21 ต.ค. 2023 เวลา 10:32 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

เขยิบใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ กับการนำหุ่นยนต์มาทำงานแทนคนแบบ 100%

เมื่อ Amazon เพิ่มประสิทธิภาพในการนำส่งสินค้าให้ถึงมือลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและถูกต้องมากขึ้นด้วย 2 เทคโนโลยีใหม่ โดย 2 เทคโนโลยีใหม่นี้ได้แก่
  • 1.
    Digit: humanoid robot หุ่นยนต์รุ่นใหม่คล้ายมนุษย์
  • 2.
    Sequoia: ระบบบริหารจัดการงานคัดแยกและจัดส่งสินค้าตั้งแต่เริ่มรับ Order จากลูกค้า ซึ่งทำงานร่วมกับหุ่นยนต์อัตโนมัติหลายระบบที่มีใช้อยู่แล้วในคลังสินค้า
สำหรับ Digit นั้นเป็นหุ่นยนต์ชนิด humanoid robot หรือหุ่นยนต์ที่มีรูปลักษณ์ที่มีต้นแบบมาจากมนุษย์พัฒนาโดย Agility Robotics บริษัท start-up ในรัฐออริกอนที่ได้รับการสนับสนุนจาก Amazon สูง 175 ซม. หนัก 65 กิโลกรัมสามารถเดินหน้า ถอยหลัง เขยิบออกข้างหรือแม้แต่ก้มคลานและสามารถยกของหนักได้ถึง 16 กิโลกรัม
Digit on the job
โดยในขั้นแรก Amazon จะเริ่มใช้งาน Digit ในการเก็บรวมลังเปล่าที่ใช้งานเสร็จแล้วเพื่อนำไปรอใช้บรรจุและคัดแยกสินค้าต่อไป ซึ่งเป็นงานซ้ำ ๆ สำหรับแรงงานไร้ฝีมือ ซึ่ง Amazon จะให้ Digit เข้ามาทำงานเสริมร่วมกับแรงงานที่มีอยู่เดิมก่อนจะพิจารณาปรับเพิ่มสัดส่วนตามผลการทดสอบ
สำหรับ Sequoia นั้นเป็นระบบบริหารจัดการแบบรวมศูนย์ที่จะรวบการทำงานของระบบอัตโนมัติที่มีอยู่เดิมเข้าด้วยกัน ซึ่งเริ่มตั้งแต่การประมวลผลข้อมูลสินค้าขาเข้ามายังในคลังสินค้าได้อย่างรวดเร็วทำให้สามารถลดเวลาการ update ข้อมูลสินค้าที่เติมเข้ามาในคลังได้ถึง 75%
1
ในส่วนขาจัดส่งสินค้าให้ถึงมือลูกค้าก็สามารถทำได้เร็วขึ้นกว่าเดิม 25% หลังจากที่ได้รับคำสั่งซื้อจากลูกค้า และระบบจะมีการคาดการณ์ปริมาณสินค้าขาเข้า-ขาออกทำให้สามารถเพิ่มอัตราการจัดส่งสินค้าประเภทวันเดียวได้หรือได้ของภายในวันรุ่งขึ้น โดย Sequoia ได้มีการใช้งานแล้วในศูนย์รวมสินค้าที่เมืองฮิวสตันรัฐเทกซัส
ทั้งนี้ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา Amazon ได้นำระบบหุ่นยนต์และระบบจัดการคลังสินค้าอัตโนมัติหลายร้อยระบบเข้าใช้งาน รวมถึงหุ่นยนต์กว่า 700 ประเภทด้วยจำนวนกว่า 750,000 ตัวที่ทำงานร่วมกับมนุษย์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการกระจายสินค้า
นอกจากเพิ่มประสิทธิภาพแล้วยังเพิ่มความปลอดภัยในการทำงานให้กับเหล่าคนงานในคลังสินค้าด้วย โดยในปี 2022 พบว่าคลังสินค้าที่มีระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์เข้าใช้งานมีรายงานเคสอุบัติเหตุลดลงกว่า 18%
แต่นอนว่านี่ย่อมสร้างความกังวลในการที่เหล่าหุ่นยนต์และระบบจัดการคลังสินค้าอัตโนมัตินี้จะมากระทบตำแหน่งงานกว่า 1.5 ล้านตำแหน่ง ซึ่งก็มีรายงานการศึกษาว่าภายในปี 2030 หุ่นยนต์จะทำตำแหน่งงานลดลงกว่า 73 ล้านตำแหน่งในอเมริกา
อนาคตของทีมดูแลและพัฒนาหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติเองจะยังมั่นคงอยู่หรือไม่?
ซึ่งทางทีมพัฒนาระบบของ Amazon ก็ออกมายอมรับว่าแม้จะทำให้ตำแหน่งงานสำหรับงานที่มีลักษณะซ้ำ ๆ ลดลงแต่ก็จะมีการสร้างงานอื่นขึ้นมาทดแทน หรือปรับเปลี่ยนลักษณะงาน เช่น คนดูแลระบบ หรือคนคอยตรวจสอบการทำงานของหุ่นยนต์
แต่คำถามก็คือตำแหน่งงานที่เกิดใหม่จะเพียงพอที่จะรองรับกับตำแหน่งงานที่หายไปหรือไม่ และกิจการยังเต็มใจที่จะจ้างคนมาแค่นั่งดูหุ่นยนต์ทำงานหรือไม่ รวมถึงเหล่าทีมนักพัฒนาระบบเองอนาคตจะเสี่ยงตกงานเหมือนกันกับแรงงานไร้ฝีมือหรือไม่ถ้าวันหนึ่งระบบเริ่มเสถียร
หุ่นยนต์เต็มคลังสินค้า แล้วคนจะยังมีที่ยืนหรือไม่?
ปัจจุบันเราเริ่มเห็นภาพแล้วว่าหุ่นยนต์ AI และสารพัดระบบอัจฉริยะที่มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและทดแทนแรงงานเริ่มมีใช้ในหลายกิจการมาขึ้น อย่าง E-commerce ทั้ง Amazon Ali baba ก็มีการเอาหุ่นยนต์เข้ามาใช้งานอย่างจริงจัง
แล้วกิจการทั้งหลายจะยังเต็มใจจ้างแรงงานไร้ฝีมือที่อาจเป็นค่าใช้จ่ายเกินจำเป็นเอาไว้อีกหรือไม่
1
โฆษณา