11 ต.ค. 2023 เวลา 00:12 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ตลาดหุ้นจะกลับมาเป็นขาขึ้นเมื่อไหร่ ?

ในระยะยาวแล้วโดยเฉลี่ยจะเกิดเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นทุกปี (แต่เป็นเงินเฟ้อแบบอ่อนๆ)
2
เพราะนโยบายของนักการเมือง(ทั่วโลก) เค้าต้องการให้เกิดเงินเฟ้อเพื่อฐานเสียงจากประชาชน
(ปล. ไม่ได้อิงการเมืองแต่อย่างใดนะครับ ผมแค่ต้องการอธิบายและอ้างอิงถึงที่มาที่ไปของเงินเฟ้อเท่านั้นครับ)
เพราะมันจะทำให้ประชาชนรู้สึกว่าตัวเองมั่งคั่งขึ้น และเป็นผลดีต่อผู้บริหารนโยบาย โดยเงินเดือนเพิ่มขึ้นเป็นตัวเงิน(แต่อาจซื้อก๋วยเตี่ยวได้จำนวนชามที่เท่าเดิมนะ)
สินทรัพย์ที่เค้าถือครองเช่น บ้านและที่ดินราคาแพงขึ้นเวลาขายต่อ
เช่นซื้อบ้านมา 3 ล้าน ผ่านไป 10-15 ปีขายได้ 5 ล้าน ก็รู้สึกดีใจว่าเป็นเพราะศก.ดีจากการบริหาร เค้าจึงมั่งคั่งขึ้น มีเงินจากเดิม 3 ล้านเพิ่มเป็น 5 ล้าน
(แต่กลับลืมมองว่าเวลาที่เค้าต้องไปหาซื้อบ้านใหม่มาแทนบ้านเดิมก็ต้องควักเงินออกมาจ่าย 5 ล้านเช่นกัน)
เมื่อผู้มั่งคั่ง ผู้มีประสบการณ์หรือเศรษฐีทั้งหลาย เค้าย่อมรู้ว่าการเก็บเงินไว้ในพันธบัตรหรือฝากธนาคารอย่างเดียวนั้น ไม่สามารถป้องกันเงินเฟ้อได้แน่
จึงมีทางเลือกอยู่ไม่กี่ทางคือการถือเป็นทรัพย์สินที่ป้องกันเงินเฟ้อ ซึ่งหลักๆก็มีแค่ ที่ดิน บ้าน ทองคำ และหุ้น เท่านั้น
(ที่เราเคยเห็นว่ามีราคาแพงขึ้นเมื่อเทียบกับอดีต)
ไม่นับรวมถึง อาหารการกินหรือข้าวของเครื่องใช้ที่ไม่สามารถเก็บไว้ได้ตามกาลเวลา
เช่นเราไม่สามารถเก็บก๋วยเตี๋ยวที่ชามละ 0.50 สตางค์แล้วมากินหรือขายต่อตอนชามละ 50 บาทได้
(ไม่งั้นคงกำไร 100 เด้งไปแล้ว555)
พวกเค้าจึงต้องเก็บเป็นบ้าน ที่ดิน ทองคำและหุ้นแทน
ฉะนั้นในระยะยาวแล้วตลาดหุ้นย่อมกลับมาเป็นขาขึ้นเสมอ (แต่ผมไม่สามารถตอบได้ว่าเมื่อไหร่)
(เพราะเรารู้แค่ว่า มันจะถึงจุดสมดุลได้ในไม่วันใดก็วันนึงตามทฤษฎีของเงินเฟ้อดังที่กล่าวไปด้านบนนั่นเองครับ)
ขอให้โชคดีในการลงทุนทุกท่านครับ
Liu De Hua (Mr.China)
ยุทธภพ VI
#มือกระบี่ไร้นาม
โฆษณา