ปูติน จะได้สงครามใหญ่ตามต้องการไหม?….
เกือบสองปีที่แล้วหลังรัสเซียเปิดฉากบุกยูเครน
โลกก็ตกอยู่ในสภาวะ “ไร้กฎเกณฑ์”
ไร้กฎเกณฑ์ เมื่อเขตแดนและอธิปไตยตามกติกาสากลนั้น
ถูกทำลายด้วยแสนยานุภาพ โดยเฉพาะนิวเคลียร์
อันน่าสะพรึงกลัวของรัสเซีย
และโลกก็เริ่มวุ่นวายมากขึ้น จากความไร้กฎเกณฑ์เหล่านี้
ภายใต้คำพูดสวยหรูว่า “โลกหลายขั้วอำนาจ”
…ซึ่งความจริงแล้ว กติกาสากลนั้น รัสเซียเองก็ต้องยอมรับ
เพราะพวกเขาต้องรับผิดชอบทั้งหมด ต่อการตัดสินใจของสหภาพโซเวียตในอดีต ซึ่งก็เห็นชอบกับกติกานี้
…แต่พวกเขากลับตั้งแง่ กับกติกาที่ตัวเองเคยเขียนขึ้นเสียเอง
…จนทำให้ โลกในปัจจุบัน มันไม่ต่างกับโลกที่ป่าเถื่อน…
…หรือโลก ที่ว่ากันด้วยการใช้กำลังเลย…
การเปิดฉากบุกยูเครนนั้น ไม่ว่ารัสเซียจะชอบธรรมหรือไม่
มาถึงตรงนี้ คงไม่ต้องถกเถียงกันแล้ว
แต่ถ้าเราลำดับเหตุการณ์ดู จากโควิด สงครามยูเครน
การรัฐประหารในแอฟริกา จนถึงการโจมตีของฮามาสนั้น
จะพบว่ามีความสัมพันธ์กันอย่างน่าสนใจ และเป็นขั้นตอน
ครับ ต้องบอกตามตรงว่า ตอนนี้ส่วนตัวผมไม่คิดว่าโควิดเป็นเรื่องบังเอิญแล้วล่ะนะ
เพียงแต่ไอ้คนปล่อยเอง มันดันคุมไม่อยู่
ไม่คิดว่าจะกลายพันธุ์ได้มากขนาดนั้น
จนตัวเองต้องเจ็บหนักไปด้วยเท่านั้นแหละ…
แต่เอาส่วนที่ชัดเจนคือ ระยะเวลาในการเตรียมการของฮามาส
ที่ผู้เชี่ยวชาญบอกตรงกัน ว่ามันน่าจะใช้เวลาเตรียมการ
มาราวๆสองปี หรือเท่าๆกับการเปิดสงครามในยูเครนพอดี
และเป็นสองปีเช่นกัน ที่ท่าทีของเกาหลีเหนือ
มีความก้าวร้าวกว่าเดิมมาก
จากลำดับเหตุการณ์ทั่วโลก มันทำให้เกิดสิ่งหนึ่งขึ้น
คือ การทำให้สหรัฐอ่อนแอลง
โควิด ทำให้สหรัฐต้องฉีดเม็ดเงินมหาศาล เพื่อรักษาระบบโดยรวมเอาไว้ ดังนั้นเงินมันต้องเฟ้อเป็นธรรมดา เมื่อโรคระบาดคลี่คลายลง
…แต่นั่น ไม่มากพอจะโยกคลอนสหรัฐได้…
…จึงต้องซ้ำด้วยดาบสอง คือ สงครามในยูเครน…
สงครามยูเครนนั้น ทำให้เงินที่เฟ้ออยู่แล้ว เฟ้อหนักเข้าไปอีก
จากราคาพลังงาน
การปั่นสถานการณ์แบบนี้ ผู้สร้างสถานการณ์หวังผลให้เกิดความวุ่นวายในยุโรป จากภาวะขาดแคลนพลังงาน
ที่อาจนำไปสู่ การเปลี่ยนแปลงแนวคิด จากเสรีนิยมเป็น
แนวอำนาจนิยมขวาจัดในยุโรปได้
เพื่อประณีประนอมกับรัสเซียได้ง่ายมากขึ้น
หรือในอีกทาง ก็อาจเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้เกิดสงคราม
ลามไปทั่วยุโรปได้
…แต่ดาบสอง ถูกแก้เกมส์โดยสหรัฐที่พอจะมีความสามารถในการหาน้ำมัน หรือก๊าซธรรมชาติมาป้อนยุโรปได้ แม้จะแพงขึ้นมากพอสมควรก็ตาม
..และในสมรภูมิ ยูเครนเองก็สู้ได้เหนียวแน่นอย่างเหลือเชื่อ
จนสกัดรัสเซียเอาไว้ได้ สงครามจึงไม่บานออกมาในพื้นที่อื่นของยุโรป….
