ญี่ปุ่นครั้งเดียวไม่เคยพอ ท่องเมืองฟุกุฟูใจ “Fukuoka Japan”
พูดถึงประเทศญี่ปุ่นแล้วคงเป็นประเทศแรกๆ ที่ใครหลายคนใฝ่ผันที่จะไปเยือนสักครั้งในชีวิตและหนึ่งในนั้นก็เป็นเราเช่นกัน ทริปนี้เราเลือกที่จะไปเมืองฟุกุโอกะ ที่ตั้งอยู่ริมชายฝั่งของเกาะคิวชู และได้รับการจัดอันดับว่าเป็นเมืองน่าอยู่อันดับ 12 ของโลกด้วย จากการที่ในเขตตัวเมืองมีพื้นที่สีเขียวจำนวนมาก
ก่อนที่จะไปท่องแดนปลาดิบต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง เช่น ตั๋วเครื่องบิน, การพกเงินสดหรือบัตรพรีเพย์ และการแลกบัตร JR Pass อยู่ท้ายของรีวิวเลยน๊า>>>
🎏 รีวิวทริปญี่ปุ่น 9 วันนี้เราจะไปไหนบ้าง ?
เดินทางไป 2 เมืองหลักๆ คือ ฟุกุโอกะ และ เมืองยูฟุอิน
14 พิกัด เมืองฟุกุโอกะ :
1. Hagekure Udon ร้านอุด้งเก่าแก่
2. วัดนันโซอิน สักการะพระนอนที่ใหญ่ที่สุดในโลก
3. Nokonoshima Island Park ชมสวนดอกไม้บนเกาะ
4. Ainoshima Island เกาะสวรรค์แมวเหมียว
5. Mutchanmanju แวะกินขนมปลาย่าง "ไทยากิ"
6. ศาลเจ้ามิยาจิดาเกะ ชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุด
7. Starbucks สาขาที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น
8. ศาลเจ้าดาไซฟุเท็มมังกู ขึ้นชื่อในเรื่องขอพรการเรียน
9. สวนโอโฮริ Ohori Park สวนสาธารณะใหญ่กลางเมือง
10. สวนไมซุรุ Maizuru Park สวนดอกซากุระนับร้อย
11. ซากปราสาทฟุกุโอกะ จุดชมเมืองฟุกุโอกะวิวพาโนรามิก
12. Ichiran Tenjin Nishidori ราเมงข้อสอบในตำนาน
13. Momochi Seaside Park เดินเล่นชายหาด
14. Fukuoka Tower ชมแสงไฟหอคอยฟูกุโอกะยามราตรี
Hagakure Udon
🍜 พิกัดที่ 1 : Hagakure Udon ร้านอุด้งเก่าแก่
มื้อแรกของเราที่ฟุกุโอกะ ด้วยการที่นั่งเครื่องมาหลายชั่วโมงและอากาศในช่วงนี้กำลังดี ไม่หนาวและไม่ร้อนเกินไปเลยขอเดินเล่นชมเมืองไปในตัว โดยปักหมุดมุ่งตรงไปที่ร้านอุด้งขึ้นชื่อในเรื่องความอร่อยและคิวยาวเหยียด
ไปถึงร้านในช่วง 11โมงกว่า ก็ได้โต๊ะเลย เราสั่งเป็น Udon Beef 580¥ และ Udon Eggs 430¥ ต้องคิดเงินรวมแล้ว 1,010¥(247บาท) และได้ลองใช้บัตร YouTrip เป็นครั้งแรกด้วยสะดวกมากๆ
มื้อแรกของเราที่ญี่ปุ่นครั้งนี้ อุด้งน้ำซุปใสแต่มีความแตกมัน เข้มข้นมากๆ ซดจนหมดชาม เหลือบมองหน้าต่าง ด้านหน้าร้านมีคิวยาวเหยียดอย่างไม่น่าเชื่อ หันมองไปภายในร้านมีคิวนั่งรอจนเต็มร้าน โชคดีของเราจริงๆ ที่มีก่อนเที่ยงสินะ
🚩 Hagakure Udon
⏰ เวลาเปิด-ปิด : 11:00-15:00 น. และ 17:00-21:00 น.
