Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เจาะลึก Liverpool FC By Nes Spion Kop
•
ติดตาม
21 ต.ค. 2023 เวลา 13:38 • กีฬา
*วิเคราะห์เกมเมอร์ซี่ไซด์ ดาร์บี้ ลิเวอร์พูล vs เอฟเวอร์ตัน*
- ก่อนเกมลุ้นเรื่องฝนตกพายุเข้าที่เกาะอังกฤษพอสมควร ไม่อยากให้ยกเลิกเพราะสัปดาห์ทีมชาติก็พาเหงาไปทีนึงแล้ว ถ้าเลื่อนเกมอีกตายแน่ๆ(ผมเนี่ยลงแดงแน่ๆ)
- 11 ตัวจริงของลิเวอร์พูลมีเปลี่ยนสองสามจุดคือ ร็อบโบ้ที่ต้องผ่าตัดไหล่ทำให้ซิมิกาสต้องเป็นตัวจริงแทน 3 เดือน (พอไม่มีมิลเนอร์ก็จะลุ้นๆหน่อยว่าถ้าซิมิกาสเจ็บจะเป็นใครแล้วบอสจะขยับยังไง)
- อีกคนคือกราเวนเบิร์จ เพราะตั้งแต่โจนส์โดนแดงไป ลิเวอร์พูลต้องหาคนที่สมดุลมาช่วย แถมได้ลองทั้งเอลเลียต-เอ็นโดะ-กราเวนเบิร์จแล้ว กลายเป็นกราเวนเบิร์จที่ได้ลงตัวจริง ซึ่งผมอยากเห็นมานานแล้ว กับสามประสานแดนกลาง โซโบ-แม็คก้า-กราฟ
- ส่วนโจต้าได้กลับมาลงตัวจริงหลังจากพ้นโทษแบนมา(โจนส์ก็ครบแล้ว นัดหน้าได้ลง กัคโปก็กลับมาซ้อมแล้ว) ซึ่งนูนเญซยังสำรอง หลังจากทำผลงานในทีมชาติได้ดี (บอสคงไว้แก้เกมครึ่งหลัง
- 11 ตัวจริงเอฟเวอร์ตันนั้น การใส่แดนกลางมา 5 คน เพื่อจะต่อกรการเล่นเกมรุกของลิเวอร์พูล ทั้งโอนาน่า ดูคูเร่ การ์เนอร์ แม็คนีล แฮร์ริสัน ทิ้งเลวินไว้หน้าเป้า
- ผมชอบการร้องเพลงล้อใส่กันของเอฟกับลิเวอร์มาก ทีมนึงร้อง ทีมนึงโห่ 555 มันทำให้บรรยากาศในเกมเข้มข้นเข้าไปอีก โดยเฉพาะเวลาพิกฟอร์ดได้บอล แฟนบอลทีมเราไม่มีจังหวะไหนไม่โห่ 5555
- ต้นเกมลิเวอร์คุมเกมอยู่หมัด ยิ่งเกมรุกอันตรายทุกจังหวะ เสียดายที่ฝั่งซ้ายพึ่งจะเล่นด้วยกันครั้งแรก(มั้ง) ซิมิกาส-กราเวนเบิร์จ-ดิอาซ ส่วนฝั่งขวาซาลาห์ยังจับจังหวะบอลไม่ได้เท่าไหร่ แม้เทรนด์กับโซโบจะเข้าขากันมาก โดยเฉพาะการยืนตำแหน่งที่จะสลับกันยืน (เทรนด์ยืนสูง โซโบยืนต่ำแบบ Invert แทน)
- ผ่านไป 10 นาที ลิเวอร์ได้สวนเกือบ 2-3 ครั้ง เอฟยังจับต้นชนปลายไม่ได้ แต่เกมรับยังแข็งอยู่โดยเฉพาะเวลาโดนสวนนักเตะลงไปสกัดบอลได้ดีเกือบทุกจังหวะ ไมโคเลนโก ปิดซาลาห์ได้ดีด้วย
- ตอนได้ฟรีคิก การได้โซโบเข้ามาในทีมทำให้ทีมมีตัวเลือกอีกคนในการเล่นฟรีคิก แต่จังหวะที่เทรนด์ยิงหลังให้ซาลาห์เขี่ย เหมือนเอฟจะรู้ทางทำให้ติดบล็อค(ง่ายไปหน่อยจังหวะนี้)
- นอกจากโซโบแล้วกราเวนเบิร์จถือว่าเป็นอีกคนที่เหมาะสมสำหรับทีมมากๆ การเคลื่อนที่และการครองบอล ทำให้ผมนึกถึงไวจ์นัลดุม 2.0 เลย ซึ่งจุดที่กราฟทำได้ดีกว่าซีดุมคือการเล่นเกมรุกที่ดูจะแพรวพราวพอสมควร
- แอชลี่ย์ ยังเสียท่าให้ดิอาซทั้งสองรอบเลย ใจนึงผมก็เซงมันจะทำให้เอฟเสียเปรียบทำให้รูปเกมไม่มัน(เข้าใจอารมณ์เอฟเลย) แต่ใจนึงก็ให้ทีมอื่นโดนแดงบ้าง ฤดูกาลนี้ทีมเราโดนบ่อยเหลือเกิน
- จบครึ่งแรกยังเสมอ 0-0 ครึ่งหลังทุกคนถามหาถึงนูนเญซ 555 ซึ่งจังหวะสุดท้ายลิเวอร์พูลยังทำได้ไม่ดี ส่วนเอฟก็ยังยันเกมรุกไว้ได้
- ครึ่งหลังมาเอฟถอดปีกสองข้างออกแล้วใส่แบ็คกับกองหลังเข้ามาแพ็คแน่นอีก เพื่อให้ลิเวอร์เจาะยากมากขึ้น