…ดังนั้น มันจึงต้องมาถึงดาบสาม คือการตีไปที่กล่องดวงใจ
ของสหรัฐโดยตรง คือ อิสราเอล…
จนถึงตอนนี้ ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่า รัสเซียน่าจะให้ความช่วยเหลือฮามาสค่อนข้างแน่ หากสงครามยังดำเนินต่อไป
อาจไม่ใช่การให้ตรงๆ แต่คงทำผ่านอิหร่าน และเกาหลีเหนือ
ในลักษณะของการให้เทคโนโลยีไปผลิตอาวุธ เพื่อป้อนให้
กลุ่มต่างๆ ที่มีจุดยืนร่วมกัน
(มีหลักฐานว่าอาวุธบางส่วนของฮามาส บางส่วนมาจากเกาหลีเหนือ)
และนอกจากอิหร่านแล้ว รัสเซียยังน่าจะทำผ่านซีเรีย
รวมถึงกลุ่มย่อยต่างๆ ไปด้วย ในแง่การฝึกทหาร ยุทธวิธี
…นี่ไม่ใช่การปรักปรำ แต่เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายทราบดีแก่ใจ…
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ทันทีที่เรือสหรัฐซึ่งลอยลำอยู่
ในทะเลเมอร์ดิเตอร์เรเนียน ได้ยิงมิไซล์สกัดขีปนาวุธ
ที่ยิงจากเยเมน ช่วยอิสราเอลไปแล้ว
นั่นเท่ากับว่า สหรัฐนั้น ได้เข้าสู่สงครามครั้งนี้เรียบร้อยแล้ว
ประกอบกับมีการโจมตีฐานทัพสหรัฐในอิรัก ซีเรีย
ซึ่งแน่นอนว่าสหรัฐก็มีการตอบโต้ออกไป
นั่นยิ่งทำให้สหรัฐเท่ากับเข้าสู่สงครามอย่างไม่เป็นทางการ
ทางรัสเซียนั้น ส่งฝูงบินมิค-31 มาจากทางทะเลดำ
เพื่อประกบกองเรือสหรัฐอยู่ และเครื่องบินเหล่านี้
มาพร้อมกับขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิค “คินซาล”
ซึ่งระยะยิงน่าจะถึงเรือของสหรัฐได้ จากทะเลดำ
นี่น่าจะชัดเจนว่า รัสเซียเองไม่มีทางเลือกแล้ว
นอกจากเปิดศึกกับสหรัฐโดยตรง หากต้องการซื้อใจ
พันธมิตรอาหรับ
คือ ในกรณีว่าสหรัฐตอบโต้กลุ่มที่โจมตีฐานพวกเขา
หรือซัดอิหร่าน ในกรณีว่าอิหร่านกล้าเปิดหน้าเล่นกับอิสราเอล
รัสเซียก็ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากโจมตีกำลังของสหรัฐ
ในพื้นที่อย่างแน่นอน อาจเป็นฐานทัพในอิรัก ซีเรีย
หรือถ้าเข้าขั้นแย่ที่สุด ก็คือเรือรบสหรัฐ
และถ้าถึงตรงนั้น มันก็เท่ากับ สงครามโลกครั้งที่สาม
ได้เริ่มขึ้นแล้วนั่นเอง….
