17 ต.ค. 2023 เวลา 07:15 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

มาร์ติน สกอร์เซซี เกลาบท Killers of the Flower Moon ใหม่ ให้เล่าจากชนพื้นเมืองแทนที่จะเป็นคนขาว

อีกไม่กี่วัน ที่ผลงานล่าสุดของผู้กำกับ ฯ มาร์ติน สกอร์เซซี หนังอาชญากรรมมหากาพย์อย่าง Killers of the Flower Moon จะเข้าฉาย เพื่อบอกเล่าหน้าประวัติศาสตร์ที่ไม่เคยถูกตีแผ่ของความโหดร้ายจากคดีฆาตกรรมชาวโอเสจในช่วงยุค 1920 และเป็นจุดกำเนิดของสำนักงานสอบสวนกลาง หรือว่า FBI นั่นเอง ซึ่งเนื้อหาเรื่องราว ดัดแปลงจากหนังสือในชื่อเดียวกันของ เดวิด แกรนน์
โดยล่าสุด อ้างอิงจากบทสัมภาษณ์ใน The Irish Times ด้านผู้กำกับ ฯ สกอร์เซซี่ ก็ได้เผยถึงความพยายามดัดแปลงเรื่องราวจากหนังสือ ซึ่งพยายามให้น้ำหนักกับการก่อตั้งสำนักงานสอบสวนกลางฯ ผ่านการสืบสวนคดีฆาตกรรมชาวโอเสจ สกอร์เซซี่ ที่ใช้เวลาดัดแปลงไปกว่าสองปี กลับค้นพบร่วมกับนักแสดงนำอย่าง ลีโอนาร์โด้ ดิคาร์ปริโอ ว่า เนื้อหาแก่นแท้ของเรื่องราวนี้ ไม่ควรถูกบอกเล่าจะมุมมองคนขาวเสียทีเดียว
“พอถึงจุดหนึ่ง ผมก็ตระหนักได้ว่า ผมกำลังทำหนังที่เกี่ยวกับคนขาวแทบทั้งสิ้น ถ้าให้ขยายความ ผมหมายถึงผมกำลังนำเสนอจากข้างนอกสู่ภายใน ซึ่งทำให้ผมกังวลใจ”
“ตัวผมและมือเขียนบทร่วม อีริค รอธ คุยกันถึงการเล่าเรื่องราวจากมมุมองของเจ้าหน้าที่รัฐฯ ที่ก้าวเท้าเข้ามาสืบสวน จนกระทั่งสองปีในการเขียนบทผ่านไป ลีโอเข้ามาพูดกับผมและถามว่า ‘อะไรคือหัวใจของเรื่องนี้?’ ซึ่งผมเคยนั่งหารือและทานข้าวกับชาวโอเสจ และผมก็คิดได้ ‘นี่แหละคือเรื่องราว’ เรื่องราวที่แท้จริงที่เรารู้สึก ไม่จำเป็นต้องเล่าจากภายนอก จากมุมของรัฐฯ แต่ควรจะมาจากภายใน จากรัฐโอคลาโฮมา” สกอร์เซซี่ กล่าว
ซึ่งในทีแรก ลีโอนาร์โด ดิคาร์ปริโอ เข้าชื่อเตรียมรับบทเป็น ทอม ไวท์ เจ้าหน้าที่สืบสวนกลางที่เข้ามารับหน้าที่สอบสวนคดี ก่อนที่การเกลาบทจะเปลี่ยนน้ำหนักและพลวัตเรื่องราวโดยรวม ไปเล่าในมุมมองของ เออร์เนสต์ และ มอลลี่ เบิร์คฮาร์ท (รับบทโดย ดิคาร์ปริโอ และ ลิลี แกลดสโตน) ซึ่งเป็นศูนย์กลางของเรื่องราวในฉบับแทน ส่วน ไวท์ กลายเป็นตัวละครสมทบที่ได้ เจสซี พลีมอน มารับบทแทน
การตัดสินใจเปลี่ยนมุมมองของบท มาเล่าผ่านแง่มุมของชนพื้นเมืองโอเสจ ทำให้ สกอร์เซซี ตัดสินใจเข้าหาพูดคุยกับสมาชิกของชุมชนเกรย์ฮอร์ส ของโอเสจเคานท์ตี้ ในรัฐโอคลาโอมากว่า 300 คน เพื่อทำความเข้าใจ ทั้งทัศนคติและมุมมองของเหตุการณ์ดังกล่าว ที่จะได้นำเสนอออกมาใน Killers of the Flower Moon อย่างถูกต้องและให้เกียรติชาวโอเสจ
“ผมพูดเสมอว่า ถ้าผมต้องได้ร่วมทำงานกับอะไรก็ตาม ที่เกี่ยวข้องกับชนพื้นเมือง ผมควรจะรู้ว่าพวกเขาเป็นคนแบบไหน หรืออย่างน้อย รู้สึกสบายใจกับพวกเขาในฐานะมนุษย์ด้วยกัน และนั่นคือสิ่งที่เกิด ตอนผมได้เจอกับหัวหน้าเผ่าครั้งแรก ผมตระหนกเลย จนพวกเราเดินเข้าไปในออฟฟิศและก็เริ่มพูดคุยกัน ผมคิดว่า สิ่งที่พวกเขาต้องการจากผม คือการรู้ว่าผมจะไม่ได้มาเอาเปรียบเขา จะไม่ทำให้เรื่องราวออกมาโลดโผนจนเกินไป โดยเฉพาะการนำเสนอที่ชาวโอเสจตกเป็นเหยื่อ โดยเฉพาะความรุนแรงที่เกิดขึ้น”
