26 ต.ค. 2023 เวลา 00:30 • ธุรกิจ

ผีหลอก AI หลอน มี AI แย่งงาน เราจะตายกันหมด!

เป็นประเด็นร้อนแรงในโซเชียล เมื่อเพจ The Ghost Radio ได้โพสท์รับสมัครงานตำแหน่ง AI Artist มาวาดรูปประกอบรายการ
โดยชาวเน็ตได้มาเอดจูเขตถึงเรื่องนี้ว่า การใช้ AI วาดภาพนั้น มีประเด็นตรงที่ ในการเทรน AI ให้มีความสามารถวาดภาพโดยมีองค์ประกอบดังใจผู้ใช้ ส่วนหนึ่งเกิดจากการหยิบฉกภาพที่นักวาด สายผลิต เคยวาดไว้ในที่ต่างๆ มาใช้ในกระบวนการเรียนรู้ของ AI
แต่ปัญหาคือ ภาพของนักวาด ถูกใช้ไปฟรีๆ ในขณะที่ ผู้ผลิต AI ได้เงินจากการขายโปรแกรมเจนภาพ แต่นักวาดไม่ได้อะไร จึงเป็นการเอาเปรียบนักวาด และถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ขโมยผลงาน กระแสดราม่านี้ทำให้ชาวเน็ตเกิดความไม่พอใจต่อตัวรายการ จนลามไม่ถึงการเลิกติดตามรายการกันเลยทีเดียว เพราะรับไม่ได้กับประกาศหานักวาด AI แบบนั้น แต่ล่าสุดทางเพจ The Ghost Radio ก็ได้ออกมาขอโทษ และยกเลิกการรับสมัครงานในตำแหน่งนั้นไปละ
แต่ประเด็นเรื่อง AI จะมาแย่งงานนั้น ไม่ได้หลอนกันแค่ในหมู่นักวาด แต่ได้กระจายไปทั่วทุกวงการสายอาชีพต่างๆ โดยมีความเห็นจาก คุณ Amy Webb ซึ่งเป็น CEO แห่งสถาบัน Future Today ผู้เชี่ยวชาญด้านการมองอนาคต แต่ไม่ใช่ทำนายแบบแม่หมอ ธิดาพยากรณ์ เพราะชีมีข้อมูลจริง เก็ยสถิติจริงรองรับการวิเคราะห์ ดังนั้นจะมามองเห็นอนาคตเหมือนกันไม่ได้
ชีมองว่า AI สามารถเข้ามาช่วยงานเกี่ยวกับการเรียนรู้ ซึ่งต้องใช้การอ่าน การแยกประเภท จัดหมวดหมู่เป็นอย่างมาก ซึ่งงานประเภทนี้พบเจอได้ตาม law firm และ investment bank การใช้ AI ช่วยทำให้ลดชั่วโมงการทำงานเหล่านี้ลงได้
จนเกิดคำถามต่อว่า แล้ว AI จะมาแย่งงานชั้นรึป่าว แต่ก่อนที่จะตอบว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นจริง เราต้องรู้ก่อนว่าการที่ AI จะสามารถมาแทนที่ความรู้จากคนทำงานได้นั้น ก็ต้องอาศัยคนทำงานนั่นแหละเป็นผู้ป้อนข้อมูลหรือเทรนให้ AI เรียนรู้ได้ก่อน
1
เช่น นักศึกษาแพทย์มากมายถูกจ้างให้มานั่งคลิก Yes or No เป็นเวลา 8 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อทำสิ่งที่เรียกว่า reinforcement learning หรือ กระบวนการเรียนรู้จากฟีดแบคของมนุษย์ ดังนั้นแทนที่จะถามว่า AI จะมาแย่งงานมั้ย เรามาโฟกัสกันที่คำถามว่า AI จะเปลี่ยนโมเดลทางธุรกิจไปอย่างไรดีกว่า เช่น โครงสร้างการจ่ายเงินต่อชั่วโมงจะเปลี่ยนไปอย่างไรในบางอุตสาหกรรม
นอกจากเหล่าคนทำงานตัวเล็กตัวน้อยแล้ว ก็มีเหล่าผู้บริหารมาขอคำทำนายจากชีด้วยเหมือนกัน อย่าง CEO ธนาคารก็มาถามว่า AI จะช่วยลดจำนวนพนักงานได้แค่ไหน แต่แม่หมอเอมมี่อยากให้เหล่า CEO มองและพิจารณาให้ถี่ถ้วน ไม่แค่แค่การมองระยะสั้นในการเอา AI มาลดจำนวนคนทำงาน แต่ให้มองไปยาวๆ ถึงการเติบโตและการสร้างรายได้ทางด้านใหม่ๆ แต่แม่หมอบอกว่าก็ยังไม่เห็นสิ่งนี้กับ CEO ในหลายๆประเทศนะ
สำหรับสิ่งที่น่ากังวลสำหรับแม่หมอ คือ เมื่อเราให้ข้อมูลในการเทรนระบบ AI แล้ว เราจะรู้ได้อย่างไรว่าใครเป็นเจ้าของและใครจะได้เงินจากสิ่งที่จะเกิดต่อไป
สิ่งที่ต้องถามคือ AI ไปเอาข้อมูลมาจากแหล่งไหน แล้วเราโอเคกับแหล่งนั้นมั้ย เชื่อถือได้รึเปล่า แล้วเมื่อเราได้ให้ข้อมูลของเราหรืออนุญาตให้เอาไปใช้เทรนแล้ว เราเอากลับคืนมาไม่ได้นะ ซึ่งก็คล้ายๆกับกรณี นักวาดที่โดน AI ขโมยผลงานไปใช้ที่พูดถึงข้างต้นนั่นเอง
สิ่งที่แม่หมอทำนายต่อไปคือ ระบบ AI ที่จะเริ่มสามารถดึงเอาตรรกะ เหตุผล และวิเคราะห์ กรณียากๆได้ เมื่อมีข้อมูลแวดล้อมที่เพียงพอ โดยแม่หมอได้ทดสอบแล้วกับ การประชุมทางการเงินที่เกิดขึ้นแล้วหนึ่ง โดยมีคณะกรรมการพิจารณาเกี่ยวกับเงินกู้ร่วม
โดยแม่หมอได้นำรายละเอียดของโปรแกรมการกู้ยืมรวมถึงรายการคณะกรรมการในการพิจารณา ป้อนให้กับ AI chat tool โดยให้ทำตัวเหมือนเป็นคณะกรรมการพิจารณาในเรื่องนี้ สิ่งที่ได้คือ พบว่า AI เหล่านี้ให้ความเห็นออกมาไม่ต่างจากคณะกรรมการตัวจริงแต่ละท่านกันเลยทีเดียว//ตรูจะตกงานละ
โฆษณา