สาเหตุของการก่อสงครามนั้น เริ่มโดยฝ่ายที่ต้องการ
ความเปลี่ยนแปลงบางอย่างเสมอ
ในกรณีนี้ เราคงต้องชี้ไปที่รัสเซีย ว่าพวกเขาต้องการสงคราม
มากที่สุด เพื่อการเปลี่ยนแปลง ระเบียบโลกที่พวกเขาไม่ชอบ
เรื่องนี้ กองเชียร์รัสเซียเองต้องไม่ย้อนแย้ง
เพราะพวกคุณเองนั่นแหละ ที่บอกว่าระเบียบโลก
อเมริกาได้เปรียบจากสิ่งที่เป็นอยู่
ดังนั้น มันไม่มีประโยชน์อะไร ที่อเมริกาจะต้องการสงคราม
เพื่อเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ดีอยู่แล้วสำหรับพวกเขา
มันจึงต้องชี้ไปว่า รัสเซีย หรืออย่างน้อยก็ตัวปูตินนั่นแหละ
ที่ต้องการสงครามขนาดใหญ่เพื่อการเปลี่ยนแปลง
…และถึงตรงนี้แล้ว ก็ต้องบอกว่า ปูติน ก็ใกล้มากแล้ว
ที่จะได้สิ่งที่ต้องการ…
…แต่ทก็ยังมีปัญหาไม่น้อยเช่นกัน…
ถ้าให้เดายุทธศาสตร์ของปูตินและพันธมิตร
สิ่งที่พวกเขาทำตอนนี้คือการแบ่งกำลังของสหรัฐออกเป็น
หลายส่วน โดยการเปิดสงครามหลายพื้นที่พร้อมกัน
เพื่อทอนความแข็งแกร่งของสหรัฐลง ทั้งในแง่การทหาร
เศรษฐกิจ และการทูต
…เพราะปัจจุบัน ยังไม่มีกองทัพไหนบนโลก หรือกระทั่งชาติไหน ที่มีระบบเศรษฐกิจดีพอที่จะโค่นสหรัฐได้ หากพวกเขายังเป็นเอกภาพในตัวเอง และกับพันธมิตร…
…มันจึงจำเป็นมาก ที่รัสเซียต้องตัดสหรัฐออกเป็นส่วนๆก่อน…
ดังนั้น หากสถานการณ์ในอิสราเอล ไม่สามารถลากโลก
ให้ไปสู่จุดแตกหักได้ เชื่อกันว่า จุดต่อไปที่น่าจะมีปัญหา
น่าจะเป็นบริเวณคาบสมุทรเกาหลี
ที่ไม่มองว่าเป็นไต้หวัน เพราะยังเชื่อว่าจีนเอง
มีความต้องการสงครามเพื่อการเปลี่ยนแปลงน้อยกว่า
รัสเซีย อิหร่าน และเกาหลีเหนือมาก
เพราะจีนนั้นเชื่อว่า ในอนาคต
พวกเขาจะสามารถเอาชนะสหรัฐได้แน่นอนโดยไม่ตัองพึ่งสงคราม และมันก็อีกไม่ไกลมากนัก พวกเขารอได้
พวกเขาคงไม่บ้าจี้ไปตามรัสเซีย ในการเปิดศึกกับไต้หวัน
