👣 สัมผัสแรกของสหรัฐอเมริกา2023🇺🇸
🗽ดินแดนที่บอกว่า สิทธิพื้นฐานคือการมีเสรีภาพ เราไม่ได้ทำอะไรมากนักเพราะเครื่องลงช่วงค่ำ
เดินผ่าน Immigration มากับคำถาม2-3 ข้อ มากี่วันครับ? ไปไหนบ้าง? พักแถวไหน? ถามแบบขอแต่ตอบไม่ต้องอธิบายมากเพราะแทบไม่ฟังแล้วเราเลย
ก่อนจะคืนPassport หันมาถามว่าเอาเงินมาเท่าไหร่? เราตอบว่าใช้บัตรเครดิต มีเงินมาแค่ $1,000 กับการอยู่ 2เดือน ตอบเสร็จเค้ายิ้มและยื่น Passport คืนให้ จริงๆ เชื่อว่า Immigration เค้ามี Data แหละ ว่าไปไหนมาบ้าง? คือถ้าถามมา ตอบไป แบบจริงๆ ไม่กะล่อนไม่มีปัญหา
จากนั้นรับกระเป๋าเดินผ่าน Custom ไปรับรถที่จองไว้ด้วยรถไฟฟ้าของสนามบิน SFO ระหว่างทางพบกับครอบครัวพ่อลูกที่มาจากสวีเดน พร้อมด้วยหมาลาบาดอร์สีดำ น่ารักใจดี ลูบหัวอยู่2-3ทีเราก็มาถึงจุดรับรถที่จองไว้ เราลองจอง EV Car มาใช้ดูว่าที่นี่สะดวกจริงมั้ย? เพราะตามแผนจะขับเกือบ 2,000km. อยากรู้ว่าค่าชานไฟจะเป็นเท่าไหร่? ลองตามกันดู
ถึงโรงแรม เช็คอินได้ห้องเรียบร้อยก็ถึงเวลากับการเล่นเตรียม เสบียงไว้เผื่อพรุ่งนี้ เราเลือก Safewayเพราะอยู่ใกล้ ทีเด็ดคือ Cheddar Ham sandwich 😁อร่อยเลอค่ายามดึก พรุ่งนี้ติดตามต่อกับ San Francisco โว โว๊ โว อู เย้ยย 😘🇺🇸🗽🍺
“ซานฟรานซิสโก โฟโต้บายนานา”🌉🇺🇸
☀️แสงตะวันเรืองรอง เช้าวันใหม่ในซานฟรานฯ เมื่อออกเดินทางแต่เช้าเรามักพบกับแสงตะวันที่นวลนุ่ม อบอุ่นของวันใหม่
🚗ระหว่างทาง นานาหยิบกล้องที่ให้ไว้มาถ่ายตลอดทาง เกอดเป็นรููปภาพระหว่างทางที่หลายหลาก จากจินตนาการของนานา
กลับมาเปิดดูแล้วได้เห็น สิ่งที่นานาต้องการจะสื่อ อยากที่จะเล่าเรื่องการเดินทางของเค้าผ่านเลนส์ ภาพที่ถ่ายเต็มไปด้วยความอบอุ่น สดใส จากความรู้สึกของนานา
นานา: สาวน้อยวัย 10 ขวบผู้ชื่นชอบศิลปะ การถ่ายภาพ งอแงบ้างบางเวลา ตามประสา
ในวันที่เราวางแผนจะมา เราได้รับหลากหลายข้อมูลจากทั้งใน Social media ทั้งเพื่อนที่อยู่ที่อเมริกา ทั้งเพื่อนที่เมืองไทย ต่างพูดเป็นเสียงเดียงกันว่า “ระวังโดนทุบรถ” 🚗😱
ว้าวุ่นละครานี้… ไอ้เรามันพวกชอบเช่ารถขับวะด้วย เอาไงหล่ะทีนี้😅 ไม่ต้องสืบไอ้คนแบบเราก็ลุยกันไป ลองดู ยึดคติว่า ถ้าอยากเป็นนักเดินทาง ความท้าทายคือเป้าหมาย ว่าแล้ววันนี้เราก็ออกตัวเข้าไปในซานฟรานแต่เช้า ☀️
จุดหมายแรกเราคือ Goldengate Bridge, San Francisco.🌉
ในมุมมองที่ต่างออกไปจาก 7 ปีที่แล้วที่เคยมา เราเลือกไปที่ Baker Beach - San Francisco, CAเพราะอยากได้ภาพกว้างๆ เห็น Golden gate อยู่ด้านหลัง ระหว่างทางถนนสวยดี ต้นไม้ใหญ่ตลอดสองข้างถนน ทางขึ้นและลงเนินจนเรามาถึง Baker Beach at Golden Gate Bridge
