22 ต.ค. 2023 เวลา 03:11 • ความคิดเห็น

เรื่องของอาวุธปืนและความรุนแรงในสังคม

ผมเฝ้ามองปัญหาเกี่ยวกับอาวุธปืนอย่างเงียบๆมาเป็นปีแล้ว ถึงแม้ผมจะเป็นคนรักปืน ชอบปืน แต่ผมก็คิดมาตลอดว่าเราควรมีการควบคุมอาวุธปืนให้ดีกว่า 5-6 ปีที่ผ่านมานี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปืนดัดแปลงที่ผิดกฎหมาย, ปืนสวัสดิการที่ซื้อขายผิดมือ หรือกระทั่งปืนบางชนิดที่ไม่ควรให้นำเข้ามา ผมเชื่อว่าเรามีกฎหมายอาวุธปืนที่ดีและรัดกุมอยู่แล้ว ที่มีการปล่อยปละละเลยกันมาตลอด ส่วนหนึ่งของปัญหาก็มาจากการหาผลประโยชน์ของเจ้าหน้าที่รัฐเอง
จนกระทั่งมาระเบิดขึ้นจากกรณี เด็กอายุ 14 เอาปืนดัดแปลงผิดกฎหมายที่หาซื้อง่ายๆจากทางอินเตอร์เน็ตมากราดยิงคนในห้างพารากอน
มาถึงตอนนี้ “ปืน” และคนเล่นปืนก็เลยกลายเป็นผู้ร้ายของสังคม โดยเฉพาะในสายตาของคนที่อาจจะไม่ได้เข้าใจต้นตอของปัญหานี้
มาถึงตอนนี้ผมขอสลับฉากไปเล่านิทานให้ฟังสักเรื่องหนึ่งก่อนนะครับ
มีสาวสวยคนหนึ่ง พายเรือเล่นในทะเลสาบ บังเอิญว่าเรือที่เช่าไปมีเบ็ดตกปลาแถมไปให้ด้วย หลังจากอาหารเที่ยงริมฝั่ง เธอก็เผลอหลับไปในเรือ
ระหว่างที่หลับ กระแสลมกระแสน้ำก็พัดพาเราเรือลอยเข้าไปอีกด้านหนึ่ง ซึ่งเป็นพื้นที่ของอุทยาน
พอตื่นลืมตาขึ้นมาก็มองเห็นเจ้าหน้าที่อุทยานมาจอดเรือเทียบอยู่
“เราขอจับคุณในข้หาตกปลาในเขตอุทยานโดยไม่ได้รับอนุญาต”
“แต่ฉันไม่ได้ตกปลานะ แค่นอนหลับอยู่ในเรือ แล้วมันลอยเข้ามาในเขต” หญิงสาวพยายามอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น
“แต่คุณมีอุปกรณ์พร้อมที่จะทำความผิดนั้น” เจ้าหน้าที่อุทยานชี้ไปยังคันเบ็ดที่วางอยู่ในเรือ
“คุณจะเอาอย่างนั้นแน่นะ” สาวสวยถามย้ำ
เจ้าหน้าที่พยักหน้ายืนยัน
“ช่วยด้วย เจ้าหน้าที่จะข่มขืนฉัน ช่วยด้วย” สาวสวยตะโกนลั่นจนคนที่นั่งเรียงรายอยู่ริมน้ำลุกขึ้นดู หลายคนพร้อมที่จะเข้ามาช่วย
“เฮ้ย ทำไมคุณตะโกนแบบนั้น ผมยังไม่ได้ทำอะไรคุณเลย” เจ้าหน้าที่ลนลานท่ามกลางสายตาของคนบนฝั่งที่จ้องมอง
“แต่คุณก็มีอุปกรณ์พร้อมที่จะทำความผิดเหมือนกันนี่”
พ่อสอนให้ผมยิงปืนตั้งแต่ 8 ขวบ พ่อสอนให้รู้จักความปลอดภัย แล้วก็สอนว่าเราต้องรู้จักปืน ใช้ให้เป็นเพื่อทำหน้าที่ของผู้ชายในครอบครัวที่จะต้องปกป้องคนอื่นๆให้พ้นจากภัยอันตราย
ตั้งแต่เด็กผมเห็นปืนในภาพยนต์และอ่านในนิยายมาตลอด แน่นอนปืนมีทั้งอยู่ในมือของผู้ร้ายและคนดี แต่ในยุคนั้นปืนในมือของพระเอกมันคือเครื่องมือผดุงความยุติธรรมจากคนร้าย ปกป้องคนที่อ่อนแอกว่าจากอิทธิพลมืด หรือทรราชย์ และมันก็เป็นสิ่งที่ฝังลึกในใจผมมาตลอด
