21 ต.ค. 2023 เวลา 04:09 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

"สัปเหร่อ"

หนังลำดับที่ 6 ของจักรวาลไทบ้าน (ไม่นับของ เซียนหรั่ง เพราะเรื่องเซียนหรั่งเป็นหนัง สแตนอโลน ไม่เกี่ยวกัน) จากหนังอินดี้ กลายเป็นหนังแมส หนังกระแสไปซะแล้ว ไม่ว่าจะด้วยพลังโซเชียลมีเดีย ยุทธการป่าล้อมเมือง หรือกระแสการพูดปากต่อปาก
จนวันนี้มันทำให้ ซีรี่ย์ นี้ (ซึ่งจริงๆมันไม่ได้ใกล้คำว่าซีรี่ย์เลย🤣 ผู้กำกับบอกว่าอยากเป็นแบบ มาเวล เลยจะขอเรียกว่า จักรวาลหนังไทบ้าน) มีชื่อเสียงเป็นวงกว้างอย่างปฏิเสธไม่ได้ ทั้งด้วยรายได้และคำวิจารณ์ โดยเฉพาะกระแสโซเชียลและการพูดปากต่อปาก จนได้ปลุกกระแสหนังไทยให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากห่างหายจากยุคทองของหนังไทยไปนาน
เรื่องนี้ ผมยังไม่ได้ดูนะ แต่พอตามไปอ่านไปดูรีวิวมา เขาว่ากันว่าเป็นหนังที่ยัด วัฒนธรรมประเพณี อีสานเข้ามาเยอะมากและสอดแทรกได้อย่างลงตัวเป๊ะ บางอันที่เราลืมไปแล้วก็ยังมี (อย่างเช่น ฉากโยนไข่ แถวบ้านเราแทบไม่มีแล้ว)
และก็มีบางคนยังได้ยกหนังรุ่นคลาสสิค มาเทียบเคียงด้วยว่า เป็นหนังที่ แสดงถึง วัฒนธรรม อีสาน ให้กลับมาเป็นกระแสได้อีกครั้ง เช่น
ครูบ้านนอก พ.ศ. 2521
1. "ครูบ้านนอก" พ.ศ. 2521
ครูบ้านนอกเป็นหนังที่ผม "เกลียด" มาก...
ถามว่า ผมทันเหรอ ผมไม่ทันหนังเรื่องนี้ครับ แต่ผมทันในยุครุ่งเรืองของซีดี ตอนนั้นเขาเอาหนังเก่าๆมาทำเป็นซีดีแล้ววางขายกัน ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องนี้มาอยู่ในบ้านได้ไง (น่าจะเป็นน้าผมมั้ง เพราะตอนนั้นแกทำงานเกี่ยวกับพวกแผ่นซีดี)
แล้วทำไมถึงเกลียด เพราะมันจบได้ เหี้ย มาก ครูบ้านนอกเป็นหนังที่ดีมากนะครับ ได้รางวัลมากมาย และได้ไปฉายต่างประเทศด้วย แต่ที่มันเหี้ย เพราะตอนที่ผมดู ผมแม่งยังเด็กเกินไป วัยของผมตอนนั้นมันต้องจบแบบหนังอินเดีย ละครทีวี ที่ต้องแบบ แฮปปี้เอ็นดิ้ง จบแบบนี้โลกทัศน์ผมเปลี่ยนทันที จิตตกกับหนังเรื่องนี้นานพอสมควร และผมไม่ดูซ้ำอีกเลย จนกระทั่งมีเวอร์ชั่นรีเมคออกมาในปี พ.ศ. 2552 จึงกลับมาดู แต่มันก็ไม่ส่งผลรุนแรงเท่าของเดิมเพราะเรารู้ตอนจบไปแล้วอะ...
อ๋อ! อีกเรื่องหนังดีที่ผมเกลียดตอนเด็กคือเรื่อง วัลลี ปี พ.ศ. 2528 อันนี้ก็หดหู่เหลือเกิน เจ็บปวดมากสำหรับผมในตอนนั้น มันดาร์กเกิ้นนน และทำไมไม่รู้ผมก็ชอบหลงไปดูหนังแนวนี้บ่อยๆซะด้วยสิ น้ำตาแตก...
ลูกอีสาน พ.ศ. 2525
2. "ลูกอีสาน" พ.ศ. 2525
ลูกอีสานผมยังไม่เคยดูครับ แต่เพราะผมอ่านนิยายมาแล้ว เลยคิดว่าไม่จำเป็นต้องดูก็ได้
หนังลูกอีสาน หนังดีอีกแล้วครับ สร้างจากนิยายของ คำพูน บุญทวี ในชื่อเดียวกัน ลูกอีสาน นิยายรางวัลปี พ.ศ. 2522
ปกนี้เลยที่ผมอ่าน ตอนนี้ยังอยู่ดี ปลวกแทะนิดหน่อย คงต้องหยิบมาอ่านอีกรอบ
เพราะไม่เคยดูหนังก็เลยบอกอะไรไม่ค่อยได้ แต่ในนิยายมันก็ได้บอกถึง วัฒนธรรมประเพณีของอีสาน ทั้งวิธีคิด วิถีชีวิต มันทำให้นึกถึงบรรยากาศเก่าๆ แดดร้อนๆ ดินแห้งๆ กลิ่นสาบขี้วัวควาย สิ่งที่ผมชอบที่สุดในนิยายก็น่าจะเป็นตอนที่ ขี่เกวียนไปหาปลาร้าปลาแดกกันนั่นแหละ ตอนนี้น่าจะตื่นเต้นสุดละ และสิ่งที่จำได้ไม่ลืมก็คือ คำพูดของหลวงพ่อเคนที่พูดกับคูนว่า
" จำไว้ให้ดี ต่อไปอย่าเกลียดฟ้า ฟ้าไม่เคยลงโทษใคร "
แหนม ยโสธร พ.ศ. 2548
3. "แหยม ยโสธร" พ.ศ. 2548
เรื่องนี้ผมทันครับ ออกมาในช่วงยุคทองของหนังไทย ทำรายได้ถล่มทลาย เป็นหนังที่ดีมากๆเรื่องนึงของ หม่ำ จ๊กมก สิ่งที่พิเศษคือหนังเรื่องนี้ พูดอีสาน ทั้งเรื่อง แต่ก็แค่นั้นแหละครับ สำหรับผมเรื่องนี้รู้สึกว่ามันไม่ได้ดันวัฒนธรรมประเพณี อีสาน ขนาดนั้น เเต่ถ้าเรื่องภาษาถิ่นและรายได้นี่สุดจริง...
ก็น่าจะประมาณนี้แหละ ที่มันเป็นกระแสและทำให้คำว่า อีสาน เด่นขึ้นมา
ทั้งความเชื่อ ประเพณี ศาสนา รวมกันออกมาได้เป็นวัฒนธรรมในหนังเรื่อง สัปเหร่อ ที่ผู้กำกับอยากจะสื่อ
ผู้ได๋ยังบ่ทันได้ไปเบิ่ง กะอย่าพากันคาแต่หัวเด้อ ให้เบิ่งสิ่งที่ผู้กำกับเขาอยากจะสื่อนำ...
"พอสำนี้หล่ะ ยาวโพ้ดคนกะบ่อ่าน สั้นหลายมันกะสิบ่รู้เรื่อง..."
จบ! เอวัง ด้วยประการฉะนี้
#สัปเหร่อ
โฆษณา