(War of the ring: 2nd edition (2011) + Lords of middle-earth (2012) + Kings of middle-earth (2023))
Designer: Roberto Di Meglio, Marco Maggi, Francesco Nepitello
เรื่องราวพันธมิตรแห่งแหวนของ J.R.R. Tolkein น่าจะเป็นเรื่องราวที่ใครหลายต่อหลายคนสนใจ และที่สำคัญ สำหรับเกม War of the ring น่าจะเป็นเกมจำลองสงครามระดับเทพ ที่ใครๆ หลายคนคงเคยได้ลองแล้ว แถมตอนนี้ยังมีแปลไทยให้เล่นกันเข้าใจง่ายขึ้นอีกด้วย แต่ล่าสุดในเกมได้มีภาคเสริมออกใหม่วางขายครั้งแรกในงาน Essen Spiel 2023 ที่เราเพิ่งไปมา โดยมีชื่อว่า Kings of middle-earth เราจึงได้มีโอกาสสอยมาลองเล่นแบบจานร้อน และจะหยิบมาเล่าให้อ่านเล่นกันค่ะ
ในส่วนของ Kings of middle-earth จะพาเราไปจำลองสถานการณ์ของการแย่งยื้อบรรดากษัตริย์แห่ง middle-earth (Brand: King of Dale, Dain: King under the mountain, Denethor: Lord Steward of Gondor, Theoden: King of the Riddermark, Thranduil: King of the Woodland realm) ให้มาร่วมมือเป็นพันธมิตรแห่งแหวนด้วยกันก่อนที่ฝั่ง Shadow (ฝ่ายเงามืด) จะสามารถทำการล่อลวงให้กษัตริย์ของแต่ละเผ่าพันธุ์หลงผิดมาเข้าร่วมเป็นสมุนฝ่ายตนเอง และขัดขวางภารกิจส่งแหวนของฝั่ง Free people (ฝ่ายเสรีชน) สำเร็จ
นอกจากนี้ฝ่าย shadow ยังมีตัวละครสนับสนุน อย่างกลุ่ม Dark Chieftains (The Shadow of Mirkwood, Ugluk, The black serpent) เพิ่มเข้ามาเป็นลูกสมุนให้เรียกใช้เสริมกำลังการตามล่าฝั่ง Free people อีกแรงด้วย
ในตัวเกมหลัก War of the ring เป็นเกมที่ถูกออกแบบมาสำหรับ 2 คน แต่มีกฎที่สามารถปรับเล่น 3-4 คนได้ การต่อสู้ครั้งนี้เป็นการแข่งกันทำภารกิจของฝั่ง Free people ผู้ซึ่งต้องทำภารกิจส่งแหวนไปทำลายยังปากปล่องมฤตยู VS ฝั่ง Shadow ที่ต้องขัดขวางกลุ่ม fellowship of the ring และยึดพื้นที่ใน middle-earth ให้ได้มากที่สุดเพื่อทำลายเผ่าพันธุ์ของฝั่ง Free people ซึ่งจาก concept นี้เองทำให้เกมนี้เป็นเกมจำลองสงครามที่มีมากกว่าแค่มิติของการยกทัพตีกัน
ระบบการต่อสู้อาจจะยุ่งยากไปนิด เพราะต้องรอเข้าสู่ภาวะสงคราม แต่มันก็ล้อไปกับเส้นเรื่องที่ว่าในความเป็นจริงแล้วไม่ได้มีใครไปอยากเปิดศึกกับฝ่าย shadow โดยไม่จำเป็น หากภัยไม่จวนตัว และไม่ได้รับการเตือนให้รู้ถึงการกลับมาของ Dark Lord จากเหล่า Fellowship
ในรอบนี้เราได้เล่นโดยใส่ภาคเสริมไป 2 ตอนคือ เสริมแรกอย่าง Lords of middle-earth และเสริมล่าสุดคือ Kings of middle-earth
Lords of middle-earth
ภาคเสริมนี้จะเพิ่มความสามารถของ three Elven ring ให้กับฝ่าย Free people ซึ่งเดิมในเกมหลัก Elven ring เป็นเหมือน Free token ที่ให้ทิ้งเพื่อเปลี่ยนหน้า action dice เป็นหน้าที่เราต้องการ แต่ในตัวเสริมนี้จะมีผู้ถือครองแหวนทั้งสามวงเป็นผตัวละครเพิ่มให้ ได้แก่ Gandalf the Grey ผู้ครอง Narya ring (มีความสามารถใหม่เพิ่มมาให้เลือกเล่นสลับกับ Gandalf ในเกมหลักได้), Lord Elrond ผู้ครอง Vilya ring และ Lady Galadriel ผู้ครอง Nenya ring
โดยเมื่อเราเรียกตัวละครเหล่านี้ลงไปในพื้นที่ที่กำหนดได้ เราก็จะสามารถใช้ความสามารถพิเศษของ Elven ring เพิ่มได้ รวมถึงจะได้เพิ่ม Keeper dice ลงไปใน action dice pool ของเราด้วย
