ซินจ่าว เวียดนาม 2023
Traveling .. It’s better to see something once, than to hear about it a thousand times!
ใครบางคนกล่าวไว้อย่างน่าฟังว่า … โลกนี้คือดินนแดนที่ไท่มีใครรู้จักมันได้จากการบอกเล่า แต่คนเราจะต้องเดินทางท่องเที่ยวไป เพื่อทำความรู้จักกับมันด้วยตัวเอง
หลายพันกิโลเมตรของการเดินทางไกลที่เหมือนได้เดินตามความฝันในวันวานที่เคยเห็นในโปสการ์ด เป็นภาพหมู่บ้านเล็กๆในหุบเขา ดอกหญ้าบานสะพรั่งบนผืนนาเขียวๆ ..
หลายวัน ที่ได้แบ่งปันความยินดีและความฝัน ได้รับมิตรภาพระหว่างการเดินทางนับว่าเป็นความอบอุ่นอย่างยิ่งสำหรับฉัน ในดินแดนแห่งความงามของธรรมชาติที่แฝงไว้ด้วยพลัง
การเดินทางขยายความเข้าใจ และแน่นอนมันได้ช่วยหล่อหลอมจิตวิญญาณของเราด้วย
“ซินจ่าว เวียดนาม” เป็นคำพูดแรกที่ฉันกล่าวเมื่อก้าวเท้าลงจากเครื่องบินที่ สนามบินนอยไบ กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม
ฮานอย เป็นเมืองหลวงของเวียดนาม ที่มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนาน ในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของพื้นที่เวียดนามในปัจจุบันเป็นครั้งคราวมาตั้งแต่สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 11 จนกระทั่งมาเป็นเมืองหลวงของเวียดนามเหนือ และกลายมาเป็นเมืองหลวงของประเทศเวียดนามในปัจจุบัน
ฮานอยมีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ให้เราได้เข้าไปเยี่ยมชมกันมากหมาย .. แต่ครั้งนี้ทริปของเราจะดำเนินไปในเส้นทางที่ไม่ธรรมดาสักเท่าไหร่
ด้วยเหตุที่เราตั้งหมุดหมายกันว่าจะเดินทางไปทางตอนเหนือของเวียดนามกัน เพื่อชมและถ่ายภาพความสวยงามของนาข้าวขั้นบันไดที่น่าทึ่งที่สุด และเป็นที่รู้จักในหมู่ผู้ชื่นชอบการเดินทางและช่างภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงปลายเดือนกันยายนและต้นเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นเวลาที่ดีที่สุดในการถ่ายภาพทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุดของทุ่งนาขั้นบันได
นาข้าวขั้นบันไดทางตอนเหนือของเวียดนามเป็นปรากฏการณ์แห่งสีสันและความงามประจำปีที่ส่องประกายระยิบระยับในช่วงเดือนสุกและเก็บเกี่ยวตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงตุลาคม นาข้าวขั้นบันไดเป็นแนวทางปฏิบัติทางการเกษตรที่มีอายุย้อนกลับไปสองพันปีและอาจเกิดขึ้นตามแนวชายแดนเวียดนาม-จีน
.. เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นและน่าจดจำที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ แม้ว่าข้าวจะปลูกได้ทั่วประเทศเวียดนาม แต่เมื่อเป็นเรื่องของการฝึกแบบขั้นบันได – การแกะสลักขั้นบันไดหลายชั้นลงที่ด้านข้างของหุบเขาลึกหรือตามรูปทรงของไหล่เขาที่สูงชัน – ไม่มีที่ไหนเทียบได้กับภาคเหนือ หลายพื้นที่มีนาข้าวขั้นบันไดหนาแน่นเป็นพิเศษ ซึ่งทั้งหมดสามารถเยี่ยมชมได้โดยอิสระ ทิวทัศน์สวยงามตระการตาและโอกาสในการถ่ายรูปมีไม่จำกัด