นันโซอินไดบุตสึ (Nanzoin Daibutsu)
⛩️ พิกัดที่ 2 : วัดนันโซอิน สักการะพระนอนใหญ่ที่สุดในโลก
ครั้งแรกของการเดินทางด้วยรถไฟด้วยบัตร JR Kyushu North Rail Pass ของเรา
พอถึงสถานีระหว่างทางเดินไปวัด เราเดินผ่านสะพานน่ารักๆ ที่มีเครื่องดนตรีตรงเชิงสะพานให้เราได้บรรเลงเพลงเล่นชมวิวลำธารใสๆ รู้สึกผ่อนคลายท่ามกลางธรรมชาติ
จนมาตามทางเดินขึ้นวัด เราสามารถกราบไหว้พระพุทธรูปและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ตามจุดต่างๆ บริเวณโดยรอบจะเงียบสงบและรายล้อมไปด้วยป่าเขาอุดมสมบูรณ์ ต้องคอยสังเกตป้ายที่บอกกฎระเบียบต่างๆ เพื่อเคารพให้เกียรติต่อสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกายให้สุภาพหรือการถ่ายรูป เพราะบางจุดก็ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปได้
เราเดินดื่มด่ำกับธรรมชาติภายในวัด จนเดินขึ้นมาถึงองค์พระนอนสัมฤทธิ์ขนาดใหญ่ “นันโซอินไดบุตสึ (Nanzoin Daibutsu)” ณ วัดนันโซอิน ที่เราอยากมากราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลและเห็นกับตาตัวเองสักครั้ง ซึ่งเป็นที่กล่าวว่าเป็นพระพุทธรูปสำริดที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีขนาดความยาว 41 เมตร ถูกแกะสลักจากทองสัมฤทธิ์ชิ้นเดียว โดยบริเวณฝ่าเท้าของพระนอนจะมีลวดลายสีทองสลักเอาไว้ เป็นพระพุทธรูปที่มีความงดงามเกินที่จะบรรยายได้จริงๆ
🚩 วัดนันโซอิน (Nanzoin)
⏰ เวลาเปิด-ปิด : 10.00-16.30 น. (ไม่มีค่าเข้าชม)
การเดินทาง :
- นั่งรถไฟจากสถานี JR Sasaguri Line ไป Kidonanzoin-Mae Station 34 นาที
- เดินประมาณ 200 เมตร
*การเดินทางขึ้นอยู่กับจุดเริ่มต้นของแต่คนอีกทีนะ
ชมสวนดอกไม้บนเกาะ
🌸 พิกัดที่ 3 : Nokonoshima Island Park ชมสวนดอกไม้บนเกาะ
ตื่นสายๆ วันนี้ทริปชิลๆ ชมสวนดอกไม้บนเกาะเล็กๆ ที่ชื่อว่า เกาะโนะโคะโนะชิมะ (Nokonoshima Island Park) หลังจากที่กลับมาจากเมืองยุฟุอินตอนหัวค่ำเมื่อวาน ช่วงบ่ายเราและเพื่อนๆ เดินไปขึ้นรถบัสที่ใกล้ที่พักที่สุด
ทุ่งดอกไม้ที่สวน Nokonoshima จะแบ่งเป็นหลายโซนที่จะคอยปลูกดอกไม้สลับกันไปเรื่อยๆ จึงทำให้สวนแห่งนี้มีทุ่งดอกไม้ให้ชมได้ตลอดทั้งปี โดยมีช่วงไฮไลท์อยู่ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงเดือนกรกฏาคม
มกราคม ~ ดอก Narcissus ดอก Camellia
กุมภาพันธ์ ~ ดอก Camellia ดอกบ๊วย
มีนาคม ~ ดอกนาโนะฮานะ ดอก Rapeseed ดอก Puppy
เมษายน~ ดอกซากุระ ดอก Daisy ดอก Poppy ดอก Rhododendron
พฤษภาคม ~ ดอก Marigold ดอก Daisy ดอก Poppy
มิถุนายน ~ ดอก Marigold ดอก Hydrangea ดอก Dahlia
กรกฏาคม ~ ดอก Marigold ดอกหงอนไก่ ดอกทานตะวันดอกเฟื่องฟ้า
สิงหาคม ~ ดอกแซลเวีย ดอกหงอนไก่ ดอกทานตะวัน ดอกเฟื่องฟ้า
กันยายน ~ ดอก Dahlia ดอกทานตะวัน ดอกเฟื่องฟ้า
ตุลาคม ~ ดอก Dahlia ดอก Cosmos
พฤศจิกายน ~ ใบไม้เปลี่ยนสี ดอกแซลเวีย
ธันวาคม ~ดอก Camellia
เรามาตอนเดือนตุลาคมได้ชมทุ่งดอก Cosmos ยามเย็นที่บรรยากาศชวนฝันเอามากๆ คลื่นทะเลที่มีกระทบกับแสงพระอาทิตย์ระยิบระยับ ช่วยให้ผ่อนคลายจากทริปเมื่อวานได้ดีเลย เรานั่งเล่นบนสนามหญ้าจนถึงเวลาขึ้นรถบัสและเรือคิวสุดท้ายเลย ไว้จะกลับมาเที่ยวอีกนะ
🚩 Nokonoshima Island Park
⏰ เวลาให้บริการ:
จันทร์-เสาร์ 09:00–17:30น.
