16 ต.ค. 2023 เวลา 11:12 • ท่องเที่ยว
ภูเขาฟุจิ

ลุยปีนเขาฟูจิโต้รุ่ง ในวันหยุดยาวฤดูร้อนญี่ปุ่น FUJI 2023

สวัสดีครับ เพื่อนๆชาว blockdit หลังจากที่ได้ไปปีนภูเขาไฟฟูจิ ในวันที่ 11 สิงหาคม ที่ผ่านมา จึงอยากมาแชร์เรื่องราวการเดินทางให้ฟัง (อุปสรรคเยอะมาก)
ซึ่งวันที่ 11 สิงหาคม 2023 ที่ผ่านมา ถือเป็น"วันแห่งภูเขา"ของประเทศญี่ปุ่น และเป็นช่วงหยุดยาวฤดูร้อนของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย จะร้อนมากที่สุดช่วงเดือนสิงหาคมทำให้สามารถปีนขึ้นยอดฟูจิซังได้แต่เดือนตุลาคมช่วงที่ผมลงบทความนี้จะเข้าหน้าหนาวแล้ว เริ่มได้เห็นยอดฟูจิซังมีหิมะเกาะบนยอดแล้วครับซึ่งช่วงนี้ไม่นิยมปีนเขาแล้วเพราะหนาวและอันตรายต่อร่างกายมาก
ไม่รอช้า จะรีบเล่าเป็นรูปแบบไทม์ไลน์เลยแล้วกัน...
ผมและกลุ่มเพื่อนเดินทางตั้งแต่เช้าของวันที่ 11/8/23 ประมาณ 10 โมงเช้า จากเมืองที่ผมอยู่ ชื่อว่า yaizu จังหวัด shizuoka ไปลงสถานีของเมือง ฟูจิ
สถานีรถไฟเมือง yaizu
จากสถานีเมือง ฟูจิ เปลี่ยนสายรถไฟ ไปลง เมือง fujinomiya อีกทีนึง
สถานีเมืองฟูจิ
เมื่อถึงเมือง fujinomiya จึงออกจากสถานีรถไฟ ก็สิ้นสุดทางในเมือง จากนั้นจึงต่อบัส เพื่อเดินทางไป ขึ้นเขาฟูจิครับ
ไปต่อที่สถานีรถบัส เมือง fujinomiya
ต้องบอกก่อนว่า ทางขึ้นภูเขาไฟฟูจิ มีอยู่ด้วยกัน 4 เส้นทางคือ โยชิดะ, ฟูจิโนะมิยะ, สุบาชิริ และ โกเท็มบะ
เส้นทางที่จะขึ้นในครั้งนี้คือ เส้นทางฝั่ง ฟูจิโนะมิยะ
เดินทางในเมืองยิ้มแย้มแจ่มใส
ซื้อตั๋วรถบัสเสร็จรอไม่นานนัก จึงนั่งบัสกันต่อเลยครับ นั่งยาวเลยรอบนี้
ได้ตั๋วแล้วรอขึ้นบัสกัน
บ่าย 3 ของวันที่11/8 มาถึงแล้ว สำหรับจุดขึ้นเขา สถานีที่5 ตรงจุดนี้ เป็นจุดจอดรถบัส ที่เปลี่ยนเสื้อผ้า ห้องน้ำ และร้านค้า และร้านค้าที่นี้ขายสินค้าแพงมากครับ ผมซื้อของเพียง น้ำเปล่าขวดใหญ่1 ขนมปัง 2 มาม่าคัพ 1 รวมทั้งหมด 1400 เยน แต่ถ้าซื้อสินค้าทั้งหมดนี้ที่มาร์ทในเมือง ผมจะเสียแค่ ราวๆ 500-600 เยน พลาดมาก😑
จุดจอดบัสชั้นที่5 ที่เปลี่ยนเสื้อและร้านค้า
เปลี่ยนเสื้อผ้าตรงนี้เสร็จ หาของกินรองท้อง
พร้อมปีนแล้วววววว
ทีมปีนฟูจิ
ก่อนขึ้นปีนเขา จะต้องชำระค่าธรรมเนียมขึ้นเขา 1000 เยน
จุดชำระค่าขึ้นปีนเขา
หลังชำระค่าธรรมเนียมแล้วจะได้ของที่ระลึกมาครับ
บัตรผ่านและของระลึก
โอเค พร้อมแล้ว ไปกันเลยยยย
โดยสถานีที่5นี้ เริ่มต้นที่ความสูง 2400 ม. อากาศค่อนข้างหนาวเย็นเลย ซึ่งต่างจากในเมืองที่อากาศร้อนมากในช่วงเวลาเดียวกัน
พร้อมออกเดินทาง
เริ่มการเดินทาง.....
