15 ต.ค. 2023 เวลา 04:28 • ไลฟ์สไตล์

"ความสำเร็จในชีวิต มันคัดกรองคนที่มีความพร้อมสำหรับมันเสมอ"

ถึงแม้ว่าความสำเร็จอาจจะยังไม่ใช่การที่ผมตั้งนาฬิกาปลุกตื่นตอนตี 4 ทุกวันเพื่อกวาดถูบ้านก่อนออกไปทำงานก็ตาม (ผมต้องออกไปทำงานก่อน 06.15น.ไม่งั้นจะตอกบัตรเข้าทำงานไม่ทัน) ซึ่งผมเองก็ได้นำเรียนไปในบทความก่อนหน้าที่ว่าผมเป็นคนที่อ่อนวินัยในตัวเองมากๆ จัดว่าเป็นตัวท็อป(ขี้เกียจเบอร์หนึ่ง)คนนึงของบ้านเลยก็ว่าได้
ซึ่งการเปลี่ยนแปลงตัวเองในครั้งนี้ผมต้องยกเครดิตให้หนังสือที่เป็นคัมภีร์ยุทธ์ด้านการเปลี่ยนนิสัยเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับความสำเร็จของตัวเองได้อย่างฉมังเลย หนังสือเล่มนี้คือ "ATOMIC HABIT" "เพราะชีวิตดีได้กว่าที่เป็น"
หลักใหญ่ใจความจะเป็นเรื่องของการเปลี่ยนแปลงนิสัย(เสีย)ของตัวเอง เพื่อสร้างนิสัยใหม่ที่จะทำให้ชีวิตดีได้กว่าที่เราเป็นอยู่ ซึ่งก็ตรงเผ็งกับชื่อหนังสือเลยครับ
รายละเอียดในหนังสือมีกลยุทธ์ต่างๆที่ผมอ่านแล้วว่ามันใช่เลย ผมจะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จได้ ก็ต้องเปลี่ยนนิสัยเก่าๆที่ใช้ความเคยชินของสมองสั่งการแบบอัตโนมัติจนบางเรื่องก็ลืมไปแล้วว่าสิ่งที่เราเองก็ทำมันอยู่ซ้ำๆมันไม่ได้ผ่านกระบวนการ ค.ว.ย. (คิด เวิเคราะห์ แยกแยะ) เลย และก็ยังกล้าแอบฝันว่าเราอาจจะต้องเป็นคนที่ประสบความสำเร็จให้ได้ คิดย้อนไปก็อดสมเพศตัวเองไม่ได้เลยจริงๆ
สิ่งที่ผมเริ่มทำคือการสร้างวินัยในตัวเอง โดยเริ่มจากการบังคับให้ตัวเองต้องสะดุ้งออกจากเตียงมาตอนตี 5 ครึ่งให้ได้โดยไม่มีเงื่อนไข
2 สัปดาห์ผ่านไป ก็รู้สึกว่าร่างกายเริ่มปรับตัวได้ โดยไม่มีเสียงสวรรค์ของอีกคนในหัวมากระซิบมรณะบอกว่า ขออีก 5 นาทีละกัน
จากนั้นก็เริ่มปรับเป็น ตี 5.00 ตี 4.20 และ ตี 4.00น. ตามลำดับ ขออวยตัวเองหน่อยว่าผมทำมันได้ค่อนข้างดี ซึ่งการตื่นนอนตอนตี 4.00 แน่นอนว่า ผมมีเวลาเหลือพอที่จะใส่กิจกรรมอย่างอื่นเพิ่มไปได้อีกเล็กน้อย
ตอนแรกกิจวัตรที่ผมจิ้มเลือกคือการไปวิ่งออกกำลังกายซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 45 นาที(ต้องขี่มอไซค์ออกไปที่สวนสาธารณะ) แต่กลับมาคิดอีกที ผมเลือกเป็นกวาด+ถูบ้านดีกว่า เพราะว่ามันก็ได้เหงื่อ(อาจจะไม่เท่าการออกกำลังกาย)กับได้เรื่องของบ้านสะอาดด้วย
ผมทำมันมาได้กว่า 50 วันแล้ว ซึ่งก็เป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับการบรรจุเป็นนิสัยใหม่ที่สมองจะสั่งการเป็นอัตโนมัติ(ตามตัวเลขค่าประมาณจากหลายสำนักเค้าว่ากันไว้ที่ 66 วันต่อเนื่อง)
หลังจากที่ทำมันอย่างต่อเนื่อง มันทำให้สมองของผมมีความคิดที่จะทำสิ่งที่เป็นนิสัยดีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งสังเกตุได้ว่าวินัยที่ผมทำมันอย่างต่อเนื่องมันเริ่มสงผลกับวิธีคิดและนิสัยที่เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นทีละเล็กทีละน้อย
มันเป็นความสำเร็จขั้นพื้นฐานสำหรับตัวเองโดยแท้ ผมรู้สึกปิติยินดีอย่างบอกไม่ถูกประหนึ่งว่าชีวิตได้ประสบความสำเร็จไปแล้วกึ่งหนึ่ง
ผมเริ่มรู้สึกว่าแนวทางที่หนังสือเล่มนี้ได้แนะนำมันเวิร์คเลยล่ะครับ สำหรับบทความนี้ผมคงจะต้องขมวดไว้แค่นี้ก่อนละกันครับ (กลัวเขียนยาวยืดเกินไปเดี๋ยวจะเบื่อกันก่อน) และขอนิยามไว้ในบทนี้ว่า "ความสำเร็จในชีวิต มันคัดกรองคนที่มีความพร้อมสำหรับมันเสมอ"
#พัฒนาตัวเอง #ข้อคิดให้กำลังใจ #ปรัชญาชีวิต
โฆษณา