22 ต.ค. 2023 เวลา 17:41 • ธุรกิจ

ต้องมีเท่าไหร่? ถึงจะเรียกว่าอิสรภาพทางการเงิน

อิสรภาพทางการเงิน คือ ?
การที่เรามีเงินมากพอที่จะจับจ่ายใช้สอยไปจนสิ้นอายุขัยโดยที่ไม่ต้องทำงาน แต่นัยจริง ๆ ไม่ได้หมายความว่าเราไม่ต้องทำงานเลย เราทำงานต่อไปได้ (หรือจะไม่ทำก็ได้นะ แต่ไม่แนะนำนะครับ เพราะความเหงาจะมาเยือน เดี๋ยวจะเป็นอัลไซเมอร์ได้)
จะเป็นงานเดิมหรือเปลี่ยนไปหางานที่เรารักก็ย่อมทำได้ หรือไม่งั้นไปทำงานอาสาช่วยเหลือผู้คนไปเลย ได้บุญและมีความสุขอีกด้วย แต่ ณ เวลาที่เรามีอิสรภาพทางการเงินนั้น เราจะไม่เครียดเรื่องเงินทองแล้ว
เพราะเรามั่นใจแล้วว่าเราจะมีเงินมากพอที่จะใช้ไปจนสิ้นอายุขัยได้ แต่ไม่ได้หมายความเราจะมีอิสรภาพกับทุกเรื่องนะครับ เราจะยังมีภาระอื่น ๆ อีก เช่น ครอบครัว ยกเว้นเรื่องเงินที่เราไม่ต้องกังวลแล้วเท่านั้นเอง
แล้วมีเท่าไหร่ถึงจะเรียกว่าอิสภาพทางการเงิน?
เป็นคำถามปลายเปิดมากนะครับ แต่ละคนมีความต้องการ การใช้ชีวิต และภาระที่แตกต่างกันมาก ดังนั้น แต่ละคนมีความต้องการเงินเพื่อให้มีอิสรภาพทางการเงินย่อมแตกต่างกันไปด้วย โดยมี 3 ปัจจัยที่เราต้องคำนึงถึงในการคำนวณว่าเราควรมีเงินเท่าไรหากต้องการมีอิสรภาพทางการเงิน ได้แก่
  • 1.
    อายุที่เราต้องการมีอิสรภาพทางการเงิน (ขอย้ำไม่ใช่อายุที่เราต้องการเกษียณ บางคนมีอิสรภาพทางการเงินแล้ว แต่ไม่เกษียณและทำงานต่อไปมีเยอะนะครับ)
  • 2.
    ค่าใช้จ่ายต่อเดือนที่เราต้องใช้หลังมีอิสรภาพทางเงิน และสุดท้าย
  • 3.
    อายุขัยของเรา (คาดการณ์ยากมากครับ แต่ค่าเฉลี่ยคนไทยมีอายุขัยประมาณ 80-85 ปี)
อายุที่เราต้องการมีอิสรภาพทางการเงิน แน่นอนว่าทุกคนต้องการมีอิสรภาพทางการเงินให้เร็วที่สุด แต่เราต้องเข้าใจว่าการมีอิสรภาพทางการเงินเร็วนั้น หมายถึง เราต้องมีเงินมากขึ้นเป็นเงาตามตัว และอาจต้องทำงานหนักมากขึ้นเพื่อให้ได้เงินมา ซึ่งทำงานหนักไม่ได้หมายถึงหนักทางกายอย่างเดียว แต่หนักทางสมองและหนักทางใจด้วย และขอย้ำอีกครั้ง
ไม่ได้หมายความว่าเรามีอิสรภาพทางการเงินแล้วต้องหยุดทำงาน เพราะหากเรามีอิสรภาพทางการเงินเร็ว เราอาจได้ทำอะไรในสิ่งที่รักมากขึ้น เพราะในช่วงอายุของการทำงานนั้นเป็นการยากมากที่จะเลือกระหว่างทำงานที่เรารัก กับทำงานที่ได้เงิน ซึ่งมีไม่กี่คนหรอกครับที่โชคดีได้ทำงานที่ตัวเองรักและได้เงิน ส่วนผมเองมักจะสอนหลาย ๆ คนว่า อย่าพยายามหางานที่ตัวเองรัก เพราะมันอาจใช้เวลานานเกินไป แต่จงพยายามรักในงานที่ทำ มันง่ายกว่าที่จะหา