ตลอดเวลาเกือบ 50 ปีที่ผมอยู่กับปืน มีปืน หัดใช้ปืน และแนะนำให้เพื่อนๆน้องๆรู้จักกับการใช้ปืน ผมไม่เคยมีความคิดที่อยากจะเอาปืนออกมายิงใคร อาจจะมีบ้างที่ชักออกจากซองเพื่อรับกับสถานการณ์ที่ผู้อื่นก่อขึ้น
ในสายตาของคนที่อยู่ในเมืองและไม่เคยพบเจอสถานการณ์เลวร้ายกับตัวเอง อาจจะมองว่าอาวุธปืนเป็นของชั่วร้าย เป็นของไม่จำเป็น
แต่ผมเชื่อว่า อาวุธปืนคือของจำเป็นที่คนดีๆจะต้องมีไว้และหัดใช้ให้เป็น มันเป็นของจำเป็นมากสำหรับคนที่อาศัยอยู่นอกเมืองใหญ่, คนเมืองที่ต้องเดินทางไปต่างจังหวัด หรือแม้กระทั่งคนที่อยู่ในเมืองเอง มันเป็นของจำเป็นเมื่อเราต้องปกป้องครอบครัวในยามที่เราต้องพึ่งพาตัวเอง
ลองนึกถึงเหตุการณ์เหล่านี้ที่อาจจะเกิดกับใครเมื่อไหร่ก็ได้ คุณขับรถไปแล้วพบว่ารถยางแตกเพราะโดนวางตะปูกลางดึกที่ไหนที่ไม่คุ้นเคย, พาครอบครัวไปแค้มป์หรือพักบ้านต่างจังหวัดแล้วมีกลุ่มชายฉกรรจ์เมาเดินเข้ามา, เกิดเหตุความไม่สงบแล้วลุกลามเป็นจราจลไม่ไกลจากบ้าน หรือแค่ง่ายๆว่า เครื่องกันขโมยในบ้านดังขึ้น ดูกล้องวงจรปิดแล้วมีคนแปลกหน้าเดินอยู่ในบ้าน โทรเรียกตำรวจแล้วแต่ไม่รู้อีกกี่นาทีจะมาถึง
อย่าคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัวนะครับ มันเกิดขึ้นกับคนที่ผมรู้จักมาแล้วทุกเรื่องที่ว่ามา ยังเกิดขึ้นทุกวัน เพียงแต่ยังไม่ถึงคิวเรา
ผมเชื่อว่าหลายคนเคยพบกับสถานการณ์เหล่านี้มาบ้างแล้ว เพื่อนๆผมหลายคนที่เจอล้วนยืนยันว่า เมื่อโทรขอความช่วยเหลือ เร็วที่สุดก็ 30 นาที บางคนถึงกับต้องรอกว่า 2 ชั่วโมง ถ้าหากเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้น ไม่ทันแน่นอนครับ ตัวเองอาจจะไม่เป็นไร แต่ลูกเมียล่ะ เป็นห่วงเขามั๊ย
ยิ่งไปกว่านั้น ผมยังมีมุมมองว่าการมีอาวุธปืนคือเครื่องหมายของความปลอดภัยและอิสรภาพของคนดี ที่อยู่ในสังคมที่มีคนร้ายปะปนอยู่มากมายอย่างทุกวันนี้และที่มันเป็นเสมอมา
ใช่ครับ ผมเห็นด้วยที่ควรจะมีการควบคุมอาวุธปืนให้รัดกุมกว่าที่ผ่านมา แต่ผมก็เชื่อว่าไม่จำเป็นต้องลุกขึ้นมาแก้ไขกฎหมายอะไรเพราะกฎหมายอาวุธปืนของเราที่มีอยู่นั้นรัดกุมและเข้มงวดอยู่แล้ว ปัญหาที่เกิดขึ้น มาจากช่องโหว่ของการปฏิบัติมากกว่าตัวกฏหมาย
จากเหตุการณ์การกราดยิงที่พารากอน ผู้คนในสังคมบางคนโทษอาวุธปืนที่หาซื้อได้ง่าย, บางคนโทษเกมส์รุนแรงที่เด็กเล่น,​ บางคนโทษ Social media, บางคนโทษพ่อแม่เด็ก ฯลฯ
แต่ถ้าหากจะถามความเห็นผมว่าเกิดจากอะไร ผมคิดว่ามีส่วนทั้งหมดที่ว่ามา แต่ที่ผมคิดว่าร้ายแรงและน่าเป็นห่วงที่สุด คือความสับสนของสังคมระหว่างความผิดชอบชั่วดี ไปจนถึงการขาดหายไปของความเข้าใจหน้าที่ลูกผู้ชาย
แล้วเราจะทำยังไงกับมัน?
ผมจะฝึกยิงปืนต่อไปครับ
ตาเกิ้น
21 ตุลาคม 2566
credit ภาพวาดโดย John Philip Falter
โฆษณา