ซีรีส์หุ้นอเมริกา 100 เด้ง Amgen ผู้พัฒนายาจากไบโอเทคโนโลยี
102 เท่า ภายในระยะเวลา 38 ปี
📈 คือมูลค่าเงินลงทุนที่เพิ่มขึ้นมา ถ้าเราลงทุนในหุ้น Amgen หรือ AMGN
ตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 2533 จนถึงวันที่ 22 กันยายน 2566
ยังไม่รวมปันผลอีกราวปีละ 3.17 %
🧬 Amgen เป็นบริษัทยาที่เน้นการพัฒนายารักษาโรคจากไบโอเทคโนโลยี เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกการพัฒนายาชีวภาพ เช่น “โปรตีน” มาใช้ในการรักษาโรคต่าง ๆ ที่มีทางเลือกในการรักษาน้อย ซึ่งแบ่งเป็น 3 กลุ่มโรคหลัก ๆ คือ โรคที่เกี่ยวกับอาการปวด,อักเสบ โรคมะเร็ง และโรคทั่วไป
💊 Amgen เป็นบริษัทยาที่มีมูลค่าบริษัทมากเป็นอันดับ 10 ของโลก มูลค่า 5.1 ล้านล้านบาท ณ วันที่ 22 กันยายน 2566
📊 โดย Top 3 ผลิตภัณฑ์ที่ขายดีที่สุด ในช่วง 6 เดือนแรก ของปี 2566
1.ยารักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ Etanercept สัดส่วน 15.3 % ของรายได้ทั้งหมด
2.ยารักษาโรคกระดูกพรุน Denosumab สัดส่วน 14.7 % ของรายได้ทั้งหมด
3.ยารักษาอาการข้ออักเสบจากโรคสะเก็ดเงิน Apremilast สัดส่วน 8.6 % ของรายได้ทั้งหมด
ที่มา : Investors.amgen.com, ข้อมูล ณ วันที่ 22 กันยายน 2566
🌎 โดยมีสัดส่วนรายได้มาจากสหรัฐอเมริกา 71 % และประเทศอื่นๆทั่วโลก 29 %
📈 เส้นทางสู่การเติบโต 100 เด้ง
👨🏼⚕️ บริษัทยาแห่งนี้ก่อตั้งในปี 2523 โดยโฟกัสไปที่การนำไบโอเทคโนโลยี มาพัฒนาเป็นยารักษาโรค
ชื่อบริษัท Amgen มีที่มาจากคำว่า Applied Molegular Genetics เพื่อเน้นการนำองค์ความรู้ด้านพันธุวิศวกรรมมาต่อยอดเป็นยาชีวภาพ
มูลค่าหุ้นของบริษัท Amgen ก็เติบโตขึ้นมาเรื่อย ๆ นับตั้งแต่จดทะเบียนในตลาดหุ้น Nasdaq ตั้งแต่ปี 2526
ซึ่งโดยปกติแล้ว เหตุผลหลักในการเติบโตอย่างโดดเด่นของบริษัทยา จะขึ้นอยู่กับการได้รับอนุมัติให้จำหน่ายยา จากองค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ
โดยบริษัท Amgen มียา 2 ตัวที่ได้รับอนุมัติ และมีผลต่อการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
✊ 1. การอนุมัติยารักษา Etanercept ในปี 2542
ยา Etanercept เป็นยาจากโปรตีนที่ออกฤทธิ์ลดการอักเสบ โดยการไปยับยั้งสาร TNF ซึ่งเป็นสารที่ร่างกายสร้างขึ้นมาเมื่อเกิดการอักเสบ เริ่มแรกยาตัวนี้ใช้สำหรับรักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากการที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำร้ายเนื้อเยื่อของตัวเองจนทำให้เกิดการอักเสบ บวม บริเวณข้อเล็ก ๆ เช่น ข้อนิ้วมือ ข้อนิ้วเท้า
ต่อมายาตัวนี้ก็ถูกต่อยอดไปใช้ในการรักษาอาการอักเสบอื่น ๆ ในร่างกาย ที่เกิดจากการมีสาร TNF มากเกินไป เช่น อาการปวดจากเส้นประสาท การบาดเจ็บของสมอง จนถึงหลอดเลือดในสมองตีบหรือแตก ทำให้มีการใช้ยามากขึ้น จนกลายเป็นยาที่สร้างรายได้มากที่สุดให้กับบริษัท
🦵 2. การอนุมัติยารักษาโรคกระดูกพรุน Denosomab ในปี 2553
ยา Denosomab เป็นยาจากโปรตีนที่ออกฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของเซลล์สลายกระดูก ซึ่งจะช่วยลดการสลายของมวลกระดูก เพิ่มความหนาแน่นและความแข็งแรงให้กับกระดูก ใช้ในการรักษาความผิดปกติอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระดูก โดยเฉพาะโรคกระดูกพรุน ซึ่ง Denosomab ก็เป็นยาที่สร้างรายได้ให้บริษัทเป็นอันดับ 2
📈 โอกาสของการเติบโตหลังจากนี้
Amgen มีผลิตภัณฑ์ยาชีวภาพที่โฟกัสในการรักษาโรคเรื้อรัง แบ่งเป็น 3 กลุ่มโรคหลัก ๆ ซึ่งล้วนเป็นโรคที่มีจำนวนผู้ป่วยหลายล้านคนทั่วโลก นอกจากโรคที่เกี่ยวกับอาการปวด และโรคทั่วไป เช่น โรคกระดูกพรุนแล้ว
