17 ต.ค. 2023 เวลา 23:30 • หุ้น & เศรษฐกิจ

Gigi Hadid กรี้ดหน่วยงานอิสราเอลแท็ก IG ด้านชาวโลกหวั่นสงครามลุกลามเศรษฐกิจถดถอย

จากเหตุการณ์โจมตีอิสราเอลจากกลุ่มฮามาสและการโต้กลับของอิสราเอลตั้งแต่สัปดาห์ก่อนหน้านี้ ส่งผลให้มีการเคลื่อนกำลังเข้าไปตบตีกันในเขตกาซ่า ทำให้เกิดความสูญเสียทั้งต่อชีวิต ทรัพย์สิน และผู้บาดเจ็บมากมาย
จนทำให้ซุปเปอร์โมเดล Gigi Hadid อดรนทนไม่ไหว ออกโพสอินตราแกรมแสดงจุดยืนในการตำหนิรัฐบาลอิสราเอลเรื่องการดูแลกลุ่มคนชาวปาเลสไตน์ ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานหน่วยงานอิสราเอลก็ได้ตอบโต้นางแบบสาวพร้อมทั้งแท็กไอจีด้วยข้อความร้อนแรง เรียกได้ว่าดุเดือดตั้งแต่ฉนวนกาซ่าจนถึงฮอลลีวูดเลยทีเดียว
แต่ ดบสท. ขอพักจากดราม่านี้ เชิญชวน พส. นส. มามองในมิติเศรษฐกิจที่อาจได้รับผลจากความขัดแย้งอันนี้ ซึ่งทาง Bloomberg ก็ได้คาดการณ์ผลกระทบออกมาคร่าวๆ เป็นทาง 3แพร่งคือ สงครามปิด, สงครามตัวแทน หรือจะเป็นสงครามจริงๆที่เลยเถิดไปถึงอิหร่าน หนึ่งตัวพ่อหัวรบนิวเคลียร์
ซึ่งบอกก่อนเลยว่าทั้ง3แพร่งนี้ ทิศทางจะเป็นแนวเดียวกันคือ ราคาน้ำมันเพิ่ม เงินเฟ้อเพิ่ม และการเติบโตทางเศรษฐกิจลดลง แต่ความต่างของแต่ละแพร่งคือความรุนแรงที่จะเกิด
มา! แพร่งที่ 1 สงครามแบบปิด คือมีการรบกันอยู่แค่ในกาซ่า คล้ายๆกับตอนปี 2014 ที่มีการลักพาตัวและสังหารชาวอิสราเอลสามคนโดยกลุ่มฮามาส จนนำไปสู่การนำกำลังบุกเข้าไปในกาซ่า ทำให้มีคนตายมากกว่า 2000 คน
1
แต่ตอนนั้นมันไม่ได้ลุกลามออกไปนอกดินแดนปาเลสไตน์ และไม่ได้ส่งผลต่อราคาน้ำมันและเศรษฐกิจโลก คราวนี้เหตุการณ์ปัจจุบันที่คนตายทะลุสองพัน ผสมกับการคว่ำบาตรจากอเมริกาที่จะเข้มข้นขึ้นต่อการผลิตน้ำมันของอิหร่าน
ซึ่งปีนี้อิหร่านได้เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 7แสนบาเรลต่อวัน หากโดนแบนจากเมกา ก็คงทำให้ราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นอีก 3-4 เหรียญต่อบาเรล แต่ผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกน่าจะยังไม่มาก เพราะซาอุดิอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตสามารถมาผลิตชดเชยน้ำมันในส่วนที่หายไปจากอิหร่านได้
แพร่งที่ 2 สงครามตัวแทน คือ ความขัดแย้งกระจายไปสู่ประเทศข้างเคียงอย่างเลบานอนและซีเรีย เกิดเป็นสงครามตัวแทนระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านที่เสมือส่งเลบานอนกับซีเรียมาสู้แทน
