเรือน การยึดที่ดินชาวปาเลสไตน์
การปิดล้อมฉนวนกาซา การเผาโรงเรียน โจมตีโรงพยาบาล การขยายอาณานิคมอย่างผิดกฎหมาย การทำร้าย และล่วงละเมิดของผู้ตั้งถิ่นฐานและกองกำลังอิสราเอล ที่มีต่อชาวปาเลสไตน์ ไม่เว้นแม้แต่เด็ก สตรี และคนชรา ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา
📌หมดยุคแห่งการเจรจาระหว่าง “ดาบและคอหอย”
อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจ กล่าวคือ ปฏิบัติการครั้งนี้ เริ่มต้นขึ้นโดยปราศจากการมีส่วนร่วมอย่างเปิดเผยของกลุ่มต่อสู้ในวงกว้าง เป็นครั้งแรกที่กลุ่มต่อสู้ชาวปาเลสไตน์ได้เรียกร้องให้กลุ่มต่อสู้วิถีอิสลามในเลบานอน ซีเรีย อิรัก และเยเมน รวมตัวกันอย่างเปิดเผย ถือเป็นฝันร้าย ที่เลวร้ายที่สุดของระบอบอิสราเอลไซออนิสต์
เพียงไม่กี่ชั่วโมงแรก อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน การต่อสู้ของชาวปาเลสไตน์ประสบความสำเร็จในการ:
- ทลายรั้วอาณานิคมที่อยู่ติดชายแดน
- ส่งจรวด ซึ่งผลิตขึ้นเอง โจมตีใจกลางระบอบอิสราเอล
- ทำให้ผู้ตั้งถิ่นฐานหลบหนีเป็นแนวไปยังสนามบิน
- ทำให้ระบบ Iron Dome ทำงานผิดปกติ และโจมตีผิดพลาดอย่างรุนแรง
- บุกรุกนิคมทางบก/ทางอากาศ/ทางทะเล มีการยึดยานพาหนะของกองกำลัง IOF
- โกดังน้ำมันในพื้นที่ที่ถูกยึดครองถูกจุดไฟเผา
- จับกุม บุกโจมตีฐานทัพ และลักพาตัวชาวอิสราเอล กว่าหลายสิบคน ในที่นี่รวมถึง ผู้บัญชาการทหารอาวุโสของอิสราเอล และจำนวนก็ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ประวัติศาสตร์หน้าใหม่กำลังถูกสร้างขึ้น ขณะเดียวกัน เราก็กำลังเฝ้าดูสื่อตะวันตก และสื่อที่คล้อยตามกัน กระทำในสิ่งที่พวกเขาฉ่าวโฉ่มากที่สุด เนื่องจากสื่อเหล่านี้ มักนำเสนอภาพการต่อสู้ของชาวปาเลสไตน์ ด้วยเรื่องเล่าอันเป็นเท็จ (false narrative) หรือมิเช่นกัน ก็บิดเบือนไปจากภูมิหลังของความเป็นจริงเสมอมา
แม้ว่ากฎหมายระหว่างประเทศที่มีอยู่หลายฉบับ (อาทิ มติของสหประชาชาติ ฉบับที่ 446, 452, 465, 471 และ 476) จะบ่งชี้ว่า การตั้งถิ่นฐานของอิสราเอลเป็นสิ่งผิดกฎหมาย โดยมีสมาชิกส่วนมาก ยอมรับประเด็นนี้ ขณะที่ชาวปาเลสไตน์เอง ก็สามารถพิสูจน์ถึงสิทธิชอบธรรมในการลุกขึ้นสู้ ไม่ว่าจะในวันนี้ หรือเมื่อ 75 ปีที่แล้ว และแม้ว่านโยบายของอิสราเอล จะถูกระบุว่า เป็นรูปแบบของการแบ่งแยกเชื้อชาติโดยสหประชาชาติ องค์กรสิทธิมนุษยชนอิสระ และนักเคลื่อนไหวที่น่าเชื่อถือ อื่นๆ อีกมากมาย ก็ตาม…