วันอาทิตย์ และวันหยุดต่างๆ 09:00–18:30น.
💴 ค่าเข้าชม: 1,200¥ (282บาท) / เด็ก 600¥ (141บาท)
การเดินทาง :
- ขึ้นรถบัส Watanabe-dori 1-chome (Denki Bldg. Kyosokan-mae) รถบัสหมายเลข 302 ไปลงที่ Noko Tosenba(bus) ราคา 420¥/คน (101บาท) 25นาที
- เดินไปที่ท่าเรือ meinohama ferry passenger terminal
- บัตรขึ้นเรือข้ามไปเกาะ ไป-กลับ ราคา 440¥/คน(106บาท) 10 นาที
- นั่งรถบัส ราคา 240¥/คน/เที่ยว(57บาท) 10 นาที หรือมีจักรยานให้เช่าด้วยนะ
*การเดินทางขึ้นอยู่กับจุดเริ่มต้นของแต่คนอีกทีนะ
Ainoshima Island
🐈 พิกัดที่ 4 : Ainoshima Island เกาะสวรรค์แมวเหมียว
ติดใจธรรมชาติบนเกาะเมื่อวาน วันนี้เลยอยากไปอีกเกาะหนึ่งที่มีน้องแมวเหมียว คือเกาะ Ainoshima Island เกาะเล็กๆ ที่มีลักษณะคล้ายรูปหัวใจ ที่สามารถมาเที่ยวครึ่งวันหรือวันเดย์ทริปได้ บรรยากาศก็จะชิลๆ สบายๆ คนไม่พลุกพล่านมากนัก แค่เดินลงมาจากท่าเรือ เหล่าน้องเหมียวก็มานั่งต้อนรับอยู่ตามมุมต่างๆ ทำทาสแมวอย่างเราใจละลายจนลืมความหิวไปเลย เราอยู่ที่นี่ถึงรอบเรือขากลับช่วง 13:50 ดีนะที่เราซื้อตั๋วเรือขากลับไว้เลยไม่งั้นไม่ได้ไปที่ไหนต่อแน่ๆ
🚩 Ainoshima Island (ไม่มีค่าเข้าชม)
เรือออกจากเกาะเที่ยวสุดท้าย 17:00น.
การเดินทาง :
- นั่งรถไฟจากสถานีรถไฟ JR Hakata ไปยังสถานีรถไฟ JR Fukko Daimae 17 นาที
- นั่งรถบัสไปยังท่าเรือ Shingu Port 100¥/คน (24บาท) 20 นาที
- นั่งเรือเฟอร์รี่ไปยังเกาะแมว Ainoshima Island 480¥/คน/เที่ยว (115บาท) 25 นาที
*การเดินทางขึ้นอยู่กับจุดเริ่มต้นของแต่คนอีกทีนะ
แวะกินขนมปลาย่าง "ไทยากิ"
🧇 พิกัดที่ 5 : Mutchanmanju Fukumaekimaeten แวะกินขนมปลาย่าง "ไทยากิ"
จากเกาะแมวถึงฝั่งแล้วเราก็ย้อนกลับทางเดิมเหมือนตอนมา จุดหมายต่อไปของเราคือ ศาลเจ้ามิยาจิดาเกะ ระหว่างทางได้กลิ่นหอมแป้งขนมชวนให้ท้องหิว เลยแวะกินขนมปลาย่างญี่ปุ่น หรือที่เรียกว่า ไทยากิ มีหลากหลายไส้เลย ทำสดๆ ใหม่ๆ เลยราคาตัวละ 220¥ (52บาท) รสชาติคือกรอบนอกนุ่มใน ไส้เยิ้มๆ เลย
🚩 Mutchanmanju Fukumaekimaeten
⏰ เวลาให้บริการ: 10:00-18:00น.
จุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดในฟุกุโอกะ
⛩️ พิกัดที่ 6 : ศาลเจ้ามิยาจิดาเกะ จุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดในฟุกุโอกะ
จุดหมายต่อไปเราจะไปชมพระอาทิตย์ที่ ศาลเจ้ามิยาจิดาเกะ Miyajidake Shrine เป็นวัดชินโตที่สวยงาม มีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 1,600 ปี มีชิเมนาวะ (เชือกฟาง) ที่คนญี่ปุ่นถือเป็นสมบัติของชาติ
ไม่แน่ใจว่าวันที่เราไปเป็นวันสำคัญทางศาสนาไหม เพราะมีคนเยอะมากๆ และตรงบันไดก็ถูกกั้นเอาไว้ เดินมาข้างตกใจมาก คือมีคนนั่งกับพื้นต่อคิวกันยาวมากๆ จนสุดขอบถนน เราจึงเดินเข้าไปกราบไหว้ภายในศาลเจ้าด้านใน
จนเวลาประมาณห้าโมงกว่าสายกั้นประตูให้เปิดออกให้สำหรับผู้ที่มีบัตรและต่อคิวเท่านั้นได้ทยอยให้เข้าไปนั่งตรงบันไดจนเต็มทุกขั้น เราเลยเดินออกมาถ่ายภาพพร้อมชื่นชมความสวยงามของพระอาทิตย์ที่กำลังลับขอบฟ้าพร้อมส่องแสงอบอุ่นลอดออกมาตรงกลางช่องของประตูวัด ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผู้คนถึงอยากมาชื่นชมความสวยงามด้วยตาด้วยเองสักครั้ง
🚩 Miyajidake Shrine
การเดินทาง:
- นั่งรถไฟจากสถานี Shigucho ไปยัง Fukuma Station 13 นาที
- เดินจากไปจุดขึ้นรถบัส Fukumamiyajikuchi Bus Stop
- นั่งรถบัส Fukumamiyajikuchi Bus Stop ไปยัง Miyajidakemiya Mae(Miyajidake-Jinja Shrine Mae) 6 นาที
- เดิน 350 เมตร 6 นาที
*การเดินทางขึ้นอยู่กับจุดเริ่มต้นของแต่คนอีกทีนะ
Starbucks สาขาที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น
🍶 พิกัดที่ 7 : Starbucks สาขาที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น
บนถนนคนเดินที่ชื่อว่าถนนซันโด ถนนเส้นนี้จะมีทั้ง ร้านขายของที่ระลึก คาเฟ่ ร้านอาหาร ร้านขายขนมโมจิต่างๆ มากมาย ให้เราได้ช้อปกันก่อนจะเข้าไปไหว้ขอพรด้านในศาลเจ้า เราสะดุดตากับ Starbucks สาขานี้มาก ด้วยความโดดเด่นคือการใช้เทคนิคสถาปัตยกรรมของญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม“คิกุมิ” นำไม้มาประกอบเข้าด้วยกันโดยไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว ถึงได้ติดอันดับ Starbucks ที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น ไหนๆ ก็มาแล้วเราก็ขอแวะเข้าดื่มกาแฟสักหน่อย ถึงคนจะเยอะสักหน่อยก็ตาม
🚩 Starbucks Coffee - Dazaifu Tenmangu Shrine Omotesando
⏰ เวลาให้บริการ: 08:00-20:00 น.
การเดินทาง :
- นั่งรถไฟจาก Yakuin Station เปลี่ยนสายที่ Nishitetsu Futsujaichi เพื่อไปยัง Dazaifu Station ราคาไปกลับ 740¥/คน (179บาท) 27 นาที
*การเดินทางขึ้นอยู่กับจุดเริ่มต้นของแต่คนอีกทีนะ
Dazaifu Tenmangu
⛩️ พิกัดที่ 8 : ศาลเจ้าดาไซฟุเท็มมังกู ขึ้นชื่อในเรื่องขอพรการเรียน