การเดินทางสู่จังหวัดเอียนบ๊าย (Yex Bai)
Mu Cang Chai เป็นอำเภอในจังหวัด Yen Bai ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก ห่างจากฮานอยไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 300 กม. ..หากเวียดนามมีลักษณะคล้ายงูเห่าตั้งตรง หรือตัว “S” เมืองหลวง ก็แสดงว่าจังหวัดเอียนบ๊ายอยู่ใกล้ตางู เขตมูคังฉาย ตั้งอยู่ทางมุมตะวันออกของจังหวัด
Mu Cang Chai ในทางภูมิศาสตร์ .. การเข้าถึงได้นั้นไม่ง่ายนัก การเดินทางอาจใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมงหรือนานกว่านั้นเมื่ออเดินทางจากฮานอย นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เดินทางโดยรถไฟ รถบัส หรือรถส่วนตัว หรือหลายตัวเลือกรวมกัน
.. ส่วนคณะของเราเดินทางด้วยด้วยรถตู้ขนาดใหญ่ นั่งสบาย
เขต Mu Cang Chai ตั้งอยู่ใต้เทือกเขา Hoang Lien Son ที่มีชื่อเสียง ที่ระดับความสูง 1,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล .. โดยทั่วไปภูมิประเทศหลักของเขตนี้มักมีลักษณะเด่นหลายประการ ภูเขาสูง หุบเขาลึก ซึ่งมีหมู่บ้านในชนบทของชนกลุ่มน้อยในท้องถิ่น เช่น ชาวม้ง เซาแดง ไทย เมือง เวียตนาม...
ในจำนวนนี้ ชนเผ่าม้งคิดเป็น 95% ของประชากรทั้งหมดในเขตที่อาศัยอยู่ กระจัดกระจายอยู่บนเนินเขาที่มีวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์
หากแต่ฉากความงามที่มีชื่อเสียงที่สุด ตราสัญลักษณ์ของที่นี้ คือทุ่งนาขั้นบันไดทองคำ กระจายกลิ่นของข้าวสีทองแผ่กระจายไปทั่วท้องฟ้า
เส้นทางจากฮานอยไปยังมูคังชัยทอดยาวเกือบ 350 กม. ตามถนนแห่งชาติหมายเลข 32 .. ทุ่งนาขั้นบันไดที่ทอดยาวจาก Tu Le ไปจนถึง Mu Cang Chai เปิดทิวทัศน์อันงดงามของเส้นทางอันงดงามและหุบเขาที่น่าหลงใหลเข้าสู่สายตาผู้เฝ้ามอง
เขตนี้ตั้งอยู่ที่ตีนเขา Hoang Lien (ยอดเขาที่สูงที่สุดชื่อฟานซิปันเป็นหลังคาของอินโดจีนในตำแหน่งซาปา) ในการไปถึงนาข้าวขั้นบันไดของ Mu Cang Chai เราเดินไปตามเส้นทาง NR32 ที่คดเคี้ยวและดีผ่านช่องเขาผา ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่เส้นทางที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเวียดนามตะวันตกเฉียงเหนือ
.. เมื่อต้องเดินทางยาวๆ เราขอเริ่มต้นด้วยอาหารรสชาติอร่อย
ร้านอาหารกลางวันระหว่างการเดินทาง ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแดง .. ทิวทัศน์สวย
อาหารวันนี้ไม่แตกต่างจากอาหารอีสานบ้านเฮาเท่าไหร่นัก เมนูหลักเป็นปลาทอด เนื้อปลาผัด แกงหน่อไม้ ปลาตัวเล็กๆหมกในหม้อดิน
ยำหัวปลี และผัดผักบุ้ง
ทานกับข้าวเหนียวหุงในหม้อดินเช่นกัน
เครื่องเคียงเป็นผัก และเครื่องจิ้ม หลายอย่าง
ระหว่างทาง .. เห็นอะไรก็ซื้อ
.. หน้าข้าวใหม่ มีข้าวเม่าตำมือ สาวๆชาวเวียดทำให้เห็นกันจะๆ ตลอดทาง ราคากิโลละ 50,000 ดอง หรือราว 75 บาท .. หอมมาก เคี้ยวเพลิน และอร่อยสำหรับการนั่งรถระยะทางยาวๆ
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