ความเป็นไปได้ของสถานการณ์นี้ก็ยังมีอยู่ เพราะตอนนี้กลุ่มอิสบอลเลาะ ซึ่งก็ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ได้มีการตีกันกันกับอิสราเอลตรงเขตชายแดน และถ้าความขัดแย้งนี้มันเริ่มลามปามไปถึงเลบานอนและซีเรียซึ่งทั้ง2ประเทศก็ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านด้วยเหมือนกันเนี่ย มันก็จะเกิดเป็นสงครามตัวแทนระหว่างอิสราเอลและอิหร่านได้ในที่สุด (สุดท้ายอิสราเอลก็ตัวแทนฝั่งโลกตะวันตกแหละเนอะ)
1
โดยแพร่งนี้ จะส่งผลให้ราคาน้ำมันสูงขึ้นไปได้อีก 10% เลยทีเดียว นอกจากนี้ความตึงเครียดยังอาจแพร่ไปถึงชาติอาหรับอื่น ส่งผลให้มีการประท้วงต่อต้านอิสราเอล จนอาจนำไปสู่การต่อต้านรัฐบาลในประเทศเหล่านั้น เหมือนที่เคยเกิดอาหรับสปริง ในช่วงปี 2010 ก็เป็นได้
ดังนั้นผลกระทบต่อเศรษฐกิจในแพร่งที่สองนี้ เกิดได้จากทั้งราคาพลังงานที่สูงขึ้น และความวุ่นวายทางการเมือง และจะส่งผลให้ GDP โลก ลดลง 0.3% มาอยู่ที่ 2.4% ซึ่งจะเป็นGDP ที่ต่ำสุดในรอบสามสิบปี แย่ยิ่งกว่าตอนโควิด หรือวิกฤตซับไพรม์ซะอีก
ด้านเงินเฟ้อ ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นจะทำเงินเฟ้อโลกเพิ่มขึ้น 0.2% มาอยู่ที่ราวๆ 6% ยิ่งกดดันให้ FED ยังจะขึ้นดอกเบี้ยต่อได้ ส่งผลให้การเติบโตทางเศรษฐกิจลดลงไปอีก
แพร่งที่ 3 สงครามโดยตรงระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน อันนี้ความเป็นไปได้ยังมีน้อย แต่ถ้าเกิดขึ้นจริงคือ พังค่ะ เพราะเศรษฐกิจจะถดถอยทั่วโลก ราคาน้ำมันจะสูงปรี้ดและราคาหุ้นต่างๆอย่าได้เจ๋อ GDP ตกต่ำและเงินเฟ้อพุ่งทะยาน
แม้แพร่งนี้อาจจะเกิดขึ้นได้ แต่ต้องยอมรับว่าค่อนข้างน้อย เพราะอิฉันเห็นความพยายามของเมกาในการห้ามปรามต่างๆ ขนาดกระทั่งคุณไบเดนต้องแบกสังขารตัวเองมาอิสราเอลเลยทีเดียว ไม่พอรัฐบาลนางก็ออกมาพูดเป็นนัยๆว่า ยังไม่มีหลักฐานนะว่าอิหร่านรู้เรื่องนี้มาก่อน
1
ซึ่งต้องบอกเลยว่าไบเดนคงต้องทำทุกวิธีทางแหละเพื่อไม่ให้มันเลยเถิดมาแพร่งนี้ เพราะอย่าลืมว่าศึกการเมืองในบ้านของนางก็เยอะแยะไปหมด เรื่อง Budget ที่ต้องคุยกับ สส.ฝั่งรีพับลิกันในเดือนหน้าอีก แล้วตอนนี้ตัวเองก็มีค่าใช้จ่ายในการทำสงครามยูเครนอยู่แล้ว จะมีอีกสงครามนึงคงไม่ไหวได้เห็น government shutdown แน่ๆ
ด้านราคาน้ำมันสำหรับแพร่งนี้ จะขึ้นไปที่ 150 usd ต่อบาเรลได้เลย แล้วยิ่งถ้าอิหร่านมาปิดช่องแคบฮอมุซซึ่งเป็นทางผ่านของน้ำมัน 1 ใน 5 ของทั้งโลกที่ใช้ประจำวันด้วยแล้วเนี่ย เราได้เห็นแน่ เงินเฟ้อโลกที่ระดับ 6.7% FED คงต้องเอาเท้าก่ายหน้าผากเลยทีเดียว
Ref
Wider War in Middle East Could Tip World Economy Into Recession
โฆษณา