บรรยากาศการเริ่มปีนเขา
เส้นทางที่เดินขึ้นในวันนี้ ส่วนใหญ่เป็นหิน ทราย และกรวด
สภาพทางเดินเขา
16:02 เดินทางถึงสถานีที่ 6 แวะพักกันหน่อย
พักแปบจ้า
แต่ละสถานี คือจุดแวะพัก มีร้านค้า และเป็นที่พักสำหรับ ลูกค้าที่จองไว้ล่วงหน้า
ร้านค้าสถานีที่6
ราคาน้ำ ถือว่าแพงจากปกติเลยครับ ถ้าตู้ปกติที่ตั้งในเมืองราคาจะอยู่ราวๆ 110-150 เยน
ตู้กดน้ำบนสถานีที่6
พักกันแล้วเดินทางต่อเลยย
ระหว่างทางขึ้นไปสถานีที่7 (1)
อากาศกำลังดี ครับ เย็นๆ แต่ยังสบายอยู่
ระหว่างทางไปสถานีที่7 (2)
วิวดีอ่ะ เก็บรูปแปบ😄
18:15 ถึงแล้วสถานีที่ 7
สถานีที่7
สถานีนี้ อยู่ที่ความสูงระดับ 3010 หนาวลงจริงจังแล้ว
พักเติมพลังแปบ
หายเหนื่อยแล้ว เดินทางต่อกันเลย
ป้ายเตือนระหว่างทางไปสถานีที่8
เดินไปกินลมไปไม่รีบ
ตะวันเริ่มลับฟ้าแล้วสิ
19:02 สถานีที่8
สถานีที่8
ความสูงสถานีนี้ ที่ระดับ 3250 ครับ
ตะวันตกดิน ณ สถานีที่8
รีวิวการเดินขึ้นมาชั้นนี้สักนิด การเดินทางจากสถานี7 มา 8 นี้ เริ่มหายใจลำบากมากขึ้นครับ เนื่องจาก ระดับความสูงที่เพิ่มขึ้น ความกดอากาศต่ำ ระหว่างที่เดินมารู้สึกเหนื่อยง่าย และเวียนหัวเป็นบางช่วง ต้องพักบ่อยขึ้น และอากาศที่หนาวเย็นลงบวกกับลมพัด ชั้นนี้เลยต้องใส่เสื้อกันหนาวเพิ่มเปลี่ยนกางเกงให้หนาขึ้น และเตรียมไฟฉายครับ
และหากใครมีปัญหาเรื่องการหายใจ ส่วนใหญ่จะพกออกซิเจนมาเสริมครับ
เดินทางต่อกันเลย
ออกจากสถานีที่8 ได้สักพัก ฟ้าเริ่มมืดสนิท และต้องเดินไปต่อพร้อมฝ่าความมืดมิด
ระหว่างทางไปสถานีที่9 (1)
ระหว่างทางไปสถานีที่9 (2)
เดินไปหืดจับไปครับสำหรับการเดินไปต่อกลางความมืดมิดนี้
20:28 สถานีที่ 9
สถานีที่9
มาถึงสถานีนี้ ไม่ค่อยมีนักปีนเขาเดินกันแล้ว เพราะแวะพักตามสถานีต่างๆ ที่จองไว้
ส่วนกลุ่มผมนั้น ไม่ได้จองครับ !!!
ไม่ได้จองจึงเข้าพักไม่ได้
จึงตัดสินใจว่าจะพักตามริมทางนี่แหล่ะ
แต่..แต่ ก็ยังไม่รู้ตัวกัน ว่าอุปสรรคใหญ่ จะพัดเข้ามาต่อจากนี้!