ในตอนนี้แน่ เพราะจีนเองยังห่วงเรื่องเศรษฐกิจมาก
ในแง่การทหาร จีนก็ยังไม่พร้อม
พวกเขาอยากเข้มแข็งกว่านี้ ก่อนจะปะทะกับสหรัฐเต็มตัว
จีนนั้น คงสนับสนุนรัสเซียและพันธมิตรแน่นอน
แต่เรื่องให้พวกเขาเข้าสงครามตรงๆ แบบออกหน้า
คงจะยาก ถึงยากมากที่สุด
แม้แต่สถานการณ์ในอิสราเอลปัจจุบัน จีนแม้เอนเอียงไป
ทางปาเลสไตน์ แต่จะเห็นว่าพวกเขา ค่อนข้างไม่แสดง
ความเป็นศัตรูกับสหรัฐมากแบบรัสเซียหรืออิหร่าน
เพราะเหตุนี้ จึงมองกันไปที่เกาหลีเหนือมากกว่า
หากปูตินจะต้องการดึงกำลังของสหรัฐมาทางเอเชียบ้าง
ก็ต้องเป็นคาบสมุทรเกาหลีนี่แหละ
และจุดนี้ก็จุดติดความขัดแย้งได้ง่าย
รัสเซียอาจยุตี๋คิมยิงจรวดไปตกใส่ญี่ปุ่น หรือเกาหลีใต้สักลูก
ก็จะได้สงครามในจุดนี้อย่างแน่นอน
และสหรัฐก็ต้องแบ่งกองกำลังออกไปอีกส่วนเพื่อช่วยญี่ปุ่น
และเกาหลีใต้ ในการคุมเชิงกับจีน
…การเปิดศึกของเกาหลีเหนือ น่าจะเป็นหมากขั้นสุดท้าย
ของปูตินและผองเพื่อน เพื่อให้ได้สงครามโลกที่พวกเขาต้องการ แต่กรณีนี้ จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อ สถานการณ์ทางอิสราเอล ไม่บานปลายอย่างที่ปูตินหวังเท่านั้น …
…แต่หมากตานี้ เราอาจเบาใจได้อย่างหนึ่ง คือ จีนนั้นคงไม่เอาด้วยแน่ๆ ในตอนนี้ มันเร็วเกินไป และเสี่ยงเกินไป เพราะ
ต้องไม่ลืมว่าพันธมิตรสหรัฐในแถบนี้ คือ ญี่ปุ่น เป็นชาติที่มีกำลังรบสูงมาก และทรงอิทธิพลทางเศรษฐกิจต่อชาติในเอเชีย
มากกว่าจีนเสียอีก
…ในแง่การทหาร ญี่ปุ่นคงชนะจีนไม่ได้ แต่พวกเขาสามารถทำลายกองทัพจีนได้มากกว่า 30% เป็นอย่างน้อยแน่นอน
ซึ่งนั่นจะทำให้จีนต้องเสียเวลาอีกมาก ในการไล่ตามแสนยานุภาพให้ทันสหรัฐ หากต้องสูญเสียกำลังรบไปมาก
ขนาดนั้น…
…ดังนั้น จีนที่ไม่ได้โง่หรือบ้า พวกเขาคงไม่บ้าจี้กับเรื่องนี้ ..
…อย่างน้อยก็ในปัจจุบัน ….
