14 ต.ค. 2023 เวลา 07:20 • สุขภาพ

Ponstan ยาที่นอกจากบรรเทาอาการปวดประจำเดือน ยังสามารถช่วยลดประจำเดือนออกมามากผิดปกติได้อีกด้วย

Ponstan มีชื่อสามัญคือ Mefenamic acid เป็นยาแก้อักเสบหรือยาแก้ปวด (Non-steroidal anti-inflammatory drugs or NSAIDs) ที่ผลิตมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1979 สรรพคุณคือ สามารถบรรเทาอาการปวดประจำเดือนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดอาการก่อนมีประจำเดือน รวมทั้งยังสามารถลดปริมาณประจำเดือนที่ออกมามากผิดปกติได้อีกด้วย อีกทั้งราคาไม่แพง ทำให้ได้รับความนิยมอย่างมากมาจนถึงทุกวันนี้ และเป็นตัวเลือกแรก ๆ ที่สูตินรีแพทย์เลือกใช้
ปกติแล้วประจำเดือนของสตรี จะไม่มีลิ่มเลือดเนื่องจากในมดลูกจะมีกระบวนการสลายลิ่มเลือด (Fibrinolysis) ทำให้เลือดออกดี และมีกระบวนการหยุดเลือดเพื่อไม่ให้มีเลือดออกมากเกินไปโดยใช้สารอุดเลือด ซึ่งประกอบไปด้วย เกล็ดเลือดและลิ่มเลือด (Platelet plug and thrombin) รวมทั้งมีการหดรัดตัวของทั้งเส้นเลือดเอง (vasoconstriction)และการหดรัดตัวของมดลูก (uterine contraction)
สารเคมีในร่างกายที่ใช้ในกระบวนการหยุดเลือด (homeostasis) หลัก ๆ ในมดลูกจะเป็นการแข่งขันกันระหว่างเอนไซม์สองตัวคือโพรสต้าไซคลิน (Prostacyclin or PGI2) ซึ่งสร้างที่เส้นเลือดและ TXA2 ซึ่งสร้างที่เกล็ดเลือดโดย PGI2 จะทำให้เส้นเลือดขยายและยับยั้งการแข็งตัวของเลือด แต่ TXA2 จะทำให้เส้นเลือดหดตัวและส่งเสริมการแข็งตัวของเลือด
สมดุลระหว่าง PGI2 กับ TXA2
จากภาพข้างต้นจะเห็นได้ว่า สารเคมีตั้งต้นที่ใช้ในกระบวนการหยุดไหลของเลือดคือ Arachidonic acid ซึ่งจะถูกเปลี่ยนเป็น Prostaglandins G (mother prostanoids) โดยใช้เอนไซม์ cyclooxygenase enzymes ซึ่งประกอบไปด้วย COX1 และ COX2 ดังภาพ
สมดุล COX-1 และ COX-2
จากข้างต้น หากมี Prostacyclin มากเกินไปจะทำให้ ตัวอุดเส้นเลือดที่เสียหาย (platelet plug + thrombin) ถูกย่อยสลายเร็วทำให้เส้นเลือดไม่มีตัวอุด ทำให้เลือดไหลมากคล้ายท่อประปาแตก นอกจากนี้เม็ดเลือดขาวที่เพิ่มขึ้นระหว่างเลือดออกจะส่งเสริมให้เอนไซม์ PGE2 VEGF เร่งการสลายตัวอุดเส้นเลือดและเพิ่มการขยายหลอดเลือด ทำให้เลือดยิ่งออกมากขึ้น
ดังนั้นยาในอุดมคติที่จะหยุดประจำเดือนมามากผิดปกติได้นั้นต้องเป็นยาที่สามารถยังยั้งการสร้าง PGI2 อย่างเดียวโดยที่ไม่รบกวนการทำงานของ TXA2 ซึ่งจะส่งเสริมกระบวนการแข็งตัวของเลือด แต่ในปัจจุบันยังไม่มียาตัวนั้นเกิดขึ้นมา
เราจึงนำยาแก้อักเสบ ที่มีกลไกการทำงานคือลดสารโพรสต้าแกลนดิน (Prostaglandins or PGG2) และลดปริมาณ Prostacyclin ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้มาจาก Prostaglandin อีกทีหนึ่ง จึงส่งผลให้ปริมาณ Prostacyclin ลดลงทำให้เลือดที่ออกลดลงได้ประมาณ 20-30%
Mefenamic acid นั้นมีส่วนประกอบหลักเป็น fenamates โดยสาเหตุที่ได้ผลดีกว่ายาตัวอื่นในการรักษาเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดเนื่องจาก
  • 1.
    กดการสร้าง PGI2 โดยกดการทำงานของ cyclooxygenase enzymes
  • 2.
    ผลข้างเคียงน้อย
  • 3.
    แย่งจับกับตัวรับโพรสต้าแกลนดิน (competitive prostaglandins receptor) บนเซลล์เยื่อบุโพรงมดลูก (endometrial cells)
ซึ่งยาตัวอื่นๆในปัจจุบันยังสามารถทำได้แค่ข้อ 1-2 แค่นั้นเอง ไม่สามารถแย่งจับกับตัวรับ prostaglandin ในโพรงมดลูกได้ จึงทำให้ Mefenamic acid เป็นตัวเลือกแรกๆในการรักษา แต่ก็ไม่ใช่ว่ายาตัวอื่นจะไม่มีประสิทธิภาพในการรักษา มีหลายงานวิจัยเองที่บอกว่า ยาตัวอื่นก็มีประสิทธิภาพในการรักษาเช่นเดียวกัน เช่น ibuprofen เป็นต้นแต่เนื่องจากตามทฤษฎีแล้ว mefenamic acid เป็นตัวที่ดีและราคาสมเหตุสมผล สูตินรีแพทย์จึงนิยม Mefenamic acid มากกว่า
Reference
- Clinical gynecologic endocrinology and infertiliry 8th edition, Fritz MA, Speroff L.
- BMJ 2013;347:f4310
โฆษณา