16 ต.ค. 2023 เวลา 04:15 • ท่องเที่ยว

12/08/2023

บ้านกุ๊บกั๊บ - ผาสามเหลี่ยม
11/08/2023 ขับรถเริ่มเดินทางจากกทม. เที่ยงวันถึง The White House เชียงใหม่ 20:30 PM ดื่มด่ำฟังเพลงเก่า "อย่าหยุดยั้ง" กับ เหล้าบาเรน...ที่เจ้าบ้านจัดไว้ รู้ตัวอีกทีตีหนึ่ง ถึงบ้านนอนตีสอง ตื่นตีสี่เพื่อ!!! เพื่อจะไปเดินเทรลเพราะนัดกับพรานเจ้าถิ่นคนเก่งไว้แล้ว (อาจารย์ท่านนึง ตัวย่อ...แมว) จุดมุ่งหมาย ห้วยกุ๊บกั๊บ ผาสามเหลี่ยม +25กิโลเมตร ความชัน +1,600...
กว่าจะลากสังขารถึงจุดเริ่มต้นได้ บอกได้คำเดียวง่วง!!! ปกติถ้ามาเที่ยวคนส่วนใหญ่ที่ไม่เน้นความทรมาน จะจ้างรถ 4×4 ของชาวบ้านในการขึ้นไปเที่ยวค้างอ้างแรมที่บ้านกุ๊บกั๊บ แล้วค่อยเดินขึ้นผาสามเหลี่ยมอีกประมาณ 3กิโลเมตร (มั้ง) ความชัน +800
แต่กับทีมงานเราบ้าพลัง บวกกับอยากเก็บเกี่ยวความสุขระหว่างทาง ก็เลยทรมานตัวเองด้วยการเดินเท้าผ่านทางน้ำตกลัดเลาะตามไหล่เขา บุกป่าฝ่าดงดันเนินกันยาวๆไป กว่าจะถึงหมู่บ้าน 15กิโลเมตร (ถ้าเดินขึ้นทางรถ 4×4 = 5 กิโล)
ระหว่างทางก็มีเรื่องราวให้พูดคุยกันมากมาย ในช่วง 5 กิโลเมตรแรกเพราะยังพอมีแรงเหลือเดินไปคุยไป...ได้ความว่า แก่ตัวไปจะทำยังไงกัน, อยู่บ้านพักคนชรากันไหม, หรือเราจะไปรวมตัวกันอยู่ที่ไหนสักที่ แล้วต่างคนต่างดูแลกัน อีกคนทำกับข้าว อีกคนจ่ายตลาด.... ฟังดูดราม่ามาก555 เดินฟังเสียงน้ำตก เสียงนก เสียงของธรรมชาติที่ยังอุดมสมบูรณ์ดีกว่า เป็นการรักษาจิตใจได้อย่างดีงาม
เดินทางเส้นนี้ สิ่งที่ควรระวังก็คงเป็นความลื่นของหินตามน้ำตก เพราะตัวผมเองก็เกือบร่วงแล้วนั่นเอง โชคยังดีที่ลื่นแล้วหาที่เกาะได้ ไม่งั้นน่าจะมีอะไรหัก เพื่อนที่ไปด้วยกันยังคงจำภาพติดตาตรึงใจ เพราะถ้าเราร่วงจากน้ำตกลงไปเพื่อนบอกคงเลิกเดินเทรลไปตลอด เพราะรู้สึกผิดที่พาเรามา...อยากจะบอกคุณเพื่อนว่า....อย่าคิดมาก คุณมึงไม่เกี่ยวครับ ผมพลาดเอง5555
ดันเนินกันยาวๆไปผมกับเพื่อนเดินคุยกันไปสนุกสนาน คุณแฟนผมผู้อยากทำ challenge เพราะรู้สึกว่าถ้าเดินแค่สิบกิโลมันไม่น่าจะเหนื่อยนะ รู้สึกว่าไม่พอ....สุดท้าย เดินบ่นตลอดทาง เหนื่อย พอแล้ว หมด5555 กว่าจะถึงหมู่บ้านกุ๊บกั๊บ...วิวบนหมู่บ้าน สวยมาก น่ามาค้างอ้างแรมที่สุดพอดีผมไปถึงเที่ยงแล้วเลยไม่ได้ถ่ายรูปสวยๆไว้ให้ดู
นั่งพักกินน้ำที่ร้านในหมู่บ้าน ก่อนเดินช่วงสุดท้ายที่สุดแสนทรมาน พรานแมวเรียก ดงต้นสนแห่งนรก ที่ดูเหมือนไม่มีวันสิ้นสุด เป็นช่วง3 กิโลเมตรที่โครตทรมานขึ้นจนท้อ แต่ก็ส่ะใจดี นรกจริงๆคงเป็น200เมตรสุดท้ายก่อนถึงผาสามเหลี่ยม ตรงนี้น่าจะใช้คำว่าปีนได้เต็มปาก ชันหน้าตั้งเลยทีเดียว มันเป็น 200เมตรที่คนเป็นแพนิค อย่างผมต้องใช้ใจมากกว่าแรงกายในการเดินขึ้นเพราะมันหายใจไม่ออก มือสั่นขาสั่นเหมือนจะเป็นลม ไม่ได้กลัวความสูงแต่กังวลว่าร่างกายจะหมดแรง
บนยอดสูงสุดสามารถมองได้ 360องศา ลมแรง เย็นสดชื่นแต่ก็ไม่ได้หายเหนื่อย เดินมามากกว่าครึ่งวันอยู่ 10นาทีต้องรีบลง เพราะไม่อยากวิ่งลงเขาตอนมืด....
ลงจากผาสามเหลี่ยมถึงหมู่บ้านตกลงกันว่าจะวิ่งลงจะได้จบตามที่ตั้งใจไว้ระยะทางวิ่งลงเส้นที่รถ 4×4 ใช่ประมาณ 5โลลงอย่างเดียว....จัดแบบยาวๆไปกับแรงที่จะหมดแล้วจากการอดนอน และดันเดินมากว่า 9ชั่วโมง พรานของเรา จารย์แมว วิ่งลงไปถึงก่อนส่วนผมวิ่งทิ้งแฟนเหมือนเคย (แต่ยังมองเห็นกันอยู่) พรานยืมรถมอเตอร์ไซด์ชาวบ้านขับขึ้นมาส่องไฟให้ประมาณ 1กิโลก่อนถึงจุดหมาย เพราะกลัวงู..สุดท้ายก็เจอจริงๆ พรานเจอลูกทีมไม่เจอ..
จบไปด้วยดีใช้เวลากลมๆไปที่ 10ชั่วโมงเต็ม
ถ้าจะให้สรุปทริปนี้สำหรับคนเดินเล่น วิ่งเทรลนิดหน่อยอย่างผมก็จะประมาณว่า...
เส้นทาง ยากดีสนุก
ความชัน ส่ะใจ
ความสวย 10/10
ข้อคิด "ที่บอกหมดแรงไม่ใช่ร่างกาย แต่เป็นจิตใจ"
โฆษณา