ส่วนสถานการณ์ในตะวันออกกลางตอนนี้
แม้จะดูว่ารุนแรง แต่ก็มีสัญญาณที่ดีออกมาบ้าง
และอาจไม่ลุกลามอย่างที่กลัวกัน
ซึ่งส่วนนี้ ไม่ใช่ข่าวดีนักของทั้งฮามาส และอิหร่าน
จากข่าวว่าตัวประกันอเมริกัน ถูกปล่อยตัวมาสองคนนั้น
ค่อนข้างเป็นข่าวดีและเหนือความคาดหมาย
เหนือความคาดหมาย ที่คนถูกปล่อยตัวออกมาเป็นอเมริกัน
ไม่ใช่ชาติอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องเลย อย่างไทยหรือประเทศอื่น
แถวๆเอเชีย
ข่าวเสนอว่า เป็นการประสานงานของทางการ์ตาร์
สิ่งนี้น่าจะบอกได้อย่างหนึ่งว่า กลุ่มประเทศอาหรับนั้น
แม้จะสนับสนุนปาเลสไตน์ แต่ก็ไม่ต้องการเข้าร่วมอย่างเต็มตัว
จะว่ากลัวสหรัฐก็อาจเป็นส่วนหนึ่ง
แต่สิ่งที่กลัวมากกว่าคือ หากสหรัฐกระโจนเข้าเล่นเต็มตัว
พวกเขาเอง จะมากจะน้อย ก็ต้องซวยไปด้วยอย่างแน่นอน
และคงไม่มีใครช่วยพวกเขาได้ หากเป็นแบบนั้น
ดูแล้ว ในภูมิภาคตะวันออกกลาง นอกจากอิหร่านและซีเรียแล้ว
คงไม่มีใครกล้าส่งกำลังตัวเองไปชนกับอิสราเอลตรงๆแน่
และการที่อิหร่าน ซึ่งก็ไม่ใช่ว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับชาติอาหรับอื่น รับบทหัวเรือใหญ่ในการสนับสนุนฮามาส
และมักตีไปกระทบชิ่งสหรัฐเสมอแบบนี้
มันจะทำให้บางชาติหรือหลายชาติสุหนี่ ที่เคยมีคดีกับอิหร่าน
ไม่ไว้ใจพวกเขาและไม่อยากเอาด้วยนัก
เพราะชาติเหล่านี้ระลึกอยู่เสมอว่า
หากอิหร่านโค่นอิสราเอลสำเร็จ และได้รับการสนับสนุนจากรัสเซียเต็มที่ พวกเขาก็มีแนวโน้มว่าจะเสี่ยงมีอันตรายจากอิหร่านด้วยเข่นกัน
ดังนั้นที่กังวลกันว่า ชาติอาหรับทั้งตะวันออกกลาง
จะรุมสกรัมอิสราเอลนั้น จึงค่อนข้างเป็นไปได้ยาก
ชาติอาหรับสายสุหนี่นั้น ใจน่ะเกลียดสหรัฐแน่นอน
แต่พวกเขากลัวอิหร่านมากกว่า ดังนั้นมันค่อนข้างจำเป็น
ที่พวกเขาจะยังต้องมีสหรัฐเอาไว้เพื่อความปลอดภัยของ
ประเทศพวกเขาเอง
…ในแง่นี้จึงเบาใจได้พอสมควรว่า สงครามจะไม่ลามไปทั้งภูมิ
ภาค อย่างที่กลัวกัน…
และที่สำคัญ…
การมีนิวเคลียร์ของอิสราเอลหลายร้อยลูกนั้น
มันทำให้ชาติอาหรับคิดหนักมาก
เพราะหากบีบอิสราเอลมากเกินไป หรืออิสราเอลเพลี่ยงพล้ำ
จนถึงขั้นอาจเสียดินแดน….
…ด้วยนิสัยของพวกยิว พวกเขาจะไม่ลังเลแน่นอน..
…ที่จะใช้นิวเคลียร์ จนตายตกตามกันไป…..
กับคำถามที่จั่วหัวไว้ ว่าปูตินจะได้สงครามใหญ่หรือไม่
ต้องบอกว่า คงยาก ที่จะเป็นแบบนั้น
ในกรณีสงครามอิสราเอลปัจจุบัน เราอาจเห็นแค่อิหร่าน
และซีเรีย รวมถึงกลุ่มย่อยต่างๆ เข้าปะทะกับอิสราเอลตรงๆ
…แต่เรื่องลามไปทั้งภูมิภาคจนเป็นสงครามโลกนั้น
คงยากแล้วเมื่อถึงตรงนี้….
…มันอาจเป็นข่าวดีของชาวโลกอยู่บ้าง…
…แต่ไม่ใช่ข่าวดีของปูตินแน่นอน ….
เพราะนั่นหมายถึงว่า ถ้าปูติน ต้องการสงครามใหญ่จริงๆ
รัสเซียต้องชนกับสหรัฐตรงๆด้วยตัวเองเท่านั้น !
ข่าว
I found this article for you: - https://www.investing.com/news/world-news/analysischina-and-russia-find-common-cause-in-israelhamas-crisis-3203921
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