ค่าใช้จ่ายต่อเดือนหลังมีอิสรภาพทางการเงิน เป็นตัวเลขที่สำคัญมากที่เราต้องรู้ เราจะไม่สามารถคำนวณได้เลยว่าเราจะต้องมีเงินเท่าไรเพื่อให้มีอิสรภาพทางการเงิน หากเราไม่คำนวณตัวเลขนี้ ซึ่งนั้นคือที่มาที่ผมให้ทุกท่านสำรวจตัวเองว่ามีรายได้เท่าไร มีค่าใช้จ่ายต่อเดือนเท่าไร แยกเป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็นกับค่าใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือย
ดังที่ผมได้สอนไปแล้วใน 2 ตอนแรก เพื่อให้รู้ว่าหากเราจะมีชีวิตอยู่โดยไม่ต้องทำงานเลย เราจะต้องมีค่าใช้จ่ายต่อเดือนเท่าไร จะลดลงได้เท่าไรและอย่างไร ทั้งนี้เพื่อให้เรามีอิสรภาพทางการเงินได้เร็วขึ้น ดังนั้นการมีอิสรภาพทางการเงินไม่ใช่ว่าจะต้องมีเงินเท่าไรถึงจะเพียงพออย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับว่าจะใช้เงินเท่าไรถึงจะพอด้วยนะครับ
ช่วงเวลาที่เหลืออยู่หลังมีอิสรภาพทางการเงิน ในอนาคตประเทศไทยจะมีผู้สูงวัยมากขึ้น เราต้องคิดถึงช่วงสุดท้ายของชีวิตไว้ด้วย เป็นสัจธรรมของชีวิตที่ทุกคนเกิดมาต้องตาย หากโชคดีช่วงสุดท้ายของชีวิตเราอาจมีลูกหลานดูแล แต่ในอนาคตเรื่องนี้คงเป็นไปได้ยากมากขึ้น สำหรับในประเทศไทยอายุเฉลี่ยของคนไทยสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในปี 2562 อายุเฉลี่ยผู้ชายไทยอยู่ที่ประมาณ 73 ปี ส่วนผู้หญิงอยู่ที่ประมาณ 80 ปี เราอาจใช้ตัวเลขนี้ในการประมาณการอายุเราก็ได้
แต่อย่าลืมเผื่อให้นิดหน่อยเพราะในอีก 10 - 20 ปีข้างหน้า อายุเฉลี่ยคนไทยจะมากขึ้นอีกจากการแพทย์ที่ก้าวหน้ามากขึ้น โดยมีการคาดการณ์ไว้ว่าในปี 2583 อายุเฉลี่ยของคนไทยรวมทั้งเพศชายและหญิงจะเพิ่มขึ้นเป็น 83 ปี จาก 77 ปี ในปี 2562 คนเริ่มทำงานหรือเพิ่งจบออกมาหางานทำตอนนี้จะรู้ไหมนะ ว่าเขามีภาระการดูแลตัวเองมากกว่ารุ่นปู่ย่า ตายาย พ่อแม่ของเขามากเลย ยังไงก็วางแผนให้ดี “เสียใจที่ใช้เงินไม่หมดก่อนตาย ดีกว่าเสียใจที่ใช้เงินหมดแล้วยังไม่ตาย” นะครับ
สำหรับใครที่สนใจ เรียนรู้แนวทางวางแผนการเงินเพื่อเป้าหมายชีวิต และการใช้เครื่องมือทางการเงินต่าง ๆ ในการสำรวจสถานะทางการเงินของตนเอง เพื่อสร้างความมั่งคั่งในอนาคตของตนเองได้ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่นี่
โฆษณา