“ผมรู้ว่า มีผู้คนในชุมชนบอกว่า พวกเขาเคยได้ดูหนังแบบ Silence และพวกเขารู้สึกว่ามันมีหัวใจอยู่ในนั้น ซึ่งผมขอพูดแบบลังเลนะ แต่พวกเขารู้สึกได้ว่า พวกเขาสามารถเชื่อใจคนขาวได้ ซึ่งผมก็พยายามอย่างยิ่ง เพื่อจะตอบสนองต่อความเชื่อใจนั้น ซึ่งมันไม่ได้ง่ายเลย แต่ผมก็รู้สึกสบายใจมากในการทำงานร่วมกับพวกเขา ผมได้พึ่งพาพวกเขา โดยที่พวกเขาจะบอกผมถึงบางอย่าง โดยที่ผมก็จดไว้และนำไปใส่ในบทหนัง” สกอร์เซซี่ กล่าว
นอกเหนือจากการนำเสนอเรื่องราวผ่านมุมมองของชนพื้นเมืองแล้วนั้น เพื่อนำเสนอเรื่องราวหน้าประวัติศาสตร์เยี่ยงมหากาพย์ ตัวหนัง Killers of the Flower Moon จึงมาพร้อมความยาวเต็มเหยียดถึง 206 นาที หรือ 3 ชั่วโมง 26 นาที โดยที่ สกอร์เซซี่ ไม่ได้กังวลเรื่องความยาวของหนังเลยแม้แต่น้อย
แต่การคุมจังหวะเล่าเรื่องราวจึงสำคัญไม่แพ้กัน ซึ่ง สกอร์เซซี่ ก็หยิบยกหนังของผู้กำกับฯ อาริ แอสเตอร์ อย่าง Midsommar และ Beau Is Afraid เป็นแรงบันดาลใจในการควบคุมและกำกับจังหวะเล่าของเรื่อง อีกทั้งการใส่ฉากและเนื้อหาที่สอดแทรกซึ่งวัฒนธรรมของชาวโอเสจ จะช่วยเปิดกว้างโลกทัศน์และพาคนดูเข้าสู่เรื่องราวอันสะเทือนใจได้มากยิ่งขึ้น
“คนอาจจะบอกว่ามันยาวสามชั่วโมง แต่ให้ตาย คุณนั่งอยู่หน้าทีวีและดูอะไรสักอย่าง 5 ชั่วโมงก็ยังได้ แถมก็ยังมีอีกหลายคน ที่ดูละครเวทียาว สามชั่วโมงครึ่ง โดยมีนักแสดงจริง ๆ อยู่บนเวที และคุณไม่สามารถลุกหนีหรือเดินไปไหนได้ คุณให้เกียรติมันแบบนั้น ฉะนั้นจงให้เกียรติภาพยนตร์บ้าง”
“ส่วนตัวผมชอบสไตล์และจังหวะการเล่าของหนังสยองขวัญดี ๆ แบบหนังของอาริ แอสเตอร์ อย่าง Midsommar และ Beau Is Afraid มาก จังหวะการเล่าเรื่องของหนังพวกนั้น อาจย้อนไปถึงหนังเกรดบีแบบ Val Lawton, Cat People ของ จาร์ค ทูร์เนอร์ หรืออย่าง I Waked With a Zombie เลยด้วยซ้ำ ที่เราเล่าเรื่องราวไปอย่างช้า ๆ และเงียบงันลงหน่อย”
“ผมเคยกังวลมาก ในการอนุญาตถ่ายทำฉากที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา แต่มันเป็นฉากที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมชาวโอเสจ ทั้งการปล่อยให้ฉากที่แสดงถึงประเพณีเหล่านั้น การตั้งชื่อ พิธีศพ หรือกระทั่งงานแต่งงาน อยู่ในเรื่อง ดังนั้นเราจึงเริ่มที่จะเข้าใจผู้คนได้ขึ้นมานิดนึง”
“ผมจึงรู้สึกมั่นใจว่า มันยังมีผู้คนมากมายที่ยอมปล่อยตัวเองดำดิ่งเข้าไปสู่โลกของหนังเรื่องนั้น และมันต้องมีสักคนที่ยอมเสี่ยงเพื่อโอกาสเหล่านี้ แถมด้วยอายุปูนนี้แล้ว ผมจะทำอะไรได้อีก?” สกอร์เซซี่ กล่าวทิ้งท้าย
Killers of the Flower Moon กำกับโดย มาร์ติน สกอร์เซซี่ จากบทที่ดัดแปลงร่วมกับ อีริค รอธ (“Forrest Gump” และ “A Star Is Born”) นำแสดงโดย ลีโอนาร์โด้ ดิคาร์ปริโอ, โรเบิร์ต เดอนีโร, ลิลี แกลดสโตน, เจสซี พลีมอนส์, ทันทู คาร์ดินัล, คารา เจด ไมเยอร์ส, จาเน คอลลินส์, จิลเลียน ดีออน, แบรนเดน เฟรเซอร์, จอห์น ลิธโกว์, วิลเลียมส์ เบลลูว, ลูอิส คันเซลมิ, เจสัน อิสเบล, สเตอร์จิล ซิมป์สัน, ทาทันก้า มีนส์, แพท ฮีลลีย์, สก็อตต์ แชพเพิร์ด และ แกร์รี่ บาซาราบะ
Killers of the Flower Moon มีกำหนดฉายในไทย 19 ตุลาคม 2023
โฆษณา