ไม่มีที่พัก และยังไม่รู้จะพักไหน จึงเดินทางต่อหลังจากนั่งพักครับ
21:39 สถานี 9.5
ป้ายเตือนห้ามส่งเสียงดัง
ถึงสถานีนี้ เริ่มเหนื่อยล้ากันหมดแล้ว จึงตัดสินใจจะงีบพักสถานีนี้กัน เอาละ หาทำเลกันเลยย
อุปสรรค!! ...
หลังจากกลุ่มผมต่างคนต่างหาทำเลได้แล้วจึงพักสไตล์ตัวเองกัน
ณ จุดนี้ก็เหมือนทุกอย่างจะดี เดินมาไกลก็พักหน่อย
ทุกคนต่างเตรียมตัวกันมาครับ เพราะรู้ว่าอาจจะต้องนอนค้างคืน บางคนก็เตรียมถุงนอน บางคนก็ผ้าหนาๆ
แต่แล้ว....นอนไปสักพักเริ่มไม่ไหวเพราะอากาศที่ลดลงอยู่ที่ราวๆ 2-3 องศาหนาวเย็นมากพอที่ทำให้เท้าผมเย็นมากจนชาเท้าและนิ้วเท้าถึงแม้จะสวมผ้าหนาเพียงใด ความหนาวเย็นก็ทะลุทะลวงได้หมดมากพอที่จะทำให้ตัวผมสั่นกระตุกโดยอัติโนมัติ
เพื่อนผมอีกคน ถึงขั้นปวดหัว จนต้องกินยา และแก้ด้วยการลุกเดินไปเดินมาเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น
พยายามหลับกันให้ได้จนประมาณ ตี 1 กว่าแล้ว...
จนที่สุดแล้วผลคือ ไม่มีใครได้หลับเลย! อ่านไม่ผิดและไม่เกินจริงครับ ทุกคนต่างได้เอนกายนั่งพัก นอนพัก แต่ไม่มีใคร หลับลงได้เลย เพราะความหนาวเย็นจัด!
สุดท้ายไหนๆ ก็งีบพักกันไม่ได้แล้ว จึงพร้อมใจกันเดินไปต่ออย่างน้อย ร่างกายก็อบอุ่นขึ้น จากการได้ขยับตัว
แต่อุปสรรคยังไม่จบเพียงเท่านี้..
ในระหว่างทางความเหนื่อยล้ากับความหิวโหยและความหนาวเย็นจนถึงขีดสุดแล้วนั้น
น้องในกลุ่มคนหนึ่ง ก็นั่งลงพร้อมอาการที่บ่งบอกว่า ไม่เอาอะไรแล้ว ใครไปต่อไหวก็ไปเลย ขอทิ้งตัวอยู่ตรงนี้ ไม่สนอะไรแล้ว....
ใช่ครับ ความเหนื่อยล้าถึงขีดสุด สามารถฉุดรั้งคนเราให้หยุดเดินต่อได้จริงๆ
แต่พวกเรามากันเป็นทีมเป็นกลุ่มก้อนฉะนั้น เราจึงต้องเดินต่อไปด้วยกัน...
จึงต่างให้กำลังใจกัน ว่าเหลือระยะทางอีกนิดเดียวแล้ว พยายามอีกนิดเดียว
แล้วจึงให้น้องนั่งกินขนมปัง ชอกโกแลต เครื่องดื่มชูกำลัง ให้น้องนั่งพัก โดยไม่เร่งรีบ เพราะเรามาก่อนเวลา ไปทันตะวันขึ้นแน่นอน
ได้ผลครับ หลังจากที่ได้นั่งพักกินเพิ่มพลังกัน ให้เวลาน้องได้ชาร์จพลังกาย พลังใจเสร็จ จึงกลับมาพร้อมลุกเดินไปต่อได้อีกครั้ง
ฮึบ ลุกมาได้แล้ว😄
อีกนิดเดียวแล้ว
ประตูแห่งเส้นชัยยย
3:00 ถึงยอด
และแล้ว ก็ถึงยอดฟูจิ ประมาณตี3 ครับ ซึ่งขนาดนั้นยังมืดอยู่ กลุ่มผมจึงหาที่กำบังลม นั่งเป็นกลุ่มก้อนต่อสู้ลมหนาว
รอเวลา.....