ในใจเราร้องอุทาน โอ้วว ชิดดด ทั้งหมอกลง และลมแรง แต่เมื่อมาถึง อะไรก็หยุดไม่ได้ ทำเนียนบอก แม่ ลูกว่า “ไป… ลองลงไปดู” สองแม่ลูก ออกอาการ “งง” แต่ ก็ยอมลงมาจากรถ ไปยังจุดหมาย และก็ตามคาด หมอกลง ลมแรงมาก อย่าหวังถึง Golden Gate Bridge เลย มองไปที่ทะเลนี่ระยะการมองเห็นไม่น่าเกิน 200 เมตร งานนี้แก้เขินด้วยการชวน นานาถ่ายรูปที่ Baker Beach แทน😅😂 แต่ยังแอบหวังว่าบ่ายจะได้กลับมาใหม่
กลับมาช่วงบ่าย เธอยังคงเล่นตัวนะ แม่ Golden Gate
จากความผิดหวังในการเริ่มต้น เรามุ่งหน้าไปยัง The Painted Ladies หมอกและแสงยังคงเป็นอุปสรรคในวันนี้นานา ถ้าเป็น 7 ปีที่แล้วต้องบอกว่า แสงจัดจ้าน สีบ้านสวยมาก แต่มาถึงแล้ว เราไม่หยุดที่จะลงจากรถมาสดุอากาศดีๆ เคล้ากลิ่นขี้หมาของซานฟรานฯ จนเต็มปอด เราจึงออกจาก The Painted Ladies ไปขับรถเล่นให้เวียนหัวที่ Lombard St. และพุกไปดื่มกาแฟที่ Blue Bottle Coffee รสชาติกาแฟที่นี่ถือว่าเด็ดขาด บาดใจเลยทีเดียว
วันนี้ที่ซานฟรานฯ มีโชว์เครื่องบิน คล้ายๆเป็นการอวดแสนยานุภาพทางอากาส เรากลับไปหาที่ดูอีกครัเงินกะว่า น่าจะเห็นเครื่องบินรบพร้อมกับ Golden Gate Bridge พร้อมเครื่องบินรบ แต่แล้ววันนี้ หมอกไม่ปราณีเราเลย ท้ายสุดต้องจบงานให้ได้ ด้วยการพาน้อง Vajirawich Wongpuvarak และภรรยาไปทานข้าวเป็นการขอบคุณ พร้อมกับเติมความสัมพันธ์ประสาพี่น้อง
การมาซานฟราน ในครั้งนี้ ถ้าถามว่าซานฟรานเป็นยังไง? น่ากลัวมั้ย? อันตรายมั้ย? Homeless เยอะมั้ย?
ซานฟรานเปลี่ยนแปลงไปเหมือนกับเมืองอื่นๆทั่วโลก หลังโควิด มันเปลี่ยนไปจริงๆ ผู้คน การใช้ชีวิต
ส่วนเรื่องน่ากลัว หรืออันตราย มันมีอยู่ทั่วทุกแห่ง อยู่ที่เราว่า มีสติแค่ไหน รู้ตัวแค่ไหน ช่างสังเกต วางแผนหาข้อมูลมามั้ย สุดท้ายคือดวงซวยมั้ย? สำหรับ Homeless เยอะขึ้นจริง แต่เค้าไม่ได้ทำอะไรเราเลยแค่อาจมีพฤติกรรมแปลกๆ ว่ายนิดเดียวก็ช่างแม่งไป
ซานฟรานยังสวยและมีเสน่ห์ ไม่เปลี่ยน ผู้คนต่างหากที่เปลี่ยนไป ตามสภาพเมืองใหญ่เศรษฐกิจดี นักท่องเที่ยวเยอะ หมอกที่บัง Golden Gate bridge อยู่คงจะจางลงในวันนึง
ซานฟราน เธอยังคงมีเสน่ห์มิรู้คลาย
ซิลิคอนแวลลี เวรี่กุ๊ดดด👍
ลืมตาตอนตี5 พร้อมอารมณ์ อึน อึน ดั่ง After shock จากไวน์ของ Napa Valley เมื่อคืนเพิ่มความงัวเงียให้กับเช้าของวัน บางทีการเดินทางที่มีแผนแล้วไม่ทำตามแผนมันก็เป็นความตื่นเต้นไปอีกแบบ ทีแรกเราว่าจะมุ่งหน้าไป อุทยานแห่งชาติโยเซมิติ เลย แต่แอบเสียดายถ้าไม่ได้แวะไป ซิลิคอนแวลลี