เดินมาจนถึงศาลเจ้าดาไซฟุเท็มมังกู Dazaifu Tenmangu วันที่เราไปก็เหมือนจะเป็นวันสำคัญอีกแล้ว มีทั้งเหล่านักท่องเที่ยวและกลุ่มเด็กๆ จากโรงเรียนต่างๆ และก็อาจจะใช่จริงๆ คาดว่าน่าจะเป็นงานพิธีการของบุคคลสำคัญของญี่ปุ่น ระหว่างที่เดินชมวัดได้มีโอกาสได้พูดคุยกับคนญี่ปุ่นเลยโชว์รูปภาพให้ดู เขาบอกว่าถือเป็นโชคดีมากๆ ที่เราได้มีโอกาสที่ได้พบเห็นบุคคลสำคัญของญี่ปุ่น
ศาลเจ้าแห่งนี้มีอายุนับพันปี โดยสร้างขึ้นเพื่อเป็นการสักการะให้แก่นักปราชญ์แห่งยุคที่นี่จึงเหมือนจะมีชื่อเสียงในการขอพรด้านการเรียนการศึกษามากๆ และมีความเชื่อที่ว่าถ้าลูบหัวของรูปปั้นวัว จะได้รับพรด้านความรู้ และประสบความสำเร็จด้านการเรียน ถึงว่ามีทัศนศึกษาเด็กๆ จากโรงเรียนให้มาขอพรกันที่นี่นี่เอง ระหว่างเดินก็จะมีร้านขายขนมโมจิย่าง “อุเมะกาเอโมจิ” ที่ส่งกลิ่นหอมหวน จนทำให้เราอดใจไม่ไหว เลยต้องขอชิมสักชิ้นก่อนกลับ
🚩 Dazaifu Tenmangu
⏰ เวลาเปิด-ปิด : 6:00 - 19:00น. (ไม่มีค่าเข้าชม)
การเดินทาง :
- นั่งรถไฟจาก Yakuin Station เปลี่ยนสายที่ Nishitetsu Futsujaichi เพื่อไปยัง Dazaifu Station ราคาไปกลับ 740¥/คน (179บาท) 27 นาที
*การเดินทางขึ้นอยู่กับจุดเริ่มต้นของแต่คนอีกทีนะ
สวนโอโฮริ Ohori Park
🌳 พิกัดที่ 9 : สวนโอโฮริ Ohori Park นั่งผ่อนคลายสวนสาธารณะใหญ่กลางเมือง
วันนี้เลยอยากชื่นชมบรรยากาศในเมืองฟุกุโอกะก่อนที่จะบินกลับพรุ่งนี้ เรานั่งรถบัสไปที่ Ohori Park สวนโอโฮริ สวนสาธารณะใหญ่ที่อยู่ใจกลางของเมืองฟุกุโอกะ เป็นสวนที่มีสระน้ำขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใจกลางสวน ที่มีเกาะกลางสระอยู่ 3 เกาะซึ่งเชื่อมต่อกันด้วยทางเดินหิน และมีคูน้ำรอบเมืองหรือปราสาทของสมัยก่อน
ที่นี่เป็นเหมือนโอเอซิสที่ชาวเมืองมักจะใช้เวลาว่างมานั่งผ่อนคลายรับลมกันชิลๆ มีทั้งเรือเป็ดให้ปั่นเล่นกลางสระน้ำใหญ่และมีร้านกาแฟกระจายตามจุดต่างๆ เราเที่ยวมาหลายวันติดๆ แบบนี้ ได้ออกมาเดินทอดน่องช้าๆ สูดอากาศในสวนสาธารณะทำให้ผ่อนคลายได้ดีเลยล่ะ อีกทั้งยังจะได้เห็นวัฒนธรรมการใช้ชีวิตของคนญี่ปุ่นที่ออกมานั่งปิคนิค ออกกำลังกาย นั่งอ่านหนังสือ เป็นภาพที่ต่างออกไปจากที่เห็นอยู่ตามสถานที่ท่องเที่ยวหลักอีกด้วย
🚩 สวนโอโฮริ Ohori Park
⏰ เวลาเปิด-ปิด : 09:30-17.00 น. (ไม่มีค่าเข้าชม)
🚊 การเดินทาง :
- นั่งรถบัส Marioa Coity หมายเลข 9 ไปยังสถานี Yanagi Bashi 190¥/คน (45 บาท)
- เดินประมาณ 100 เมตร
Maizuru Park
🌸 พิกัดที่ 10 :สวนไมซุรุ Maizuru Park สวนดอกซากุระนับร้อย
เราเดินทะลุมาถึงสวนที่อยู่ติดกัน สวนไมซุรุ Maizuru Park เป็นสวนที่อยู่บริเวณพื้นที่ของปราสาทฟุกุโอกะ ที่รอบบริเวณสวนแห่งนี้ยังคงมีซากปรักหักพังของปราสาท ในฤดูใบไม้ผลิที่นี่ก็เป็นอีกที่หนึ่งที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่ชมดอกซากุระที่งดงามมากอีกหนึ่งแห่งในคิวชู
🚩 Maizuru Park
จุดชมเมืองฟุกุโอกะวิวพาโนรามิก
🏯 พิกัดที่ 11 : ปราสาทฟุกุโอกะ จุดชมเมืองฟุกุโอกะวิวพาโนรามิก