4:36 แสงแรกของวันใหม่ 12/8/23
รอตะวันขึ้นกันอย่างใจจดใจจ่อ
เริ่มสว่างทีละนิดๆ
สว่างพอได้ภาพสวยๆหนึ่งช็อต
ยืนชมวิว จุดนี้อยู่พักใหญ่จนถึงประมาณ ตี 5 เริ่มสว่างแล้วจึงชมดูส่วนอื่น
บริเวณปากปล่องภูเขาไฟฟูจิ
ปากปล่องภูเขาไฟฟูจิของจริงใหญ่มากกก
ศาลเจ้าไว้ขอพรบนยอดภูเขาไฟ
เที่ยวชมเสร็จร้านค้าบริเวณบนยอดเขามี่มีอยู่เพียงหนึ่งร้านโดดๆ นั้นเปิดพอดี เป็นร้านที่อบอุ่นมาก เพราะกันลมหนาวบนยอดเขาได้ดี
คนแห่เข้าร้านกันแล้ววว
จุดนี้ราคาสินค้ายิ่งสูงไปเยอะเลยครับ มาม่าคัพละ 800 เยน
เป็นมื้อเช้าที่อร่อยมาก
6:00 เดินทางลงเขา
เริ่มลงเขา
แวะเก็บบรรยากาศตอนเช้าๆ
แวะนั่งพักแปบ
เดินไปถ่ายไปบรรยากาศดีจริงๆ
ขาลงเขาก็เหนื่อยเช่นกันครับ เดินยาก บางคนถึงกับลื่น บางคนก็ขาอ่อน จนทรุดเลยก็มี
ยอมรับเลยครับว่าหลังจากนั้น ปวดข้อปวดเข่ามาก เส้นตึง นั่งยองมานี่ ปวดทั้งน่องขาส่วนบนและล่างหมดเลย
สวยยย
ส่วนผมนะเหรอ ตอนที่นั่งเขียนเรื่องราวนี้อยู่ ยังปวดไม่หายเลยครับ😂
อ้อ เกือบลืมไปเลย
ท่อนไม้แห่งความทรงจำ
ท่อนไม้นี้คือ ท่อนไม้เก็บเป็นที่ระลึก ไว้ประทับหลักฐานการไปถึงแต่ละสถานีครับ เป็นตราประทับที่เผาไฟให้ร้อนแล้วประทับลงไปบนไม้ ไปถึงแต่ละสถานี ก็ประทับเก็บไว้
และไม้ตัวนี้จะมีขายตั้งแต่ สถานีที่6 เลย ท่อนละ 1000 เยน และค่าประทับแต่ละจุด แต่ละสถานี จุดละ 200 เยน
เพื่อเก็บไว้ระลึกว่า เคยลำบากขนาดไหน กว่าจะเก็บตราประทับแต่ละจุดจนครบ เห็นเมื่อไหร่รู้สึกหนาวเย็นขึ้นมาเลย เกือบหนาวสิ้นชื่ออยู่บนฟูจิซะแล้ว 😂
ท้ายนี้ การเดินขึ้นเขาฟูจิครั้งนี้ สำหรับบางคนพอไปถึงยอดฟูจิก็เสียดาย เพราะคิดว่าวิว ก็งั้นๆ ไม่เห็นว้าว อย่างที่คาดหวังเลย
แต่สำหรับผม ถือเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมมากครับ
ผมได้ทดสอบตัวเองทั้งศักยภาพ ร่างกายและจิตใจตัวเอง การอดทนถึงขีดสุดเพื่อไปให้ถึงปลายทางที่ตั้งไว้
มิตรภาพการช่วยเหลือ การให้กำลังใจกัน การแบ่งปันสิ่งที่มีอย่างหวังดี
บรรยากาศและสถานการณ์ที่พบเจอระหว่างทางมันให้อะไรมากกว่าการไปถึงปลายทางซะอีก
jolie
โฆษณา