เมื่อชาวยุโรปถูกโจมตี และประกาศป้องกันตนเอง พวกเขาเหล่านั้นจะได้รับการยกย่องสำหรับการยืนหยัดต่อต้าน เราเห็นความสองมาตราฐานนี้ชัดเจนยิ่งขึ้น เมื่อนึกถึงประเด็นยูเครน และการต่อสู้ของชาวฝรั่งเศสที่มีไปยังการยึดครองของระบอบนาซี แต่มนุษยธรรมกลับถูกเลือกปฏิบัติ เมื่อเป็นกรณีของชาวปาเลสไตน์
1
ในขณะที่ความจริงไม่เคย “ซับซ้อน” หรือ ขัดแย้งกัน” แม้แต่ Jewish Voice for Peace องค์กรชาวยิว ที่มีฐานอยู่ในสหรัฐฯ ซึ่งยึดมั่นในสโลแกนสนับสนุนเสรีภาพของชาวปาเลสไตน์ พร้อมๆกับศาสนายูดาย ต่อต้านลัทธิไซออนิสต์ ก็ได้แสดงทัศนะเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น ในช่องทางอินสตาแกรมของตน ภายใต้โพสต์ในหัวข้อ “แถลงการณ์จาก JPV: บ่อเกิดของความรุนแรง คือ การกดขี่” โดยเนื้อหาส่วนหนึ่ง มีใจความดังนี้:
📌 แถลงการณ์จาก JPV: บ่อเกิดของความรุนแรง คือ การกดขี่:
▪️หลังจากการปิดล้อมทางทหารของอิสราเอล เป็นเวลา 16 ปี นักต่อสู้ปาเลสไตน์จากฉนวนกาซาได้เปิดฉากการโจมตีที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งทำให้ชาวอิสราเอลหลายร้อยคนถูกสังหาร และได้รับบาดเจ็บ และพลเรือนถูกลักพาตัว รัฐบาลอิสราเอลประกาศสงคราม เปิดฉากการโจมตีทางอากาศ สังหารชาวปาเลสไตน์หลายร้อยคน และทำให้บาดเจ็บอีกหลายพันคน ทิ้งระเบิดไปยังอาคารที่พักอาศัย และขู่ว่าจะก่ออาชญากรรมสงครามต่อชาวปาเลสไตน์ที่ถูกปิดล้อมในฉนวนกาซา
▪️รัฐบาลอิสราเอล อาจเพิ่งประกาศสงคราม แต่สงครามกับชาวปาเลสไตน์เริ่มต้นเมื่อ 75 กว่าปีที่แล้ว การแบ่งแยกเชื้อชาติ และการยึดครองของอิสราเอล และการสมรู้ร่วมคิดของสหรัฐอเมริกาในการกดขี่นั้น - เป็นที่มาของความรุนแรงทั้งหมดนี้ ความเป็นจริงขึ้นอยู่กับตอนที่คุณเริ่มต้นการจับเวลา
▪️ในปีที่ผ่านมา รัฐบาลที่เหยียดเชื้อชาติ (racist) จัดอยู่ในกลุ่มรากฐานนิยม (fundamentalist) และขวาจัด (far-right) ที่สุดในประวัติศาสตร์อิสราเอล ได้เพิ่มการยึดครองทางทหารอย่างโหดเหี้ยมเหนือชาวปาเลสไตน์ ในนามของความสูงส่งของชาวยิว (Jewish Supremacy) ด้วยการขับไล่ และการรื้อถอนบ้านเรือน อย่างรุนแรง การสังหารหมู่ การจู่โจมโดยทหารไปยังค่ายผู้ลี้ภัย การปิดล้อมอย่างไม่หยุดยั้ง และการล่วงละเมิดรายวัน เพียงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
กองกำลังอิสราเอลได้บุกโจมตีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของชาวมุสลิมในกรุงเยรูซาเลมหลายต่อหลายครั้ง