Google map ที่ปักหมุดรวมสถานที่ ที่อยากจะไปในโลกใบนี้ กระตุกให้หักพวงมาลัยลงทางตอนใต้ของซานฟรานฯ เราวิ่งบนถนนสาย 82 ไปสักพัก Map ก็บอกให้เลี้ยวเข้าไปยัง Stanford University มหาวิทยาลัยที่ผลิต ผู้คนที่เปลี่ยนแปลงโลกของเราไม่ว่าจะเป็น
- แลร์รี เพจ และเซอร์เกย์ บริน ผู้ก่อตั้ง “Google”
- รีด เฮสติงส์ ผู้ร่วมก่อตั้ง “Netflix”
- เจอร์รี หยาง ผู้ก่อตั้ง “Yahoo”
- วิลเลียม ฮิวเลตต์ และเดวิด แพคการ์ด ผู้ก่อตั้ง “HP”
เรียกว่าเป็นพื้นที่เพาะบ่มคนเก่งของโลกเลย Stanford ตั้งขึ้นปี 1885 บวก ลบ ดูเองว่ากี่ปีแล้ว?
บรรยากาศในมหาลัยน่าเรียนเลยทีเดียว แต่ไม่ปัญญา (ปัญญาจริง ๆ คือสมองไปไม่ถึง) ที่นี่มีทุกอย่างพร้อมจริง ๆ เก็บภาพเป็นความทรงจำดี ๆ อยู่สักพัก นาฬิกาก็บอกเวลาให้เราเดินทางต่อ
เรามุ่งหน้าไปยัง Google HQ เดินเล่นเก็บภาพสักพัก ก็ไปที่ Apple visitor center ที่นี่เรียกว่าเป็นแม่เหล็กดึงดูดคนได้มากเลย มีทัวร์จีนคนะใหญ่ลงมาเหมาซื้อของราวกับว่าแจกฟรี ภายในคล้ายกับ Apple store แต่ที่พิเศษคือมี cafe และมีของที่ระลึกขายคือเสื้อยืด Apple (เจ้าหน้าที่บอกว่ามีที่เดียวในโลก) เราก็จัดสิครับ รออะไร?
ซิลิคอนแวลลี สำหรับเราเหมือน less is more น้อยแต่มาก เป็นเมืองเล็ก ๆ แต่มากด้วยเรื่องราว ยังไงหรอ?
-ซิลิคอนแวลลีย์มี GDP ประมาณ 7 ล้านล้านบาท เป็นครึ่งหนึ่งของ GDP ประเทศไทยที่ 14 ล้านล้านบาท
แต่ประเทศไทยมีพื้นที่ 513,120 ตารางกิโลเมตร ในขณะที่ ซิลิคอนแวลลีย์ที่มีพื้นที่เพียง 121 ตารางกิโลเมตร
บาย ซิลิคอนแวลลี😁
โยเซมิตี เวรี่แฮปปี้ 🏔️
อุทยานแห่งชาติ โยเซมิตี Yosemite National Park ถือเป็นมรดกทางธรรมชาติของโลก ในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา อยู่บนเทือกเขาเซียร์รา เนวาดา
โยเซมิตีมี น้ำตกที่สูงที่สุดแห่งอเมริกาเหนือ ภูเขา หน้าผาหินแกรนิตขนาดใหญ่ เมื่อได้ไปยืนมองสัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ มันไม่ใช้ครั่งแรกของที่นี่ เพียงเพราะ เสน่ห์ของโยเซมิตี ชักชวนให้เรากลับมาอีกครั้ง
ในช่วง Fall (ใบไม้ผลิ) ที่น่าจะต่างกับครั้งแรกคือ ช่วง Winter (ฤดูหนาว) ครั้งนั้นเรานอนเล่นปีกผีเสื้อกันบนกองหิมะ หน้าเอลแคปปิตั้น อันเลื่องชื่อ อยากรู้เรื่อง เอลแคปปิตั้น ลองไปดูDocumentary เรื่องFree solo จะรู้ถึงความสูงชันและเสน่ห์ มารอบนี้ไม่มีกองหิมะให้จับปั้นเป็น snowman สองข้างทางเต็มไปด้วยใบไม้ที่กำลังเปลี่ยนสี จากเขียว เหลือง แดง ตัดกับสีภูเขา เป็นความเนียนตาของธรรมชาติในฤดูใบไม้ร่วง