ด้วยอากาศที่เย็นสบายกำลังดี ทำให้เราเดินเล่นในสวนสาธารณะได้เรื่อยๆ เราเดินจนมาถึงสถานที่ทางประวัติศาสตร์คือ ซากปราสาทฟุกุโอกะ และเดินขึ้นไปด้านบนสามารถมองเห็นเมืองฟุกุโอกะวิวพาโนรามิก สำหรับเราถือว่าเป็นจุดชมวิวที่มีอยู่ท่ามกลางธรรมชาติและยังเห็นเมืองฟุกุโอกะได้อย่างอิ่มเอมใจมากๆ ยิ่งถ้าป็นช่วงดอกซากุระเบ่งบานเต็มที่แล้วล่ะก็ จะน่าหลงไหลแค่ไหน สมแล้วที่เป็นที่ตั้งของปราสาทฟุกุโอกะ
🚩 Fukuoka Castle Ruins
ราเม็งข้อสอบในตำนาน
🍜 พิกัดที่ 12 : Ichiran Tenjin Nishidori ราเม็งข้อสอบในตำนาน
ตอนนี้บ่ายแก่ๆ แล้วท้องเลยเริ่มหิว เราเดินไปย่าน Tenjin มาถึงฟุกุโอกะทั้งที่ต้องได้ลองชิม "อิชิรัน" ราเม็งข้อสอบในตำนานสักครั้ง เดินเข้าไปในร้านด้วยความตื่นเต้นและตู้กดอัตโนมัติเพื่อสั่งราเมงซึ่งมีเมนูเดียว ราคาเดียว 980¥ (232บาท)
พนักงานแจกกระดาษข้อสอบให้เราในระหว่างที่ยืนรอคิว กระดาษที่ว่าคือคอมเม้นท์เพิ่มเติมต่างๆ ของราเมงที่เราสั่งไป เช่น เพิ่มเส้น เพิ่มชาชู หรือ ไข่ ระดับความเข้มข้ม น้ำมัน กระเทียม ต้นหอม ชาชู ความเผ็ด รวมไปถึงความนุ่มของเส้น แล้วเดินเข้าไปนั่งในช่องที่ว่างได้เลย
อันที่จริงเราไม่ค่อยสายราเม็งเท่าไหร่ แต่รสชาติของราเม็งร้านนี้ อร่อยสมคำร่ำลือจริงๆ ทั้งเส้นที่นุ่ม น้ำซุปหอม รสชาติเข้มข้น ทุกอย่างลงตัวกลมกล่อมมากๆ บอกได้เต็มปากว่าอร่อยจริง ไม่ได้อวย
I🚩 Ichiran Tenjin Nishidori
⏰ เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 10:00-7.00 น.
Momochi Seaside Park
🏝️ พิกัดที่ 13 : Momochi Seaside Park เดินเล่นชายหาด
ออกไปเดินเล่นต่อที่สวนสาธารณะโมโมชิที่อยู่ติดริมทะเลฮากาตะ ในวันสุดท้ายก่อนกลับ มาถึงจะมองเห็นอาคารโมเดิร์นสไตล์ยุโรปยื่นออกไปสู่ทะเล สามารถเดินเลียบไปตามชายหาด นั่งพักผ่อนริมทะเล มีร้านค้า ร้านอาหาร
🚩สวนสาธารณะริมทะเลโมโมชิ Momochi Seaside Park
🚊 การเดินทาง :
- ขึ้นรถบัสจาก Tenjin Expressway ลง Fukuoka Tower Minamiguchi 15นาที 240¥ (58บาท)
ชมแสงไฟหอคอยฟูกุโอกะยามราตรี
🗼 พิกัดที่ 14 : Fukuoka Tower ชมแสงไฟหอคอยฟูกุโอกะยามราตรี
นั่งฟังเสียงคลื่นทะเลจนมืด หันกลับไปด้านหลังก็จะเห็นแลนด์มาร์คแห่งฟุกุโอกะที่สูงตระหง่านนั่นคือ หอคอยฟุกุโอกะ (Fukuoka Tower) เป็นตึกริมทะเลที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น ถ้าขึ้นไปด้านบนจะสามารถชมวิวเมืองฟุกุโอกะและอ่าวฮากาตะได้แบบ 360 องศา แต่วันนี้แค่ได้นั่งมองแสงไฟที่ส่องสว่างจากหอคอยก็มีความสุขอิ่มเอมใจแล้ว
Traveloka
✈ บินไปฟุกุโอกะง่ายๆ ผ่านTraveloka
เราจองตั๋วเครื่องบินผ่านแอป Traveloka https://www.traveloka.com/th-th/ ถึงไม่มีบินตรงจากเชียงใหม่ไปฟุกุโอกะ แต่ Traveloka ก็จัดแมทช์สายการบิน จัดไทม์ไลน์ในการเปลี่ยนเครื่อง ไม่ต้องนั่งคำนวณเวลาเปลี่ยนเครื่องเองให้ยุ่งยาก ไม่ตกเครื่องแน่นอน
เราได้ตั๋วไป-กลับเชียงใหม่-ฟุกุโอกะ มาในราคา 15,xxxบาท/คน บินเชียงใหม่-กรุงเทพ (1ชม.15น.) เปลี่ยนเครื่อง กรุงเทพ-ฟุกุโอกะ (5ชม.30น.)