ส่วนในฝั่ง Shadow จะมีการเพิ่มตัวละคร The Balrog ซึ่งเมื่อลงเล่นจะมีบทบาทในการช่วยล่ากลุ่ม fellowship ให้ง่ายขึ้น และเพิ่ม Gothmog ซึ่งช่วยในการ recruit Sauron unit ได้ง่ายขึ้น ทั้งสองตัวละครนี้เมื่อได้ลงเล่นก็จะเพิ่ม action dice พิเศษให้กับฝั่ง Shadow เช่นกัน นอกจากนี้ยังมี version เสริมของตัวละคร The Mouth of Sauron และ The Witch-king ให้เลือกสลับเล่นได้อีกด้วย
Kings of middle-earth
ภาคเสริมนี้จะเพิ่มกฎการเล่นที่ซับซ้อนขึ้นเข้ามา นั่นคือเรื่องราวของเหล่ากษัตริย์แห่ง middle-earth เพราะพวกเค้าทุกคนจะถูก set up ไว้เริ่มต้นในเกมเลยตามตำแหน่งเมืองสำคัญที่ตนเองปกครอง แต่อยู่ในสภาพ non-awakened ซึ่งหมายถึง พวกเค้าเป็นผู้นำที่ร่วมต่อสู้เฉพาะเมื่อยามจำเป็นได้ แต่ยังไม่เข้าสู่พันธมิตรแห่งแหวน
นอกจากนี้ฝั่ง shadow ยังได้ตัวละครที่เรียกว่ากลุ่ม Dark Chieftains เพิ่มมาอีก 3 ตัว ซึ่งเน้นช่วยความสามารถในแง่ของการรบให้กับฝั่ง shadow และเมื่อมีการเรียกตัวละครกลุ่มนี้เข้ามา shadow ก็จได้เต๋า shadow ruler dice ที่มีหลักการใช้เหมือนกันกับ ruler dice ของ Free people คือเมื่อทอยเต๋า และเลือกเล่น ruler die เราจะต้องเลือกทิ้งผลลัพธ์ของ action dice ปกติไปหนึ่งลูก
ในส่วนภาค Lords of middle-earth เป็นภาคเสริมเล็กๆ ที่ช่วยคนเล่นได้มาก สิ่งที่ปรับเปลี่ยนเพิ่มมาเพื่อช่วยเหลือฝั่ง Free people ให้เล่นการรบได้ง่ายขึ้น และไม่ได้เปลี่ยนรูปแบบการเล่นมากจนทำให้ซับซ้อนเกินไป ของฝั่ง shadow ก็เป็นการเพิ่มเติมความหลากหลายของตัวละคร และเพิ่มแนวทางการล่าแหวนด้วยตัวละคร Balrog ที่ตอนเล่นเราชอบเรียกออกมา และส่งเค้าบินโฉบไปดักทาง Frodo ให้จับได้ง่ายขึ้น เดินยากขึ้น ในแง่ของคนที่เล่นเกม War of the ring มือใหม่ๆ เสริมนี้ก็ถือว่าออกมาช่วยลดความอึดอัด และความยากของเกมได้ดี
แต่ในภาค Kings of middle-earth อาจจะเป็นความตรงกันข้าม เสริมนี้เพิ่ม complexity ให้กับเกมเยอะ แต่ก็เพิ่ม thematic ระดับสูงให้กับเกมด้วยเช่นกัน ถ้าคุณเล่น War of the ring มาสักพักแล้ว และคุ้นเคยกับเกมดี การใส่ Kings of middle-earth จะทำให้คุณสนุกกับเกมยิ่งขึ้นไปอีก มันน่าตื่นเต้นมากที่เราจะได้เห็นว่า corrupted king ส่งผลเสียยังไงกับอาณาจักร และเผ่าพันธุ์ของตน ในทางตรงกันข้าม เค้าก็สามารถช่วยเหลือดินแดนของตนได้มาก เมื่อเค้าตระหนักรู้ถึงสิ่งที่คนเป็นกษัตริย์ควรจะต้องทำ
เหล่า Kings ค่อนข้างดึง action ไปจากฝ่าย Free people มากพอควร ในการที่จะจัดแจงให้อยู่ในเงื่อนไขที่ awakened ได้ จะปล่อยไว้ช้านานเกินไปฝั่ง shadow ก็อาจเอาเต๋า Eye of Sauron มาใช้ค่อยๆ ครอบงำได้ การเลือกปลุกกษัตริย์เหล่านี้จึงต้องวางแผน เลือกคนที่สำคัญ ในจังหวะที่เหมาะสม เพราะถึงแม้ว่าฝั่ง shadow จะต้องใช้เต๋า Eye of Sauron แต่พื้นฐานแล้วพวกเค้ามีเต๋ามากกว่า Free people อยู่เสมอ ซึ่งทำให้ shadow ได้เปรียบในการค่อยๆ ลักลอบครอบงำกษัตริย์
ถ้าจะมองในแง่ของ gameplay ภาคเสริมนี้จึงถือว่าปรับเกมไปเยอะ และอาจทำให้ผู้เล่นต้องปรับเปลี่ยนแผนไปจากเกมหลักพอควร เหมาะกับคนที่คุ้นเคยกับเกมมามากแล้ว และไม่รังเกียจความยุ่งยากที่จะโดนเพิ่มมา แต่สิ่งนี้ก็ทำให้ได้มาซึ่งอรรถรสเกมที่ลุ่มลึกขึ้น และทำให้เราหลงรักความ thematic ของเกม War of the ring ยิ่งขึ้นไปอีก