▪️เป็นเวลา 16 ปีแล้ว ที่รัฐบาลอิสราเอลได้รัดคอ บีบคั้น ทำให้ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาหายใจไม่ออก ภายใต้การปิดล้อมทางทหาร ทางอากาศ ทางทะเล และทางบกอย่างเข้มงวด อิสราเอลจำคุก และทำให้ผู้คนปาเลสไตน์สองล้านคนอยู่ในภาวะอดอยาก ทั้งยังปฏิเสธความช่วยเหลือทางการแพทย์ไปยังพวกเขา รัฐบาลอิสราเอลสังหารหมู่ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาเป็นประจำ: เด็กๆ อายุ 10 ขวบ ที่อาศัยอยู่ในฉนวนกาซา ต่างเคยถูกทำให้ผวา ชอกช้ำจากการทิ้งระเบิดครั้งใหญ่ มากถึง 7 ครั้ง ในช่วงชีวิตอันแสนสั้นของพวกเขา
▪️เป็นเวลา 75 ปี ที่รัฐบาลอิสราเอลได้คงไว้ซึ่งการยึดครองทางทหารเหนือชาวปาเลสไตน์ และยังคงดำเนินการปกครองตามระบอบแบ่งแยกเชื้อชาติ (apartheid regime) เด็กชาวปาเลสไตน์ถูกลากออกจากเตียง ในการบุกโจมตี ช่วงก่อนรุ่งสาง โดยทหารอิสราเอล และถูกคุมขังในเรือนจำทหารอิสราเอล โดยปราศจากคำฟ้อง บ้านของชาวปาเลสไตน์ถูกเผา โดยกลุ่มผู้ตั้งถิ่นฐานชาวอิสราเอล หรือถูกทำลายโดยกองทัพอิสราเอล หมู่บ้านชาวปาเลสไตน์ทั้งหมด ถูกบีบบังคับให้ลี้ออกไป โดยจำเป็นต้องละทิ้งบ้าน สวนผลไม้ และที่ดินที่อยู่ใน
ครอบครัวของพวกเขามาหลายชั่วอายุคน
▪️การนองเลือดในวันนี้ และ 75 ปีที่ผ่าน สืบสาวราวเรื่องไปถึงการสมรู้ร่วมคิดของสหรัฐฯ ในการกดขี่ และความโหดเหี้ยมที่เกิดจากการยึดครองของทหารอิสราเอลโดยตรง รัฐบาลสหรัฐฯ มอบอำนาจให้อิสราเอล ใช้ความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง และแบกรับการกล่าวโทษในเวลานี้ เงินทุนทางการทหารที่ไม่ได้รับการตรวจสอบ การปกปิดทางการฑูต และเงินส่วนบุคคลหลายพันล้านดอลลาร์ที่หลั่งไหลมาจากสหรัฐฯ
ก่อกำเนิด และเพิ่มศักยภาพให้กับระบอบการปกครองที่แบ่งแยกเชื้อชาติของอิสราเอล บรรดาผู้ที่ยังคงเรียกร้อง ให้สหรัฐฯ ดำเนินการสนับสนุน ชนิด “หุ้มเกราะ” กองทัพอิสราเอลอย่างเข้มแข็งนั้น เพียงกำลังปูทางไปสู่ความรุนแรงที่เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น
▪️จากสหรัฐอเมริกา มันไม่มีเส้นข้างสนามใดๆ เราจะถอนรากถอนโคนการสมรู้ร่วมคิด ในจุดที่เราอยู่: เราเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ ดำเนินการทันที เพื่อถอนเงินทุนทางทหารให้กับอิสราเอล และให้รัฐบาลอิสราเอลรับผิดชอบต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง และอาชญากรรมสงครามต่อชาวปาเลสไตน์