ทริปนี้เราบินเกือบครบทุกสายการบิน ไปด้วย Vietjet กลับไทยด้วย AirAsia กลับเชียงใหม่ด้วย Nor Air จองเสร็จจ่ายเงิน ไม่ถึงกี่นาทีตั๋วเครื่องบิน E-Ticket ก็ส่งตรงมายังอีเมลเลย แยกขาไป ขากลับแต่ละสายการบินอย่างชัดเจนสะดวกมากๆ เหลือเวลาจัดกระเป๋า วางแผนการเดินทางเหลือๆ
YouTrip
💴 บัตร YouTrip
มาญี่ปุ่นควรพกบัตร Prepaid Mastercard สักใบ ข้อดีของบัตรประเภทนี้ ช่วยลดความเสี่ยงจากการพกเงินสดระหว่างเดินทางในต่างประเทศ และสามารถช่วยให้วางแผนและเห็นยอดการใช้จ่ายได้ย้อนหลัง แต่ก็ควรมีทั้งเงินสดสักเล็กน้อยเพื่อไว้ใช้จ่ายร้านอาหาร ร้านค้าทั่วไป, รถบัส, อื่นๆ โดยสามารถกดเงินสดจากตู้ ATM ได้จากบัตรใบนี้เลย
เรากดสมัครบัตร YouTrip ก่อนมาญี่ปุ่น 2 อาทิตย์
- โหลดแอป YouTrip ติดเครื่อง
- บัตรลิงค์กับแอปบัญชี Kbank ของเรา
- เติมเงินไทยเข้าแอป แลกเปลี่ยนเป็นสกุลเงิน JPY
ได้ตามเรทค่าเงินวันนั้น เก็บไว้ในแอป
-ใช้ได้กับร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ ทั่วโลกที่รองรับ Mastercard®
- ใช้จ่ายเป็นสกุลเงินต่างประเทศกว่า 150 สกุลเงิน
- กดเงินสดที่ตู้ ATM และ 7-11 ได้ด้วย ไม่มีค่าธรรมเนียมอีกด้วย
- ชอบสุดๆ คือเงินเหลือสามารถแลกกลับเป็นเงินไทยได้
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://support-th.you.co/hc/th
AIS Roaming
📞 ซิมการ์ด / อินเตอร์เน็ต
เราเช็คราคาซิมการ์ดและ eSIM จากแอปอื่นๆ แล้วราคาพอๆ กัน ด้วยความที่เราใช้เบอร์โทรศัพท์ของค่าย AIS อยู่แล้วเลยเข้าไปเช็คโปรโมชั่นที่แอป AIS ในเครื่องดูสักหน่อย เลือกแพ็กเกจโรมมิ่ง> ประเทศญี่ปุ่น > Spacial Ready2Fly Japan NonStop DataRoam 128GB (10day) ราคา 399 บาท (ราคาไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
ตอนขึ้นเครื่องเห็นแพ็คเกจนี้ที่สนามบินเหมือนกัน ราคา 399 บาทรวมภาษีแล้ว เราไม่อยากเปลี่ยนซิมไปมาให้ยุ่งยากเลยสมัครจากแอปเลย สามารถตั้งเวลาเริ่มได้การใช้งานได้ด้วยเราไปญี่ปุ่น 9 วันใช้งานเต็มที่ไม่ว่าจะ Google Map โพสต์สตอรี่ อัพรูป facebook / instagram ใช้อย่างเต็มที่ ใช้เสร็จก็ทำเป็นโหมดเครื่องบินไว้ รูปสุดท้ายเป็นวันสุดท้ายที่เราใช้งานอินเตอร์เน็ตที่ญี่ปุ่น ก็ยังเหลือๆ กลับมาไทยก็ไม่ต้องเปลี่ยนซิมการ์ดด้วย
กดลิงก์ด้านล่าง เพื่อโหลดแอป YouTrip https://youtrip.onelink.me/3xWB/ofvljkr9
Currency Converter Calculator
💸 แอปคำนวณค่าเงินง่ายๆ
ชื่อแอป "Currency Converter Calculator" สามารถคำนวณค่าเงินสกุลเงินต่างๆตามความผันผวนของสกุลเงิน ใช้ได้กับค่าเงินหลายประเทศเลย ตอนที่เราไปเวียดนามก็ใช้แอปนี้ แค่เลือกเงินสกุลที่ต้องการแปลงเป็นเงินสกุลไทย หลังจากนั้นตอนไปช้อปปิ้ง เข้าร้านอาหาร ราคาตั๋วต่างๆ แค่พิมพ์จำนวนเงินในช่องเงินเยนก็จะแปลงเป็นเงินสกุลไทยให้เราได้ตัดสินใจง่ายๆ เราว่าสะดวกมากๆ ใช้งานตลอดทั้งทริปเลยทำให้เวลาจะสั่งอาหาร ซื้อของ ทำให้ได้ทราบราคา ตัดสินใจได้เร็วขึ้น เซฟเวลาได้เยอะเลย