ยาชีวภาพรักษาโรคมะเร็งก็เป็นอีกผลิตภัณฑ์ที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างน่าสนใจ
🧬 การใช้ภูมิคุ้มกันบำบัดในการรักษาโรคมะเร็ง
การรักษามะเร็งอาจทำได้หลายวิธี หนึ่งในทางเลือกที่มีประสิทธิภาพ คือการใช้ยาชีวภาพ หรือเรียกว่า “ภูมิคุ้มกันบำบัด” ที่เป็นวิทยาการก้าวหน้าในการรักษามะเร็ง ช่วยยกระดับการรักษาให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
🧬 ตัวอย่างของการใช้ภูมิคุ้มกันบำบัด เช่น การพัฒนายาชีวภาพ ในรูปแบบโมโนโคลนอล แอนติบอดี
ซึ่งเป็นโปรตีนสังเคราะห์เลียนแบบโปรตีนในระบบคุ้มกันของร่างกาย โดยในการรักษามะเร็ง แอนติบอดีจะได้รับการพัฒนาให้มีความจำเพาะและออกฤทธิ์ต่อมะเร็งชนิดนั้นๆ
โดยผลิตภัณฑ์ของ Amgen มีทั้งยาชีวภาพรักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งปอด ฯลฯ
รวมถึงยังมียาชีวภาพอีกหลายชนิดที่อยู่ในระหว่างการทดลอง ซึ่งภูมิคุ้มกันบำบัดเป็นวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพ และมีแนวโน้มเติบโตอีกมากในอนาคต
📈 Allied Market Research ได้คาดการณ์ว่า ตลาดของการรักษามะเร็งด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด จะเติบโตเฉลี่ย 14.3 % ต่อปี จากปี 2564 จนถึงปี 2573
🚧 ความเสี่ยงของการเติบโต
สำหรับความเสี่ยงของบริษัทยา สิ่งที่น่าติดตามมากที่สุด คือ ผลข้างเคียงที่เกิดจากยา ถึงแม้ยาจะได้รับอนุมัติจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐฯแล้ว แต่ก็ยังคงมีการติดตามผลข้างเคียงจากยาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายร้ายแรง ย่อมส่งผลให้การจำหน่ายยามีปัญหา และกระทบกับรายได้ของบริษัทได้
💊 ก็เป็นที่น่าติดตามว่าบริษัท Amgen จะเติบโตอย่างไรต่อไป แต่สิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ คือการเติบโตของบริษัทยาแห่งนี้ ก็ช่วยผลักดันองค์ความรู้ด้านไบโอเทคโนโลยี เปิดแนวทางการรักษาใหม่ ๆ คลี่คลายความซับซ้อนของโรคร้าย และเพิ่มความเข้าใจข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับชีววิทยาของมนุษย์..
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจ
ผลการดำเนินงานในอดีต/ ผลการเปรียบเทียบ ผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นโดยอาศัยแหล่งข้อมูลสาธารณะ ซึ่งพิจารณาแล้วว่ามีความน่าเชื่อถือซึ่งปรากฏขณะจัดทำ ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้ในแต่ละขณะเวลา บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงความเห็นหรือประมาณการต่าง ๆ ที่ปรากฏโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
ข้อมูล ณ วันที่ 22 กันยายน 2566
════════════════════
#เพราะการเงินเป็นเรื่องของทุกคน
════════════════════
Dime! เปลี่ยนเรื่องเงินให้เป็นเรื่องสนุก เพื่อความสุขอย่างเท่าเทียมของทุกคน
บริษัทหลักทรัพย์ เคเคพี ไดม์ ผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน Dime! ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง กำกับโดยสำนักงาน ก.ล.ต. ใบอนุญาตเลขที่ ลก-0007-02
ติดตามเราในช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
Facebook - https://www.facebook.com/dimeinvest
Instagram - https://www.instagram.com/dime.finance
Twitter - https://twitter.com/dimefinance
TikTok - https://www.tiktok.com/@dime.finance
LINE - https://lin.ee/4W7j4nG
Blockdit - https://www.blockdit.com/dime.finance
#การเงิน #การลงทุน #หุ้นอเมริกา #ไดม์ #Dime #Dimeออมได้ลงทุนดี
-----
- 12
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