▪️เรามุ่งมั่นที่จะยกระดับแคมเปญของเรา ในการบอยคอต การขายเงินลงทุน และการคว่ำบาตร เพื่อยุติเงินหลายพันล้านที่หลั่งไหลเข้าสู่เครื่องจักรสงครามอิสราเอล จากองค์กร และมูลนิธิเอกชนต่างๆ
▪️ผู้ถูกกดขี่ทุกแห่ง ย่อมจะแสวงหา - และได้รับอิสรภาพ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เราทุกคนสมควรได้รับอิสรภาพ ความปลอดภัย และความเท่าเทียมกัน วิธีเดียวที่จะไปถึงจุดนั่นได้ คือต้องถอนรากถอนโคน แหล่งที่มาของความรุนแรง โดยเริ่มจากการสมรู้ร่วมคิดของรัฐบาลเราเอง” — ส่วนหนึ่งจากแถลงการณ์จากองค์กร Jewish Voice for Peace
📌 ฝากถึงเหล่าผู้นำ ผู้มีอิทธิพล และผู้มีชื่อเสียงในโลกนี้ และทุกๆคน ที่ยังคงสนับสนุนอิสราเอล หรือแม้แต่แสดงความเป็นกลางต่อประเด็นนี้ แต่กลับอ้างว่าเป็นหนึ่งในผู้แสวงหาความชอบธรรม และการดำรงอยู่อย่างมีเสรีภาพ
โปรดรับรู้ว่า การลุกขึ้นสู้ของชาวปาเลสไตน์ ย่อมไม่มีนิยามอื่น นอกเสียจะเป็นปฏิกิริยาของเหยื่อผู้ถูกกระทำ นี่ไม่ใช่ “ความรุนแรง” แต่คือ วิถีของมนุษย์ที่มีศักดิ์ศรี ซึ่งไม่ได้เรียกร้องสิ่งใดมากไปกว่า การปกป้องสิทธิในการดำรงอยู่ของตน
อย่าปล่อยให้โฆษณาชวนเชื่อของตะวันตกครอบงำ และขนานนามการต่อสู้นี้เป็น การก่อการร้าย เพราะนี่คือการต่อสู้เพื่อเอกราช (Decolinization) สำหรับหลายทศวรรษของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ การล่วงละเมิด การเหยียดเชื้อชาติ และการรุกรานกดขี่ข่มเหง
ในวันนี้ ผู้คน - มนุษย์ที่มีเลือดเนื้อ ซึ่งอาศัยอยู่ในสถานที่ที่ถูกเรียกว่า “เรือนจำกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก” ที่ซึ่ง 97% ของน้ำที่มีไม่สามารถใช้ดื่มกิน ได้เปลี่ยนวิถีการต่อสู้ จากการตั้งรับ เป็นการโจมตีไปยังผู้คุมขังที่มัดมือมัดเท้าพวกเขาแล้ว ในวันนี้ ชาวปาเลสไตน์สู้กลับ พวกเขาได้กำหนด และตัดสินใจแล้วว่า มันจะต้องพอได้แล้ว
พวกคุณทั้งหลาย ก็ควรจะต้องเลิกเสแสร้ง และยอมรับความจริงเสียทีว่า มันไม่มีหรอก เหยื่อกับผู้ก่อการร้าย ทว่ามันมีผู้ล่า กับผู้ถูกล่า มันมีแต่ชาวบ้าน ประชาชนที่ผันตนมาเป็น “นักรบเพื่ออิสรภาพ” ด้วยก้อนหิน และปัจจุบันคือขีปนาวุธ เรียกว่า “ชาวปาเลสไตน์” กำลังยืนหยัดต่อสู้กับรูปแบบของล่าอาณานิคม ที่ยังคงดำเนินอยู่ในปี 2023 โดยมหาอำนาจนิวเคลียร์ และกองกำลังทหารที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ท่ามกลางความนิ่งเงียบของชาวโลก เรียกว่า “อิสราเอล”…
______________________
รวบรวมและเรียบเรียง: abnewstoday.com
โฆษณา