กดลิงก์ด้านล่าง เพื่อโหลดแอป Converter
ซื้อตั๋วรถบัสที่สนามบินไปสถานีฮากาตะ
🇯🇵 ซื้อตั๋วรถบัสที่สนามบินไปสถานีฮากาตะ
เช้าวันใหม่ที่สนามบินฟุกุโอกะในเวลา 5:30น. ของญี่ปุ่น สนามบินกระทัดรัดน่ารัก ออกจากเก็ทก็เดินตรงออกมากดเงินสดติดตัวไว้ 20,000¥ (4,825บาท) และเดินไปซื้อบัตรโดยสารรถบัสที่ตู้ขายบัตรซึ่งอยู่ข้างๆ เคาน์เตอร์ Information เพื่อไปยังสถานีฮากาตะ เราจะไปแลกตั๋วรถไฟ JR Pass กัน บัตรโดยสารราคา 270¥/คน (65 บาท/คน) นั่งรถบัสชมวิวเมืองระหว่างทางเพลินๆ เพียง 10 นาทีก็ถึงสถานีฮากาตะ
JR Kyushu North Rail Pass
🚄 วิธีแลกบัตร JR Kyushu North Rail Pass
ก้าวแรกที่มาถึง ก็มึนงงนิดหน่อย เพราะไม่รู้ว่าจุดแรกบัตร JR Pass อยู่แห่งหนใด เดินงมอยู่นาน ก็เจอจุดแลกบัตรสักที (ปักพิกัดไว้ด้านล่าง) เราจองบัตร JR Kyushu North Rail Pass (คิวชูเหนือ) 5 วัน ราคา 3,700 บาท/คน (ราคาขึ้นอยู่กับวันที่ซื้ออีกทีนะ) ระหว่างยืนต่อคิวจะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเช็คเอกสารการจองของเรา
เอกสารที่ต้องเตรียมไปแลกบัตร :
- เอกสารการจอง JR Pass (พิมเอกสาร)
- เอกสารการจองที่นั่งไปยุฟุอิน (พิมเอกสาร)
- พาสปอร์ตเล่มจริง
- บัตรเครดิตใบจริงที่เราใช้ชำระ
เราคงต้องฝากกระเป๋าใบใหญ่ไว้ที่ล็อคเกอร์ในสถานีฮากาตะก่อน เลือกตู้ตามขนาดกระเป๋าของเราได้ที่ตู้ราคา 500¥/วัน (122บาท/วัน) ส่วนตู้ล็อคเกอร์มีกระจายทั่วสถานีฮากาตะ หาไม่ยากเลย
🚩 JR-Kyushu Hakata Station Ticket Office
⏰ เปิดบริการ : 07:00 - 21:00 น.
สำหรับเราทริป 9 วัน เมืองฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่นครั้งนี้ ถือว่าเป็นเมืองที่มีครบมากๆ เกินกว่าจิตนาการของเราจริงๆ ด้วยความที่เป็นเมืองใหญ่ที่ไม่วุ่นวาย การเดินทางในเมืองและออกไปนอกเมืองสะดวก มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ไม่ว่าจะเป็นทั้งภูเขา ทะเล เกาะเล็ก เกาะใหญ่ เกาะแมว เกาะดอกไม้ และยังมีวัด ศาลเจ้าที่ประวัติศาสตร์สำคัญของญี่ปุ่นให้ศึกษาอีกด้วย
เรื่องอาหารการกิน ก็มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งร้านอาหารยะไตแบบสตรีทฟู๊ดที่หาทานได้แค่ที่เมืองฟุกุโอกะที่เดียวเท่านั้น อีกทั้งรสชาติอาหารก็ยังถูกปากคนไทยอย่างเรามากๆ จากที่เฉยๆ กลายเป็นชอบและสนใจอาหารญี่ปุ่นมากขึ้น
ขนาดทริปนี้เราเปิดประสบการณ์ไปเพียงแค่ 2 เมือง ในวงรัศมีแคบๆ เท่านั้น รู้สึกประทับใจในการตัดสินใจในครั้งนี้จริงๆ แต่ตอนนี้ต้องกลับไทยไปเมคมันนี่ แล้วเราจะกลับมาอีกครั้งนะ ญี่ปุ่นเมืองมินิมอลในใจฉัน
ญี่ปุ่นครั้งเดียวไม่เคยพอ ท่องเมืองฟุกุฟูใจ
Fukuoka Japan 🇯🇵
- 194
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