เราเริ่มต้นขึ้นโยเซมิตี รอบนี้เราเดินทางตามถนนสาย120 เพื่อเข้าทาง West Gate ระหว่างทางซากไม่ที่ถูกเผาไหม้จากไฟป่าทำเอาอารมณ์เราสลดเศร้าไปเหมือนกันเพราะบางต้น มันใหญ่จนรู้สึกเสียดายไม่อยากให้ตายจากไป ตามถนนสายนี้จำนวนโค้งที่เส้นทางไปปายว่ามากโข แต่ที่นี่เรียกมากโครตเลยทีเดียว แถมได้เสียวกับไหล่เขา เรียกว่าหลุดไปก็ใช้ประกันได้เลย แต่ทิวเขา ต้นไม้ใหญ่ สีสันของใบไม้ที่เปลี่ยนสี ทำเอารู้สึกเพลิดเพลินกับเส้นทางจนยอมหักพวงมาลัย ซ้ายที ขวาที ตามโค้งไป
ที่โยเซมิตีมีสถานที่ ที่รอรับผู้มาเยือนอยู่มากโข เริ่มจาก Yosemite Valley Vista Point, Big Oak Flat Rd Vista Point, Tunnel View จนขับเข้าใกล้ Yosemite valley จุดเยี่ยมเยือน ให้เราไปเก็บภาพก็มากขึ้น พร้อมกับผู้คนที่เข้ามาเยี่ยมชมยังใจกลางของYosemite valley เราเริ่มต้นด้วย El Capitan Viewpoint เพื่อรำลึกถึงความหลัง ต่อด้วย El Capitan Meadow, Bridalveil Falls Viewpoint, Yosemite Falls View, Sentinel Bridge
เดินอยู่จนแสงลับขอบฟ้าไป เราเดินเทรลใน Yosemite valley ท่ามกลางความมืด มืดจริงมีแค่แสงไฟจาก iPhone คอยส่องทาง เรากลับออกทาง South Gate ส่วนทางขาออกก็ไม่ยอมน้อยหน้าด้าน West Gate แม้แต่น้อย เรามาพักแถว Oakhurst-Yosemite Park Area เป็นเมืองเล็ก ๆ ตีนทางเข้า โยเซมิตี เช้าตรู่ก่อนแสงแรกจะทอประกาย เราบุกเข้าโยเซมิตี อีกครั้ง เพื่อมุ่งหน้าสู่ ฝั่งที่ไม่เคยไป จุดหมายคือ Tenaya Lake ต้องบอกว่าเป็นการขับที่ทรหดพอสมควร เพราะมันย้อนไปทางเดิมที่เราฝ่าฟันมาเมื่อวาน
แต่สีสันของฤดูใบไม้ผลิก็สามารถบรรเทาอารมณ์ให้เราเพลิดเพลินกับเส้นทางได้ จนถึง Olmsted Point จากจุดนี้มองเห็น Half Dome ได้แบบชัด ๆ เลย แสงกำลังดี อากาศเย็นได้ที่อีกต่างหาก ว้าวุ่นเลยทีนี้ ได้แต่บอกว่าวันนี้หนทางอีกยาวไกล จึงมุ่งหน้าไปต่อที่ Tenaya Lake และแล้วก็มาถึงอีกหนึ่งจุดหมาย สวย สบายตา ดูครบ จบ จริง
ไม่จบแค่ Tenaya Lake เราไปต่อที่ Polly Dome, Tuolumne Meadows, Lembert Dome, Tioga Pass Road Valley View เรียกว่าไปมั้ยเรื่อยเปื่อยจริง ๆ นี่แหละ “โยเซมิตี เวรี่แฮปปี”
โยเซมิตี ครั้งเดียวไม่เคยพอ ฝากไว้เผื่ออยากมา
สาย Check-in อย่างน้อย 2D1N
สาย ถ่าย ถ่ายแม่งไปเรื่อย 3D2N
สาย ธรรมชาติ เดินเทรลสูดอากาศ 4D3N
สาย Camping ชิล ไปเรื่อย 1 Week
ท้ายสุดมีความสุขทุกครั้ง กับโยเซมิตี😁
#morijyokung
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