- พอเราลองได้เปรียบเทียบจากการได้เล่น 11 คน เจอคู่แข่ง 10 คน ยิ่งทำให้รู้ว่าโอกาสที่เล่นเกมรุก ยากมากๆ แต่หลายเกมแล้วที่ลิเวอร์เล่น 10 คนแต่ยังเล่นเกมรุกได้ดี แสดงว่าลิเวอร์พูลปีนี้จิตใจแข็งแกร่งมากๆ เมื่อได้ดูจากเกมนี้แล้ว แต่กลายเป็นว่า เกมนี้เราเร่งจังหวะเกินไปหน่อย
- ช็อตโคนาเต้ นี่เสียวแว็บเลย จนคล็อปป์เลือกเปลี่ยนเอามาติปลงแทนเลย เพราะมีบทเรียนหลายเกมแล้ว
- กองหลังเอฟเวอร์ตันที่ชื่อ แบรนท์เวท ฟอร์มดีนะ เหมาะกับการเล่นเกมรับแบบนี้ คือผมว่าโทษเอฟไม่ได้เพราะเหลือ 10 คน มันบังคับให้เล่นเกมรับ และถอยลงมาแพ็คหน้ากรอบเขตโทษให้มากเข้าไว้ โดยเฉพาะเมื่อเจอกับทีมที่เล่นเกมรุกโหดๆแบบทีมเรา ซึ่งประเด็นคือเรามักจะแพ้ทีมที่เล่นแบบนี้ด้วย กลับกันถ้าเอฟมีเกมรุกแบบลิเวอร์ในเกมที่ลิเวอร์ฟอร์มไม่ค่อยดี ผมว่าเราก็มีสิทธิเสียแต้มเหมือนกัน แต่เอฟใช้การเปิดบอลยาวตลอด ยังไงก็เสร็จฟานไดจ์กับมาติปอยู่ดี น่าจะลองต่อบอลดู
- จังหวะที่ได้จุดโทษ คือมันชัดเจนว่าโดนแขนเพราะไม่หุบแขนเข้าลำตัว แต่ตอนกล้องจับไปที่ขวดของพิกฟอร์ดมีสูตรการเซฟไว้ด้วย ถือว่าสต๊าฟโค้ชเอฟเตรียมตัวมาดี แต่ซาลาห์ไม่ปล่อยจังหวะนี้ให้พลาด
- ผมอยากจะบอกว่า VAR มันมีทั้งทีมที่เสียประโยชน์และได้ประโยชน์ พรีเมียร์ลีกควรปรับกฏต่างๆให้ดีและใช้ VAR แบบฟุตบอลโลกใช้ในเรื่องของล้ำหน้าที่มีภาพโชว์เลย
- บางทีผมก็สงสัยเอฟเหมือนกัน เพราะช็อตโคนาเต้ก็มีสิทธิเหลืองสองได้ แต่กรรมการมองว่าก้ำกึ่งไปหน่อย เลยไม่ให้
- พึ่งจะเคยเห็นโกเมซยิงไกล แต่เอลเลียตทำให้ดูว่ายิงไกลที่ดีเป็นแบบไหน ซึ่งชมพิกฟอร์ดที่เซฟได้ดีเลย
- ทด 9 นาที เกมนี้จังหวะเราเยอะมากๆ แต่ประตูที่ได้คือจังหวะที่ได้จุดโทษ โซโบแม้จะเล่นได้ดีแต่จังหวะยิงยังไม่ค่อยได้ลุ้นเท่าไหร่
- จังหวะสุดท้ายได้ประตูนำอีก 2-0 คือช็อตที่เอฟต้องขึ้นมาเล่นลูกทุ่มแต่เสียบอลจนทาร์คอฟสกี้ต้องดวล 1-3 กับตัวรุกลิเวอร์พูล ถ้าเป็นแต่ก่อนนูนเญซคงยิงเอง จากจังหวะนี้ก็ไม่ค่อยมีอะไรมาก จบเกมลิเวอร์พูลชนะเอฟเวอร์ตัน 2-0
ปล. ซาลาห์ตอนนี้ยิงไป 104 ประตูในแอนฟิลด์ เท่ากับสตีเว่น เจอร์ราร์ด และเคนนี ดัลกลิช
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ทำประตูหรือแอสซิสต์ในแต่ละเกมจาก 13 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีกที่แอนฟิลด์; มีเพียงอลัน เชียเรอร์ (18 นัดและ 17 นัด) และเธียร์รี อองรี (17 นัด) ที่เคยทำได้ในการลงสนามในบ้านติดต่อกันมากกว่าในพรีเมียร์ลีก
โมฮาเหม็ด ซาลาห์กลายเป็นนักเตะคนแรกที่มีส่วนร่วมโดยตรงกับ 30 ประตูในพรีเมียร์ลีกในปี 2023: (31 เกม 18 ประตู 12 แอสซิสต์)
อลิสสัน เบ็คเกอร์เป็นผู้รักษาประตูคนแรกนับตั้งแต่เรย์ คลีเมนซ์ที่เก็บคลีนชีต 4 นัดติดต่อกันในเมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี้
บันทึก
3
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย